สั่งแบน 225 คัน จากหมื่นคันปล่อยไอเสียสร้างมลพิษ
สั่งแบน 225 คัน จากหมื่นคันปล่อยไอเสียสร้างมลพิษ
ตำรวจนครบาล เผย ตลอดเดือนมกราคม ที่ผ่านมา การตรวจสอบไอเสียเพื่อฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ส่ง มีการสั่งห้ามใช้ชั่วคราว 225 คัน จากรถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐานมากกว่า 1 หมื่นคัน ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกเกินครึ่ง ที่เหลือเป็นรถยนต์ ในจำนวนนี้สั่งห้ามใช้ไป 225 คัน พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก ชี้ จากความเข้มงวดในมาตการ การรณรงค์ เชื่อประชาชนตื่นตัวมากขึ้น เตรียมแสวงความร่วมผลักดันมาตรการให้ต่อเนื่อง
จากข้อมูลการดำเนินการจับกุมรถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ กลายเป็นฝุ่นละออง PM 2.5 ตลอดเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่าตำรวจจราจร บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จับกุมไปแล้ว 11,119 คัน ในจำนวนนี้เป็นรถบรรทุกมากถึงกว่า 7,400 คัน ที่เหลือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กกว่า 3,600 คัน ส่วนใหญ่ใช้การเปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.จราจร และแนะนำให้ไปแก้ไขปรับปรุง ขณะที่มีรถที่ต้องสั่งห้ามใช้งานชั่วคราวรวมแล้ว 225 คัน
พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่า ได้ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ไปเกือบครบทั้งหมดแล้ว เริ่มตั้งแต่การออกรณรงค์ประชาสัมพันธ์และแจกหน้ากากอนามัย ให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหา รู้จักวิธีการป้องกัน ออกแนะนำให้ความรู้กับเด็กและเยาวชนตามโรงเรียนต่างๆ ขอความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น การท่าเรือ , รฟม. หรือแม้แต่ห้างสรรพสินค้า ให้ช่วยกันควบคุมไม่ให้เกิดการสร้างฝุ่นละอองเพิ่ม ผลคือประชาชนเกิดการตื่นตัวมากขึ้น
ส่วนมาตรการต่อไป คือหลังจากที่ค่าฝุ่นละอองลดลง ก็จะร่วมกับกรมการขนส่งทางบก และกรมควบคุมมลพิษ ในการบังคับใช้กฎหมายต่อเนื่อง ในจุดที่เป็นปัญหา ส่วนจะเป็นกี่ครั้ง หรือกี่วันต่อสัปดาห์ ต้องหารือรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับบางพื้นที่ที่ตำรวจไปพบข้อมูลว่า มีค่าฝุ่นละอองส่งผลกระทบทำให้เด็กนักเรียนป่วยไม่สบาย ได้ให้ไปประสานกับทางโรงเรียน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อเข้าไปแก้ปัญหาให้ตรงจุด หากสาเหตุเกิดจากฝุ่นละออง ก็ดำเนินการป้องกัน ควบคู่ไปกับการกวดขันพื้นที่โดยรอบ บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นต่อไป