เดิมพัน 'พิธา' ศึกชายขอบปากน้ำ

นี่คือ การเลือกตั้งครั้งแรกของพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคป้ายแดง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

 ทำนองเดียวกัน เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของพรรคก้าวไกล หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ครบ 90 วันแล้ว

 ชัยชนะของ กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ในสีเสื้อพลังประชารัฐ ปฏิเสธไม่ได้ว่า มาจากกระแส “ความสงบจบที่ลุงตู่” บวกกับต้นทุนเดิมในฐานะ ส.ส. 1 สมัย และเกิดที่ อ.บางบ่อ

 จุดอ่อนของกรุง น่าจะเป็น “กระแสลุงตู่” ไม่แรงเท่าเดิม และ “ลุงป้อม”อาจเป็นตัวถ่วง

 อย่างไรก็ตาม ตัวแปรที่จะช่วยกรุงได้ หนีไม่พ้น “ทีมสมุทรปราการก้าวหน้า” ของชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ที่ต้องลุ้นให้กรุงชนะ เพื่อข้ามช็อตไปถึงเลือกตั้งนายก อบจ.ปากน้ำ

 ส่วน สลิลทิพย์ สุขวัฒน์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย มีต้นทุนจากการเป็น ส.ส. 3 สมัย และมีฐานการเมืองมาจากบิดา- ประเสริฐ สุขวัฒน์ ส.ส.เก่า เจ้าของพื้นที่ อ.บางบ่อ อ.บางพลี และ อ.บางเสาธง

 จุดอ่อนของ “สลิลทิพย์” น่าจะอยู่ที่พรรคเพื่อไทย เพราะผู้บริหารพรรค ยังมีความขัดแย้งกันอยู่ ระหว่างซีกหัวหน้าพรรค กับประธานยุทธศาสตร์พรรค

 

 

สำหรับพรรคก้าวไกล ก็มุ่งหวังจะชนะเลือกตั้งซ่อม เพื่อเสริมบารมี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรค

 แกนนำสาขาพรรคปากน้ำ จึงเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส.จาก ตรัยวรรธน์ อิ่มใจ อดีตผู้สมัคร ส.ส.หนที่แล้ว เป็น “อิศราวุธ ณ น่าน” หนึ่งทีมงานสมุทรปราการมหานคร (ทีมท้องถิ่นสีส้ม)

 “อิศราวุธ” เป็นนักธุรกิจหนุ่ม มีความคิดก้าวหน้า และใกล้ชิดกับสาขาพรรคปากน้ำ

  สาเหตุที่ก้าวไกลกล้าเปลี่ยนม้ากลางศึก เพราะต้นทุนเดิม 31,430 คะแนนนั้น ได้มาจากกระแสแม่เหล็กอย่าง ธนาธร พรรณิการ์ และปิยบุตร

 การรบหนนี้ พวกชาวส้มใหม่ หวังได้ 50,000 คะแนน เพราะกระแสนิยมพรรคกำลังมาแรง

 “พิธา” ก็พร้อมขึ้นรถแห่หาเสียง และเดินขอคะแนนในย่านชายขอบปากน้ำ เพื่อชัยชนะ