'รองโฆษกพปชร.' แฉสัมพันธ์ 'วิ่งไล่ลุง-อนาคตใหม่'
“รองโฆษกพปชร.” ชี้พิรุธ กมธ.กฎหมาย รีบร้อนเค้นตำรวจแจงขวาง "วิ่งไล่ลุง" โยงสัมพันธ์ "อนาคตใหม่" พบผู้จัดลักไก่เปิดรับสมัครเก็บเงินก่อนได้รับอนุญาต แถมเงินรายได้ไม่ชัดเอาไปให้ใคร
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ หรือ “อ้น” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และอดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบ.ชน.) เข้าชี้แจงกรณีถูกร้องเรียนว่ามีการใช้อำนาจในการแทรกแซงการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวงานวิ่งไล่ลุงว่า เมื่อพิจารณาโครงสร้างของกมธ.ชุดนี้แล้ว จะพบว่ามีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นประธาน น.ส.พรรณิการ์ วานิช เป็นรองประธาน และนายรังสิมันต์ โรมเป็นโฆษก กมธ. จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่า กมธ.ชุดนี้ดำเนินการสองมาตรฐานหรือไม่ เพราะมีการเร่งรัดเรื่องร้องเรียนดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาบรรจุในวาระการประชุมอย่างรวดเร็ว และทำให้สังคมเกิดข้อกังขาว่ากมธ. มีผลประโยชน์ทับซ้อนเอื้อประโยชน์พวกพ้องหรือไม่ เนื่องจาก น.ส.พรรณิการ์ ได้รับข้อร้องเรียนเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 62 เวลา 10.37 น. และในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา กมธ. ได้ออกหนังสือ “ด่วนที่สุด” ที่ สผ 0018.10/1752 ลงวันที่ 12 ธ.ค. 62 เชิญนายธนวัฒน์ วงค์ไชย ผู้แทนจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง เข้าร่วมประชุม จะเห็นได้ว่ามีความพยายามดำเนินการอย่างรวดเร็ว จึงมีคำถามว่ากับข้อร้องเรียนเรื่องอื่นๆในกมธ. จะดำเนินการรวดเร็วเช่นนี้หรือไม่ เป็นการดำเนินการสองมาตรฐานหรือไม่
“หรือเป็นเพราะในกิจกรรมนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้แสดงออกชัดเจนว่าสนับสนุนกิจกรรม และสังคมก็ยังคงเคลือบแคลงว่านายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่อาจเป็นผู้จัดงานวิ่งนี้ขึ้นโดยใช้เยาวชนเป็นตัวแทนผู้จัด อีกทั้งเมื่อวานนี้ (25 ธ.ค. 2562) นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หนึ่งในเยาวชนที่เป็นผู้นำจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงได้เข้าร่วมประชุมพิจารณาศึกษาและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ของ กมธ. ชุดดังกล่าว ซึ่งชัดเจนว่านายทัตเทพเป็นทั้งสมาชิกพรรคอนาคตใหม่และเป็นว่าที่ผู้สมัครกรรมการเครือข่ายคนรุ่นใหม่ สัดส่วนภาคกลางและเยาวชนผู้มีความหลากหลายทางเพศของพรรคอนาคตใหม่ ดังนั้น ประชาชนจึงเกิดความสงสัยว่าการเร่งดำเนินการของ กมธ. ชุดนี้ อาจเป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้องหรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่” น.ส.ทิพานัน กล่าว
รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวต่อว่า เมื่อตนได้ดูคลิปวีดีโอเผยแพร่การประชุมของกมธ. ที่พิจารณาในเรื่องดังกล่าว พบว่า ผู้แทนผู้จัดดำเนินการยื่นหนังสือขออนุญาตต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2562 ระหว่างรอผลการพิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่ ผู้จัดกลับทำการเปิดรับลงทะเบียนสมัครไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 62 โดยได้ให้โอนเงินค่าสมัครรายละ 600 บาทเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขา สยามพารากอน ชื่อบัญชี ธนวัฒน์ วงค์ไชย ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าผู้จัดงานดำเนินการก่อนได้รับอนุญาต เป็นเพราะขาดความรอบคอบในการวางแผนจัดงานหรือเจตนาที่จะฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อให้เกิดภาพการขัดขวางของเจ้าหน้าที่กันแน่ การเปิดให้ลงทะเบียนสมัคร 8,000 คนทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รับการอนุญาตให้จัดงาน หากมีข้อผิดพลาดผู้จัดงานจึงมีหน้าที่โดยตรงที่ต้องรับผิดชอบต่อผู้ลงทะเบียนสมัคร ผู้จัดไม่สามารถโยนว่าเป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐขัดขวาง
