'เพื่อไทย' ยึดเวทีซักฟอกขุดทุจริตคอรัปชั่น-ความเหลื่อมล้ำทางสังคม
"ผู้กองมาร์ค" ยึดเวทีซักฟอกขุดทุจริตคอรัปชั่น-ความเหลื่อมล้ำทางสังคม อัดซ้ำยาบ้าสมัยลุงตู่ หาซื้อง่ายกว่าขนม พร้อมเสนอ 7 แผนแก้ยาเสพติด
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 63 ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ กำลังกำหนดตัวบุคคลในการอภิปราย โดยจะเน้นเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีภาพให้เห็นเป็นระยะๆ มาโดยตลอด และฝ่ายค้านเชื่อมั่นว่ามีหลักฐานพร้อมใบเสร็จเพียงพอ โดยปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 และไวรัสโคโรน่าที่รัฐบาลปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญหน้ากับปัญหานี้ทุกวินาที เพราะเราไม่สามารถหยุดหายใจได้ แต่รัฐบาลก็ยังคงไม่มีนโยบายหรือคิดหาแนวทางมาตรการในการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนเพื่อให้ ประชาชนได้คลายความกังวล
ในส่วนของเรื่องการแก้ไขปัญหาไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ก็ต้องถามรัฐบาลว่าผลที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจต่อรัฐบาลแล้วหรือ และประชาชนพึงพอใจต่อผลที่รัฐบาลแก้ไขปัญหาแล้วหรือไม่ ซึ่งในหลายๆ ประเทศได้มีมาตรการนโยบายในการแก้ไขมากมาย แต่ประเทศไทยยังไม่ได้ดำเนินการเลยจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งจากการรายงานของเว็บไซต์ thewuhanvirus.com พบว่ามีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 20,701 คน และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 427 คน จาก 28 ประเทศ ประเทศไทยยังคงครองตำแหน่งยอดผู้ติดเชื้อเป็นอันดับที่ 2 รองจากประเทศจีน ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อของประเทศไทยนั้นอยูที่ 25 คน และยังคงมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่รัฐบาลก็ยังคงนิ่งเฉยปล่อยปละละเลยปัญหานี้มาเนิ่นนาน โดยยังคงไม่มีมาตรการใดออกมาให้เป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม คงต้องขอขอบคุณ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความพยายามพาคนไทยบางส่วนกลับจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณประชาชนจีน ซึ่งถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าศูนย์ดำเนินการเองก็คงจะเห็นผลได้ดีกว่า เพราะการประสานงานเรื่องนี้ต้องใช้กำลังจากหลายกระทรวง ทบวง กรม ซึ่ง นายอนุทิน ไม่ได้มีหน้าที่กำกับดูแล จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้การดำเนินงานการป้องกันปราบปรามล่าช้าและยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร และขอทิ้งท้ายไว้ในเรื่องของขยะและปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษที่มีผลต่อสุขภาพของประชาชนคนไทย ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยถือคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนคนไทยนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างจริงจัง เพราะในขณะที่ปี 2544 ยาบ้าราคาเม็ดละ 400 บาท และปี 2554 ราคาเม็ดละ 370 บาท แต่ในปัจจุบันยาบ้ากลับราคาถูกลงจนน่าใจหาย เพราะ 3 เม็ดราคาเพียงแค่ 100 บาท จนมีคนในโซเชียลพูดว่า “ยาบ้าในปัจจุบัน สามารถซื้อหาง่ายกว่าขนมเสียอีก”
ดังนั้นทางพรรคเพื่อไทยขอเสนอ 7 แผนงานเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยเน้นงานเชิงคุณภาพให้มากขึ้น ดังนี้ 1.สร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติดอย่างมีคุณภาพ 2. แก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด โดยเฉพาะการเพิ่มศูนย์รักษาเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึง 3.สร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด เริ่มต้นจากเยาวชน 4.ปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง 5.ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ 6.สกัดกั้นยาเสพติดตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง 7.การบริหารจัดการแบบบูรณาการ โดยมีศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติทุกอำเภอ และมีศูนย์ปฎิบัติการส่วนกลางเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง เพราะเยาวชนคืออนาคตของชาติ ดังนั้นรัฐบาลจึงควรเร่งรีบที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง เพราะหากไม่ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง แล้วเราจะมีรัฐบาลแบบนี้ไปเพื่ออะไร