ดีเดย์ 1 เม.ย. 'ศาลแขวงเชียงดาว' เปิดบริการ ปชช.พื้นที่ห่างไกล
ยุติธรรมทั่วถึง! เปิดศาลแขวงเชียงดาว แบ่งเบาศาลแขวงเชียงใหม่ ดูแลคดี "อ.เชียงดาว-พร้าว-แม่แตง-เวียงแหง" ในเชียงใหม่ "โฆษกศาล" ย้ำศาลจัดมาตรการป้องกันโควิด-19 ระบาดดูแลทั่วถึงทั้งคู่ความ-ขรก.-งานราชทัณฑ์ สนับสนุนใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
เมื่อวันที่ 30 มี.ค.63 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ศาลแขวงเชียงดาว จะเริ่มทำการใน จ.เชียงใหม่ โดยการจัดตั้งศาลแขวงเชียงดาวขึ้นมาเป็นการแบ่งเบาปริมาณคดีของศาลแขวงเชียงใหม่และเพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนในท้องที่ให้สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวก-รวดเร็ว -ประหยัด-เสมอภาค-เป็นธรรม
เนื่องจากปัจจุบันประชาชนใน จ.เชียงใหม่ มีจำนวนมากและมีคดีความเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลแขวงเชียงใหม่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ประกอบกับระยะทางในการเดินทางไปศาลแขวงเชียงใหม่ จากบางอำเภอมีระยะทางค่อนข้างไกล ทำให้ประชาชนผู้มีอรรถคดี และผู้เกี่ยวข้องไม่ได้รับความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางไปติดต่อกับศาลแขวงเชียงใหม่ จึงมีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวงเชียงใหม่ กับกำหนดเขตอำนาจ และวันเปิดทำการของศาลแขวงเชียงดาว ใน จ.เชียงใหม่ พ.ศ.2563 กำหนดให้ในจังหวัดเชียงใหม่ มีศาลแขวงเพิ่มอีกหนึ่งศาล คือศาลแขวงเชียงดาว โดยให้เริ่มทำการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.63 เป็นต้นไป
นายสุริยัณห์ โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวอีกว่า โดยการจัดตั้งศาลแขวงเชียงดาวนั้น คณะกรรมการบริหารศาลยูติธรรม (ก.บ.ศ.) ได้อาศัยอำนาจตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 วรรคสาม แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ออกประกาศกำหนดสถานที่ตั้งของ "ศาลแขวงเชียงดาว" ตั้งอยู่เลขที่ 456 หมู่ที่ 12 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ขณะที่เขตอำนาจศาลแขวงเชียงดาว ประกอบไปด้วยพื้นที่ อ.เชียงดาว , อ.พร้าว , อ.แม่แตง , อ.เวียงแหง โดยประชาชนที่มาติดต่อราชการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่โทรศัพท์หมายเลข 053-111-789
ทั้งนี้ โฆษกศาลยุติธรรม ยังกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ด้วยว่า นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม มีความห่วงใย ให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของประชาชนที่มาติดต่อราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างเต็มที่
โดยมีมาตรการและการดำเนินการเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามที่กรมควบคุมโรค และกระทรวงสาธารณสุขแนะนำไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อความสะดวก ความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ ให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม วางแผนการทำงานจากที่บ้าน และส่งเสริมให้คู่ความ-ประชาชน ใช้ระบบเทคโนโลยีที่สำนักงานศาลยุติธรรมพัฒนาและปรับปรุงมาโดยตลอดเป็นช่องทางในการติดต่อราชการศาล ซึ่งระบบมีการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลกับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเพิ่มมากขึ้น เช่น งานราชทัณฑ์ เพื่อลดจำนวนคนที่จะต้องเดินทางมาติดต่อราชการศาล ให้เหลือเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น