เปิดตัว “คอร์ท มาร์แชล” ปิดช่องโหว่ยิงกันกลางศาล
2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุลักลอบนำอาวุธไปก่อเหตุใช้ความรุนแรงภายในบริเวณศาลถึง 2 คดี
ย้อนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกิดเหตุผู้ต้องขังคดียาเสพติด 3 คน ใช้อาวุธมีดที่มีผู้ลักลอบนำเข้าไปบริเวณหน้าห้องคุมขังผู้ต้องหาและจำเลย ที่ ศาลจังหวัดพัทยา ก่อนใช้อาวุธมีดแทงตำรวจศาลได้รับบาดเจ็บก่อนหลบหนีไป สุดท้ายถูกตามรวบได้ยกแก๊ง
เมื่อเช้าวาน เกิดเหตุคู่ความลักลอบนำอาวุธปืนเข้าห้องพิจารณาคดี แล้วก่อเหตุยิงทนายความเสียชีวิต 2 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย ก่อนจะถูกตำรวจศาลใช้อาวุธปืนประจำกายยิงสกัด เพื่อระงับเหตุ
ล่าสุดทางเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม สั่งกำชับให้ตรวจเข้มการลอบนำอาวุธเข้าไปในบริเวณศาล พร้อมกับเตรียมเพิ่มกำลัง “คอร์ท มาร์แชล” ซึ่งเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยของศาลยุติธรรม ที่ปัจจุบันมีเพียง 35 คน ส่วนใหญ่ประจำการอยู่ในศาลกรุงเทพ ให้ครบ 300 คน เพื่อส่งไปประจำการในศาลทั่วประเทศ
สำหรับการดูแลความเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณศาล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม บอกว่า มีด้วยกัน 3 ส่วน คือ
- ส่วนควบคุมผู้ต้องขัง จะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จากกรมราชทัณฑ์รับผิดชอบ
- เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่แต่ละศาล ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมดูแลความปลอดภัยบริเวณศาล
- ในส่วนของศาลเอง มีเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่จัดสรรการจ้างมาจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) ซึ่งไม่มีอาวุธประจำกาย จะดูแลความเรียบร้อยทั่วไปบริเวณศาล
จะเห็นได้ว่า กำลังของศาลเองจริงๆ คือ รปภ.ที่จ้างมาจาก อผศ.เท่านั้น เหตุนี้เองทางสำนักงานศาลยุติธรรม จึงได้ก่อตั้ง“หน่วยเจ้าพนักงานตำรวจศาล” หรือ “คอร์ท มาร์แชล” มาทำหน้าที่เพื่ออุดช่องโหว่ตรงจุดนี้
ปัจจุบันนี้ มีข้าราชการหน่วยงานที่รับโอนมาผ่านการฝึกอบรม พร้อมปฏิบัติหน้าที่แล้วทั้งสิ้น 35 ราย โดยในปี 2563 จะคัดเลือกบุคคลให้ได้อย่างน้อย 300 คนเพื่อกระจายไปประจำการยังศาลภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ที่มีอยู่ 275 ศาล ศาลละ 1-2 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัยของศาลต่างๆ ด้วยความเข้มงวดรัดกุม
กว่าจะมาเป็นเจ้าพนักตำรวจศาล รุ่นที่ 1 ของสำนักงานศาลยุติธรรม จำนวน 35 นาย นั้นเจ้าพนักงานตำรวจศาลต้องทำการฝึกฝนอย่างหนักและเข้มข้น ทั้งต้องทดสอบสภาพร่างกายจิตใจในสถานการณ์ที่กดดัน การฝึกหลักสูตรยุทธวิธีการต่อต้านการก่อการร้าย การวิเคราะห์ข่าวกรอง เทคนิคการสืบสวน การวางแผนตรวจค้นจับกุม รวมถึงรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ นอกจากนี้ ยังเสริมเขี้ยวเล็บฝึกการต่อสู้ และใช้อาวุธปืนชนิดต่างๆ ตามหลักสากล
โดยตำรวจศาลทั้ง 35 นายนั้น จะประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน เช่น
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่ผ่านการคัดเลือกและโอนย้ายเข้ามาสังกัดเจ้าพนักงานตำรวจศาล
หลังจากฝึกอบรมจบหลักสูตรเจ้าพนักงานตำรวจศาล ได้เข้ารายงานตัวต่อเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อเข้าปฏิบัติงาน ภารกิจหลักคือ ดูแลความปลอดภัยพื้นที่ศาล อารักขาผู้พิพากษา รวมถึงติดตามผู้ต้องหา หรือจำเลยที่หนีหมายจับ
ระหว่างที่ยังได้อัตรากำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาลไม่ครบจำนวน ทางศาลจะจัดกำลังเท่าที่มีกระจายไปยังศาลภูมิภาคเท่าที่จำเป็นก่อน โดยภายในวันที่ 15 พ.ย.62 นี้ จะมีข้อสรุปว่า จะส่งกำลังไปประจำที่ศาลใด หลังจากนั้นก็จะทราบว่า จะต้องจัดสรรอัตรากำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาล หรือ “คอร์ท มาร์แชล” ในศาลใดบ้าง จำนวนเท่าใด และจะให้มีการหมุนเวียนประจำการอย่างไรบ้าง
ปัจจุบันผู้บังคับบัญชาสูงสุดของ “คอร์ท มาร์แชล” คือ ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัย สำนักงานศาลยุติธรรม นายเหรียญทอง เพ็งพา
ก็ได้แต่หวังว่า เมื่อกำลัง “คอร์ท มาร์แชล” ได้รับการบรรจุครบถ้วน และส่งไปประจำยังศาลทุกศาล จะช่วยหยุดยั้งความสูญเสียไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกต่อไป
อ่านข่าว-ยิงสนั่นห้องบัลลังก์ศาลจันทบุรี ดับ 3 เจ็บ 2 ราย