ยกเครื่อง'ประกันสังคม' แก้ปัญหาติดหนี้-จ่ายช้า

วานนี้ (10 พ.ย.) นายจัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน และหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมทั้ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยและผู้ก่อตั้งพรรคฯ ร่วมจัดประชุมเรื่อง “ทิศทางการประกันสังคมในประเทศไทย” ระดมความคิดเห็นจากกลุ่มผู้ประกอบโรงพยาบาลในระบบประกันสังคม และประชาชน ร่วมแสดงข้อเสนอนแนะการพัฒนาระบบประกันสังคม 

โดยนายสุเทพ ได้กล่าวเปิดงานการประชุมว่า "ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครปช. พวกเราภูมิใจมากที่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรคฯ ที่มีความรู้ด้านการเงินการคลัง ได้รับแต่งตั้งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ รมว.แรงงาน ดังนั้นตนค่อนข้างมั่นใจว่าอนาคตกองทุนประกันสังคมจะมีเสถียรภาพมีโอกาสเติบโตขึ้นเป็นหลักประกันของประเทศชาติได้ เมื่อนายจัตุมงคล ได้ปฏิบัติหน้าที่ รมว.แรงงาน หลังจากได้ยินว่ากระทรวงติดหนี้การประกันสังคม กับโรงพยาบาลมากขณะที่กองทุนประกันสังคมมีเงินถึง 2.1 ล้านล้านบาท โดยสิ่งแรกที่ รมว.แรงงานสั่งการไปคือ ให้นำเงินชำระหนี้ชุดแรกแล้วประมาณกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่ง รมว.แรงงาน ก็จะทำเรื่องนี้ต่อไป"

ทั้งนี้เชื่อว่าในยุคนี้จะได้เห็นความฉับไวในการแก้ปัญหา เช่นเรื่องหนี้ของระบบประกันสังคม ขณะที่ต่อไปเมื่อโรงพยาบาลบริการเสร็จรักษาเสร็จ ภายในเดือนนั้นก็สามารถมารับเงินจากกองทุนประกันสังคมได้ก่อน 90% อีก 10% ต้องรอตรวจสอบก่อนแล้วเดือนถัดไปก็มารับ 10% นั้นพร้อมกับยอด 90% ของเดือนใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีมากที่ รมว.แรงงาน แก้ปัญหาระบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ด้าน ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวถึงการแก้ปัญหาที่มีการชำระเงินประกันสังคมล่าช้า ให้กับโรงพยาบาลที่ร่วมงานประกันสังคมว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดคือเรื่องของการหมุนเวียนเงินสด โดยที่การเริ่มงานประกันสังคมเมื่อ 34 ปีที่แล้วแรกๆ อาจจะยังไม่ค่อยมีเงิน ก็เก็บมาเรื่อยๆ จน 30 กว่าปีเริ่มมีเงินสะสมแต่ยังจ่ายช้า

ดังนั้นในการแก้ปัญหาเห็นว่าเมื่อมีเงินอยู่พอชำระก็ให้ทยอยชำระให้เร็ว ซึ่งโรงพยาบาลก็เป็นสถานที่ที่มีความน่าไว้ใจได้ เมื่อกองทุนประกันสังคม มีเงินที่เก็บมาจากผู้ประกันตนอยู่ ตนคิดว่าให้โรงพยาบาลนำบิลมาแสดงแล้วจ่ายเงินให้ก่อนจะ 100% หากทำได้ทันที หรือจ่ายบางส่วน 90% แล้วเดือนต่อไปเคลียร์เอกสาร จากนั้นจ่ายส่วนที่ขาดของเดือนเก่า บวกกับเงินของเดือนใหม่ 90% ที่ผ่านมาอาจจะเกิดเป็นปัญหาว่าข้าราชการยังไม่กล้าจ่าย เพราะกลัวว่าจะเหมือนยอดหายแล้วจะกลายเป็นความผิด ขณะที่การแก้ปัญหาด้วยการชำระเงินก่อนบางส่วน 90% นั้นแล้วค่อยมาตรวจเอกสารเคลียร์กันภายใน 1 เดือนจะทำให้ผู้ประกอบการมั่นใจ 

ขณะที่ นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า บนพื้นฐานของแนวนโยบาย รมว.แรงงานที่ได้มอบไว้ชัดเจนเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ทุกอย่างชัดที่เราจะต้องขับเคลื่อนภายใต้บริบทที่สำนักงานประกันสังคมมีกรอบอำนาจหน้าที่ ซึ่งตนได้แปรนโยบายออกมา 4 มุมมอง 1. มุมมองในฐานะคู่ค้าหรือผู้รับบริการซึ่งส่วนนี้คือประชากรส่วนใหญ่ที่สำนักงานประกันสังคมมีหน้าที่ต้องในการให้บริการ 2.เรื่องความมั่นคงในสถานะการเงินของกองทุนประกันสังคม 3.มุมมองเรื่องกระบวนการบริหารภายในของสำนักงานประกันสังคม  และ4. มุมมองที่เราจะต้องเดินไปข้างหน้าเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อสำนักงานประกันสังคมคือเรื่องการสร้างกระบวนการเรียนรู้และกระบวนการพัฒนา 

ส่วนเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เราจะพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้สอดรับ ที่จะสามารถติดต่อสื่อสารกับทุกองค์กรได้ภายใต้ความรวดเร็วและการบริการประชาชน ขอย้ำว่าผู้นำของหน่วยในสำนักงานประกันสังคมเข้าอยู่ในระบบฮอตไลน์ หากมีปัญหาไม่ว่าจะอยู่ในภาคใดนอกจากตนจะรับรู้รับทราบแล้วก็ยังจะมีเจ้าภาพที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน 

ทั้งนี้ตนก็ยังมีแนวคิดในการที่จะดำเนินโครงการจากนโยบายที่ รมว. แรงงานให้ไว้อีก 2 โครงการคือ 1.การทำให้ประชาชนคนไทยทั้งหมดได้เข้าสู่ระบบประกันสังคม ซึ่งหากเราทำให้ระบบประกันสังคมมีประสิทธิภาพ ประชาชนก็จะมั่นใจต่อการเข้าสู่ระบบและสร้างสุขภาพที่ดี แบบ Healthy และ2.จากสถิติ ที่พบว่า 90% ของผู้ประกันตน มาใช้สิทธิในโรงพยาบาลนั้นเกิดจากปัญหาอุบัติเหตุ และอุบัติภัยด้วยความที่เขาไม่รู้ดังนั้นหน้าที่ของเราส่วนหนึ่งก็คือการส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัย Social Security Network เราจะพยายามสร้างว่าในทุกหมู่บ้านจะมีผู้ที่เข้าใจระบบประกันสังคมอย่างดีอย่างน้อย 1 คน ปัจจุบันเรามี 80,000 หมู่บ้าน หากเราทำได้ก็จะเป็นเหมือนหมอประกันสังคมในการให้คำปรึกษาเบื้องต้น ทั้งนี้หากทำได้ตามที่ตั้งเป้าไว้นี้แนวคิดเรื่องการสร้างประกันสังคมถ้วนหน้าก็จะเกิดขึ้นได้กับสังคมไทย