'ผบ.ตร.' ตรวจด่านคัดกรองโควิด-19 ทั่วกรุงฯ
"จักรทิพย์" ตรวจด่านคัดกรองโควิดทั่วกรุงฯ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ปฎิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งคัด ส่วนจะมีการเพิ่มด่านหรือปิดเส้นทางหลัก อยู่ระหว่างการพิจารณาสถานการณ์เป็นรายวัน
เมื่อ26 มี.ค. 63 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้นำอุปกรณ์เวชภัณฑ์ อาทิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ถุงมือ จากสมาคมแม่บ้านตำรวจมามอบให้เจ้าหน้าที่พร้อมให้กำลังใจในการปฎิบัติงาน บริเวณด่านตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 ใต้บีทีเอสแบริ่ง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยอมรับว่า ยังมีปัญหาอุปสรรคบางอย่างที่เจ้าหน้าที่ยังไม่เข้าใจในการปฏิบัติงาน จึงได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติให้ถูกต้องไปแล้ว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าในพื้นที่ บก.น.4 มีผู้ที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 37.5 เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จึงแนะนำและส่งต่อไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่
ส่วนกรณีจะมีการตั้งด่านเพิ่ม รวมทั้งปิดถนนเส้นทางหลักในกรุงเทพมหานครหรือไม่นั้น เรื่องนี้จะต้องมีการประเมินสถานการณ์ทุกวัน โดยจะเน้นในเรื่องของความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก รวมถึงพื้นที่ในต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้มีการตั้งด่านทั่วประเทศ จำนวน 359 ด่าน โดยประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่จะมีการปรับแผนทุกวันตามสถานการณ์
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังระบุด้วยว่า สำหรับการตั้งด่านอาจจะส่งผลให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมา อาจไม่ได้รับความสะดวกบ้าง แต่เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ และพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้มีการทำความเข้าใจในเรื่องหน้าที่ และบทบาทของตัวเองแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากพบว่าประชาชนรายใด ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 ก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าดำเนินการทันที พร้อมกับส่งตัวไปตรวจเพิ่มที่โรงพยาบาล แต่หากประชาชนขัดขืน เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปได้
นอกจากนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดอุณหภูมิพบประชาชน 1 ราย ซึ่งโดยสารมากับรถสองแถว มีอุณหภูมิร่างกายสูงถึง 37.5 จึงได้เชิญลงจากรถเพื่อซักถามประวัติการเดินทาง ทราบว่ามาจากบ้านย่านแบริ่ง และกำลังจะไปซอยเพี้ยนพิน หาน้องสาว เพื่อเอาเงินใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้มีอาชีพขับรถแท็กซี่ แต่หยุดมาแล้ว 10 วัน เพราะเกรงกลัวโรคดังกล่าว โดยไม่เคยเดินทางเข้าออกประเทศ และไม่ได้ใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยง หลังจากนั้นแพทย์เห็นว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงระดับต่ำ และสภาพอากาศที่ร้อน หรืออาจมีหลายปัจจัยหลายอย่าง จึงได้ลงบันทึกพร้อมแนะนำให้กักตัวอยู่กับบ้าน เนื่องจากมีความเสี่ยงในระดับต่ำ เพราะจากสภาพอากาศช่วงกลางวันค่อนข้างร้อน ส่วนประชาชนที่โดยสารมาพร้อมกันอีก 2 คนรถบนนั้น ได้ให้แอลกอฮอล์เจลฆ่าเชื้อ พร้อมแนะนำการปฏิบัติตัวต่อไป