“สังคมต้องตั้งสติกับกรณีที่เกิดขึ้น พิจารณาข้อเท็จจริง เพราะเมื่อฟังคำชี้แจงพร้อมเหตุผลจากตัวแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว เห็นได้ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้อำนาจกลั่นแกล้งหรือขัดขวางสิทธิเสรีภาพในการจัดกิจกรรมของผู้จัดตามที่มีการพยายามบิดเบือนแต่อย่างใด เพราะการวิ่งบนท้องถนนในบริเวณดังกล่าวที่เป็นบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศในวันหยุด (เช้าวันอาทิตย์) นั้น เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพที่อาจกระทบสิทธิของส่วนรวมในการจราจรและเดินทางในบริเวณดังกล่าว ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องเข้ามาจัดการเพื่อไม่ให้มีการใช้สิทธิเกินส่วนหรือกระทบแดนสิทธิของผู้อื่นในการใช้พื้นที่สาธารณะ ดังนั้นผู้จัดจึงควรทำตามกฎเกณฑ์ที่วางไว้บังคับใช้เท่าเทียมกันกับทุกคนอย่างเคร่งครัด ไม่ควรกล่าวอ้างเพียงสิทธิของตนจนอาจทำความเสียหายต่อผู้อื่นในการใช้ทางจราจรในบริเวณดังกล่าว” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า 4 เหตุผลหลักที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ชี้แจงในกรณีที่ไม่อนุญาตให้ผู้จัดงานจัดกิจกรรมดังกล่าวนั้น เป็นเพราะผู้จัดไม่ดำเนินการตามกฎระเบียบหลักเกณฑ์ เพราะ 1. ผู้ขออนุญาตไม่มีความชัดเจนว่าเป็นการจัดงานเพื่อสาธารณกุศล 2. วัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมไม่ชัดเจนเป็นไปเพื่อสาธารณกุศล อาจเป็นไปในทางการค้า ธุรกิจ หรือหาผลประโยชน์เพื่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดเป็นการเฉพาะ 3. เวลาที่ขออนุญาตมาไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่จะอนุญาตให้จนถึงเวลา 7.00 น. และ 4. เพื่อการจัดการจราจรในภาพรวมของทั้งบริเวณ กทม. ไม่ให้เกิดการติดขัด เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้เฉพาะการจัดงานในวันอาทิตย์ที่มีการจราจรเบาบางและจะพิจารณาอนุญาตจัดงานวิ่งบนพื้นผิวถนนจราจรไม่เกิน 3 กิจกรรม ซึ่งมีการอนุญาตให้ผู้จัดรายอื่นที่ได้ยื่นเรื่องขออนุญาตมาก่อนหน้าแต่เนิ่นๆ ครบแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากหนังสือขออนุญาตที่นายธนวัฒน์ วงค์ไชย เผยแพร่ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจของตนเอง เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 62 ก็สอดคล้องกับเหตุผลที่ทางตำรวจนครบาลชี้แจง โดยในหนังสือขออนุญาตระบุตำแหน่งของนายธนวัฒน์ว่าเป็น “ผู้แทนจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง” และกำหนดระบุว่า “รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปบริจาคให้องค์กรสาธารณกุศลและมูลนิธิเพื่อผู้ด้อยโอกาสและขาดแคลนตามถิ่นทุรกันดารในด้านต่างๆ รวมถึงเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานต่อไป” ซึ่งไม่มีความชัดเจนว่าจะบริจาคให้สาธารณกุศลหน่วยงานใด จำนวนเท่าใด และสัดส่วนที่จะกันไว้ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานต่อไปเป็นจำนวนเท่าใด และระยะเวลาจัดงานที่ระบุไว้ในหนังสือ 5.30 น. -7.30 น. ก็เกินกำหนดเวลาที่จะอนุญาตได้จนถึง 7.00 น. จริงตามที่ตำรวจนครบาลได้มีการชี้แจง
ส่วนกรณีที่กล่าวอ้างเทียบเคียงกับกิจกรรมอื่นที่จัดในสถานที่ปิด เช่น สวนลุมพินี นั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ผู้จัดงานวิ่งไม่สามารถเทียบเคียงและนำมาบิดเบือนข้อมูลกับสาธารณชนได้ เพราะการจัดกิจกรรมในสถานที่ปิดนั้น ไม่ได้กีดขวางการจราจรบนท้องถนน จึงไม่จำต้องขออนุญาตจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพียงติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของสถานที่ก็เพียงพอแล้ว เหมือนเช่นที่พรรคอนาคตใหม่ได้รับอนุญาตจากศูนย์การค้า เจเจ มอลล์ ในการจัดกิจกรรมอยู่ไม่เป็นเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ดังนั้นเมื่อผู้จัดงานวิ่งไล่ลุงไม่ดำเนินการตามกฎหมาย ก็ไม่ควรบิดเบือนกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจกลั่นแกล้งแต่อย่างใด
สำหรับกรณีที่เมื่อวานนี้นายธนาธร ออกมาทวิตข้อความชวนผู้ติดตามทวิตเตอร์ให้ร่วมกันชวนเพื่อนคนละ 5 คนร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงนั้น ล่าสุดพบว่า 1 ใน 5 บุคคลที่นายธนาธรเชิญชวน คือ ท็อฟฟี่ อู้วลาล่านั้นได้ทวิตข้อความเชิญชวนต่ออีก 5 คน ซึ่ง 1 ในนั้นคือ Tpagon ‘Champ’ W. ระบุว่าเป็นนักเขียน ผู้ก่อตั้ง The MATTER และเป็นคอลัมนิสต์ของ A Day และ GM ทั้งนี้ยังไม่พบการทวิตข้อความต่อแต่อย่างใด” น.ส. ทิพานันกล่าวทิ้งท้าย