ตายจากโควิด ห้ามญาติจับ-อาบน้ำ 'ศพ' ?
หมอเผย ศพผู้เสียชีวิตจากโควิด ถูกบรรจุในซองซิป 2 ชั้น ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ไม่ให้สารคัดหลั่งหลุดรอด ไม่อนุญาตให้ญาติจับศพ อาบน้ำศพ เผาด้วยความร้อนมากกว่า 60 - 70 องศาฆ่าเชื้อเกลี้ยง ไม่เหลือแพร่ผ่านควัน ฌาปนกิจได้ตามปกติ แต่ ”พระ-ผู้ร่วมงาน” ต้องเว้นระยะ
เมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 พญ.ภัทรา อังสุวรรณ ผอ.สถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกระแสตื่นกลัวการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ว่า ขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นกลัว เพราะขั้นตอนการจัดการกับศพผู้เสียชีวิตทุกราย ทุกรพ.จะทำเป็นมาตรฐานเดียวกัน คือเมื่อเสียชีวิต ร่างผู้เสียชีวิตจะถูกนำมาบรรจุลงในถุงซิป 2 ชั้น เพื่อป้องกันสารคัดคลั่งหลุดรอดออกมา พร้อมกับมีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ พ่นลงไป โดยศพจะไม่ได้ถูกฉีดน้ำยา แต่จะถูกนำไปแช่แข็งที่อุณหภูมิ. 4 องศาเซลเซียส และมีข้อปฏิบัติให้ญาติปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด คือ ไม่มีการอาบน้ำ และไม่มีอนุญาตให้ญาติสัมผัสจับต้องศพโดยใช้มือเปิดถุงซิปออก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
ด้านนพ.ทรงวุฒิ วิญญูวรรธน์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันพยาธิวิทยา กล่าวว่า การแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 นี้ เกิดจากสารคัดหลั่งทางเดินหายใจ ผ่าน ละอองฝอย ไอ จาม ศพไม่ไอจึงไม่มีการแพร่เชื้อ นอกจากนี้ศพยังถูกบรรจุอยู่ในถุงซิปถึง 2 ชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่งหลุดรอดออกมา ยิ่งเก็บศพไว้นานเชื้อยิ่งลดน้อยลง เพราะธรรมชาติของเชื้อโรค ที่อยู่ในเซลล์ต่างๆของร่างกาย เมื่อเสียชีวิตลง เซลล์ต่างๆเนื้อเยื่อต่างๆก็ตายลง ทำให้เชื้อโรคอยู่ไม่ได้ต้องตายตามไป หรือลดปริมาณลงเช่นกัน
นอกจากนี้ การเผาศพที่วัด ใช้ความร้อนมากกว่า 60-70 องศา เนื้อเยื้อผิวหนังหมอดไหม้ กระดูกยังสลาย เชื้อโรคต้องหมดไปด้วย และเชื้อโรคก็ไม่แพร่ทางควัน เพราะหมดไปในขั้นตอนการเผาแล้ว ดังนั้น คนไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพสามารถทำได้โดยปกติ เพียงแต่ให้พระและผู้ร่วมงาน มีระยะห่างจากกัน