นายกฯลั่นสร้างประเทศต้อง 'คิดใหม่ ทำใหม่' เซ็งงบฯ63ยังไม่คลอดให้ใช้

เมื่อ‪วันที่ 13 ธ.ค. 62 ที่ จ.นครปฐม บริเวณโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองฯ ระยะทางรวม 96 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกับภาคตะวันตกหลังจากดำเนินการล่าช้ามา 2 ปี เนื่องจากติดปัญหาเป็นพื้นที่ของประชาชน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นประธานมอบเงินค่าเวนคืนที่ดินเพื่อเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนในโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองฯ ให้กับตัวแทนประชาชนจำนวน 10 คน

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ได้มาพบปะประชาชน โดยมีทั้งฝ่ายรัฐบาล ส.ส. ส.ว. ซึ่งทุกคนมีหน้าที่ในการดูแลประชาชนให้มีความสุข และพึงพอใจกับการปฏิบัติงาน อย่าง นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม ถือเป็นน้องใหม่ โดยวันนี้มายืนยันถึงการเดินหน้าของรัฐบาลในการก่อสร้างเส้นทางคมนาคมทั้งของเก่าและของใหม่ ทั้งที่วางแผนไว้และที่มีปัญหาอยู่ วันนี้รัฐบาล ส.ส. และ ส.ว. มีหน้าที่ดูแลประชาชนให้พึงพอใจการปฏิบัติงาน ส่วนค่าเวนคืนที่ดินประชาชนก็รอมานาน รวมถึงรัฐบาลก็รอมานานเช่นกัน ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วมาจนถึงรัฐบาลนี้ ทราบว่าโครงการทั้งหมดจะแล้วเสร็จในปี 66 จึงหวังว่าทำกว่านี้เร็วกว่านี้ได้ก็จะดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินโครงการต่างๆ ของรัฐบาลสิ่งสำคัญคือความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และประชาชน ไม่ใช่รัฐบาลมีเงินอย่างเดียวแล้วสามารถทำได้เลย เพราะถ้าไม่ผ่านประชาชนก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้น ต้องมีการเสียสละและพิจารณาว่าโครงการต่างๆ มีความจำเป็นหรือไม่ โดยประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่ดีมากของโลก เราต้องนำศักยภาพเหล่านี้มาใช้ ซึ่งเราลำบากกันมาเยอะแล้ว ดังนั้น จะทำอย่างไรไม่ให้ลูกหลานของเราลำบากในวันหน้า

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้การสร้างความเข้าใจถือเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่ารัฐบาล ส.ส. ส.ว.หรือฝ่ายต่างๆ ต้องสร้างประเทศของเราใหม่ คิดใหม่ ทำใหม่ อย่าเคยชินกับสิ่งเดิมๆ มันจะอยู่ลำบากในอนาคต วันนี้เรายังพออยู่ได้ แต่ทุกอย่างจะยากขึ้นเรื่อยๆ หลายอย่าง หลายคนได้รับผลกระทบ แต่ขอให้รู้ว่า รัฐบาลร้อนใจยิ่งกว่าพวกท่าน และจำเป็นต้องหารายได้เพิ่มเติม เพื่อมาดูแลสิ่งต่างๆ ที่ทุกคนเดือดร้อน แต่ต้องยอมรับว่า รายได้วันนี้เรามีปัญหาจากภายนอก ซึ่งกำลังแก้ไขอยู่ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จะจมอยู่กับสิ่งเดิมไม่ได้ รัฐบาลนี้จึงมุ่งสร้างโอกาสให้แก่ทุกคน ให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรม ซึ่งในบางเรื่องที่มีผลกระทบทำให้คนอื่นเดือดร้อน ประชาชนร้อนใจ แต่รัฐบาลร้อนใจยิ่งกว่าเพราะต้องหารายได้มาเพิ่มเติมในสิ่งที่คนเดือดร้อน และวันนี้หากจมแต่เรื่องเดิมๆ โอกาสก็จะหายไป

