'กรณ์' ลาออกประชาธิปัตย์! ลั่นลุยการเมืองต่อ แบบ 'สตาร์ทอัพ'

'กรณ์' ลาออกประชาธิปัตย์! ลั่นลุยการเมืองต่อ แบบ 'สตาร์ทอัพ'

เปิดใจร่ำลาเช้านี้! "กรณ์" ลาออกประชาธิปัตย์ ลั่นลุยการเมืองต่อ แบบ "สตาร์ทอัพ" เดินหน้ารวมพล "จอมยุทธ" ทั่วประเทศ

นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และสส.พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย ประกาศคำแถลงลาออกผ่านเฟซบุ๊ก เพจ Korn Chatikavanij โดยเปิดใจ ถึงการตัดสินใจในครั้งนี้ว่า

ขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์

ผมทำงานภาคเอกชนสายการเงินอยู่เกือบ 20 ปี ตำแหน่งสุดท้ายคือประธานธนาคาร JP Morgan (ประเทศไทย) ผมลาออกตอนอายุ 39 เพื่อมาสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออกตอนนั้นก็เพราะอิ่มตัวกับการทำงานหาเงินสร้างเนื้อสร้างตัว และอยากจะหันมาทำงานรับใช้บ้านเมือง

อ่านข่าว-'กรณ์' หลั่งน้ำตาอำลา ปชป.

157905761276


พรรคประชาธิปัตย์ได้ให้โอกาสผมตลอดมา โดยที่โอกาสสำคัญที่สุดคือการเป็นรัฐมนตรีคลังในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง และด้วยเหตุนี้ความผูกพันที่ผมมีกับพรรคและเพื่อนร่วมพรรคจึงเป็นสิ่งที่จะอยู่กับผมตลอดไป

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้ร่วมพิจารณาอนุมัติงบประมาณแผ่นดินจนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลสามารถเดินหน้าได้เต็มที่ในการขับเคลื่อนนโยบายของพรรคที่ผมได้ช่วยร่างไว้ในฐานะ (อดีต) ประธานนโยบาย ผมจึงคิดว่าผมได้ทำภารกิจที่พรรคได้มอบหมายไว้จนครบถ้วนหมดแล้ว ผมจึงได้ยื่นใบลาออกตามที่ตั้งใจไว้

ในการลาออกจากพรรคนั้น ผมขอขอบคุณมิตรภาพที่เพื่อน สส. และอดีตสส.ได้มอบให้ผม ผมจากไปจากพรรคแต่จะยังคิดถึงเพื่อนๆทุกคน แต่ที่สำคัญที่สุดผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้ให้โอกาสผมทำงานเพื่อบ้านเมือง ผมไม่มีวันลืมทุกคะแนนที่ให้ผมตั้งแต่ปี 2548 ในฐานะผู้สมัครประชาธิปัตย์ รวมถึงกำลังใจของทุกๆคนที่กรุณามอบให้ผมเสมอมา

ผมมีความฝันที่อยากจะสร้างการเมืองแห่งความเปลี่ยนแปลง การเมืองที่กล้าคิด กล้าทำ มีความรอบคอบแต่ไร้ความกลัว มีความเด็ดเดี่ยวแต่มีคุณธรรม เป็นการเมืองที่จะชวนผู้คนในสังคมไทยที่มีศักยภาพ มาร่วมกันออกแบบและขับเคลื่อนประเทศไทยไปด้วยกัน

157905762628

ตลอดเวลาที่ทำงานการเมืองมาผมได้มีส่วนร่วมกับประชาชนหลากหลายกลุ่ม ทำให้ผมได้มองเห็นประเทศไทยและสังคมการเมืองไทยในภาพที่กว้างขึ้นและลึกขึ้น ประสบการณ์เหล่านั้นทำให้ผมตัดสินใจเดินหน้าสร้างทางเลือกทางการเมืองที่คนไทยแสวงหา เป็นการเมืองที่ต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าแม้แต่จะพลั้งพลาด และเป็นการเมืองที่มั่นใจในศักยภาพของคนไทย เป็นการเมืองที่มีเป้าหมายเปลี่ยนแปลงประเทศในหลากหลายมิติ ด้วยความเชื่อว่าหากเราไม่กล้าเปลี่ยน ไม่กล้าท้าทายตัวเอง คนไทยจะลำบาก เพราะเราจะแข่งขันไม่ได้



การจะตัดสินใจสิ่งใดๆก็ตามที่เป็นก้าวที่สำคัญของชีวิตจะต้องฟังเสียงข้างในของตัวเอง แต่สำหรับนักการเมืองไม่ว่าจะก้าวเล็กหรือก้าวใหญ่ต้องมาจากการรับฟัง 'เสียงของประชาชน' อีกด้วย ดังนั้นทุกๆ ก้าวต่อไป ผมตั้งใจจะเดินไปพร้อมกับพี่น้องประชาชนทุกคน

157906826452