สธ. ยืนยัน ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ไม่สามารถแพร่เชื้อได้

จากกรณี ที่ลูกชายโพส ถึงการเสียชีวิตของ พ่อ อายุ70ปี ที่ป่วยด้วยวัณโรค แล้วป่วยร่วมกับการติดเชื้อโควิด-19 และไม่มีวัดไหนรับศพพ่อ หลังจากกลัวการติดเชื้อนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เบื้องต้นได้รับการยืนยัน รายงาน ว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เสีย ชีวิต เพิ่ม1 ราย โดยรู้สึกเสียใจกับผู้เสียทุกราย แต่ก็ต้องเตรียมใจไว้สำหรับกรณีนี้ด้วย เพราะว่า ผู้เสียชีวิตแต่ละคน จะมีอาการแตกต่างกัน เช่น กรณี ชายอายุ70ปี มีอายุมาก ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อและเสียชีวิต เน้นย้ำการดูแลผู้สูงอายุภายในบ้านให้ดี เนื่องจากอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตสูง แต่อย่างไรก็ตาม แพทย์ จะไม่ปล่อยให้ ร่างผู้เสียชีวิตออกไปนอกโรงพยาบาล ขณะที่ยังไม่มีการจัดการให้เรียบร้อยและปลอดภัย ขอให้ทุกคนอย่ากังวลว่าศพจะแพร่เชื้อได้

ส่วนกรณีญาติผู้เสียชีวิตที่กังวลว่าจะไม่มีวัดไหน รับไปทำพิธีกรรมทางศาสนา หากอยู่ภูมิลำเนาใด จะประสานให้ผู้วาราชการจังหวัด และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดรับเรื่องไปจัดการ ให้มีการบำเพ็ญกุศล ตามประเพณีอย่างปลอดภัยแน่นอน เน้นย้ำ ควรให้เกียรติญาติผู้เสียชีวิต อย่าถามคำถามที่เป็นการซ้ำเติมญาติผู้เสียชีวิต ที่สำคัญ อย่ารังเกียจกันเลย

เช่นเดียวกับ นายแพทย์ สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ที่ยืนยัน ว่าผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ เนื่องจาก เชื้อได้ตายไปพร้อมกับผู้เสียชีวิตแล้ว และขอให้วัดดำเนินการรับศพผู้เสียชีวิตไปดำเนินการพิธีกรรมทางศาสนา โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีการติดเชื้อแต่อย่างใด โดยเฉพาะรายที่ปรากฎเป็นข่าว ด้วยวัณโรคนั้น เบื้องต้นไม่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 มานานแล้ว ทั้งนี้ บุคลกรทางการแพทย์ ที่ทำการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อได้มีการป้องกันตัวเอง และยังไม่มีการติดเชื้อจากกรณีนี้เลย

โดย กรณีมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นรายที่ 2 ของไทย ที่เป็นข่าว เป็นชายวัย 70 ปี อาชีพขับรถทัวร์จีน ที่รักษาตัวมาต่อเนื่องในโรงพยาบาลบำราศนราดูร ในวันที่2กุมภาพันธ์ หลังมีอาการป่วย เป็นไข้ไอจาม ในวันที่28 มกราคม และมีการตรวจพบวัณโรคร่วมด้วย แพทย์ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจ ควบคู่กับเครื่องช่วยพยุงปอดมาตลอด รวมระยะเวลา 1 เดือน 22 วัน