“ทุกคนต้องคิดตามรัฐบาล อย่ามัวไปวิ่งไล่ตามผม หรือไม่ต้องมาไล่ผมหรอก ขอให้ไล่ตามว่าผมพูดอะไร คิดอย่างไร เพราะวันนี้ทุกคนต้องรวมพลัง มีความรัก ความสามัคคี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมก่อนประโยชน์ส่วนตน แล้วจะได้ทุกอย่าง ทั้งนี้ ถ้าจะให้เราเป็นรัฐบาลใจดี ตามใจมากๆ วันข้างหน้าเราจะกลายเป็นรัฐล้มเหลวทันที เพราะงบประมาณจะไม่เพียงพอ หนี้สาธารณะเพิ่ม ถ้าเราไม่พูดกัน ก็ไม่ทราบ จะมองว่ารัฐบาลเอาเงินไปทำอะไรหมด แล้วก็จะไปสู่เรื่องการทุจริต อย่างวันนี้ผมก็ขอให้จ่ายเงินชดเชยให้เร็วที่สุด ในเมื่อเงินมันมี ก็แจกให้มันเร็ว ไม่ใช่มัวไปนั่งรอตามกำหนด แต่ขอร้องว่าเมื่อได้เงินแล้วก็อย่ารีบใช้จนหมด แต่ต้องยอมรับว่าแต่ละคน ได้รับเงินไม่เท่ากัน ซึ่งก็เป็นตามระบบของการค้าเสรี ใครมีเท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น และใครผิดก็ว่ากันไปตามผิด อย่ามาใจร้อนกันทุกเรื่องไป ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่เขาทำงานกันบ้าง ถ้าตัดสินกันเองหมด ก็คงไม่ต้องมีศาล ไม่ต้องมีตำรวจ หรืออัยการ ต้องปล่อยให้กระบวนการเขาตัดสินกันออกมา แล้วทุกอย่างก็จะเรียบร้อยกันเองตามแนวปฏิบัติที่มีอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ผมดีใจที่ได้มาเจอกัน จะได้พูดตรงกัน เพราะบางครั้งผมเจอคนที่อยู่ในแวดวงการเมือง ก็พูดกันว่าบางเรื่องผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย วันนี้เราจะได้รู้พร้อมกัน และทุกอย่างที่ผมพูดไปมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน สามารถตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็นในเว็บไซต์ไทยคู่ฟ้า หรือคำกล่าวของนายกฯ ทั้งหมด สามารถดูได้ว่า 5 ปีที่ผ่านมาผมพูดอะไรบ้าง และไม่มีอะไรบิดพลิ้วจากสิ่งที่พูด เพราะทุกอย่างผมได้ศึกษาและรัฐบาลก็นำไปปฏิบัติ แต่บางครั้งก็อาจจะตามผมไม่ทัน อย่างวันนี้ ทุกคนก็ต้องช่วยกันคิด ผมไม่ได้เก่งกว่าท่าน พวกท่านเก่งกว่าผมเยอะ หลายอย่างผมทำไม่ได้ แต่ผมสามารถจะบริหารให้ทุกคนได้ประโยชน์ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้เราต้องเป็นสังคมแห่งการพึ่งพาอาศัยต่อกัน ต้องมีความปรองดองซึ่งกันและกัน ลดความขัดแย้ง ลดความบิดเบือน วันนี้ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่สามฝ่ายได้ทำงาน ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลากร เพราะนี่คืออำนาจตามรัฐธรรมนูญของประชาชนทุกประการ และวันนี้ที่เดินทางมา และนั่งอยู่ในที่นี่ก็มาตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทั้งสิ้น ขอร้องว่าอย่าให้เสียเวลากันอีกต่อไปเลย อย่าปล่อยให้ทุกอย่างล้าช้าออกไปอีก ถ้ายังวุ่นวาย แล้วเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลไม่มีอีก แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างก็ต้องหยุดหมด

“วันนี้แค่รายจ่ายงบประมาณปี 63 ก็ยังไม่ออก ทำให้การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลช้าไปอีกหลายเดือน เงินก็ไม่ไหลลงมา โครงการต่างๆ ก็เกิดขึ้นไม่ได้ แรงงานก็ไม่ออก ค่าจ้างก็ต้องหยุดหมดทุกอัน นี่คือปัญหาความล่าช้าของพ.ร.บ.งบปีงบประมาณ 63 อีกทั้ง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเตรียมการงบประมาณปี 63 แล้วยังจะมีความเคลื่อนไหว ให้มีการยกเลิกงบประมาณเข้าไปอีกให้รัฐบาลไปๆ เสีย ซึ่งผมคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา ขอให้ทำงานทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน วันนี้รัฐบาลเพิ่งเข้ามา 4-5 เดือนเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องดูกันว่า ปัญหามันอยู่ตรงไหน มันอยู่ที่ทุกคน ที่จะต้องช่วยกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว