คำสั่งแรก! ส.ส.พปชร. หยุดทะเลาะ - ก้าวไกลลุยสนามกทม.-อปท.
“พล.อ.ประวิตร” ประชุม พปชร. ครั้งแรกหลังรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ขอลูกพรรคหยุดทะเลาะ ตั้ง 10 รองหัวหน้าพรรค ขณะที่ “สมคิด” พร้อมพ้นครม. - พรรคก้าวไกล ลุยสนามกทม.-อปท.
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 เป็นครั้งที่ 2 ณ ศูนย์ประชุมพรรค ย่านรัชดาภิเษก โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยบรรยากาศก่อนเริ่มประชุม พล.อ.ประวิตร ได้เดินทักทายส.ส.และสมาชิกพรรค ที่ปรบมือต้อนรับอย่างคึกคัก
ในการประชุมครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ลงนามแต่งตั้งรองหัวหน้าพรรครวม 10 คน พร้อมแต่งตั้งรองผู้อำนวยการพรรค รองเลขาธิการพรรค รวมถึงแต่งตั้ง น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. เป็นโฆษกพรรคคนใหม่ และรองโฆษกพรรค 3 คน นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เพชรบูรณ์ น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ
พล.อ.ประวิตร กล่าวตอนหนึ่งว่า “สำหรับคำสั่งแต่งต่างๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผมมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลง คนไหนทำงานไปแล้ว อยากจะเปลี่ยนแปลงไม่อยากจะอยู่ในตำแหน่งแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงกันได้ ก็ขอให้เข้าใจกันว่า ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ผมได้คุยกับรองหัวหน้าพรรคทั้ง 10 คนไปแล้วว่า ใครเหมาะสมอย่างไร”
"นอกจากนี้ ผมขอฝากพวกท่านให้รักกันจริงๆ สามัคคีกันจริงๆ รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีเป็นพรรคพวกเป็นกลุ่ม ผมขอร้อง เราเป็นพรรคใหญ่ ถ้าลงมาตีกันเองมันจะเสียหาย ถ้าสงสัยอะไร ถามกันได้ ไม่ใช่คนโน้นไปที คนนี้ไปที และอย่างผม ก็ไม่มีว่าจะรักคนนั้นมากกว่าคนนี้ แต่รักเท่าๆ กันหมด ผมให้เท่าๆ กันหมด ส่วนปัญหาก่อนหน้านี้ ที่ถามผม จบไปแล้ว เรื่องที่แล้วๆ มา ผมไม่รู้ เพราะผมไม่ได้ทำ ตั้งแต่นี้ต่อไปผมจะเป็นคนรับผิดชอบ” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวหลังจากกลุ่ม 4 กุมาร ลาออกจาก พปชร.ทำให้กระแสปรับครม.กลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะการกดดันของส.ส.พปชร.บางคน ให้กลุ่ม 4 กุมารพ้นจากรัฐมนตรีที่ถือเป็นโควตาพรรค โดยวานนี้ (10 ก.ค.) นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค ยืนยันการลาออกของ 4 กุมาร ถือเป็นการจากกันด้วยดี ส่วนการปรับครม.นายอนุชา ยืนยันว่า พปชร.ยังไม่มีการส่งรายชื่อบุคคลให้นายกฯ และพรรคยังไม่ได้หารือเรื่องนี้ รวมถึงไม่เคยคุยเรื่องตำแหน่งของตนเองในครม.
ทางด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ กก.บห.พลังประชารัฐ ระบุว่า โควตารัฐมนตรีของกลุ่ม 4 กุมารเป็นของพรรค ไม่ใช่โควตาของนายกฯ เพราะส่งชื่อไปในนามพรรค เนื่องด้วยเป็นหัวหน้าพรรคและเลขาพรรค และรองหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นมติของ กก.บห.แต่ส่วนตัวไม่ทราบว่า การลาออกจากสมาชิกจะส่งผลต่อตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่
ทางด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษากลุ่ม 4 กุมาร ตอบข้อถามเรื่องนี้ว่า โดยเชื่อว่าทั้ง 4 คนพร้อมทำหน้าที่อื่นเพราะภารกิจเรื่องพรรคลุล่วงแล้ว สำหรับตนเอง ตอนนี้อยากดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีเท่านั้น ส่วนการปรับ ครม.นายกฯจะพิจารณา ซึ่งแล้วแต่ความเหมาะสม และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา
ต่อข้อถามว่า พร้อมทุกอย่างใช่หรือไหม นายสมคิด ตอบว่า “ผมพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะตอนนี้ผมอายุมากแล้ว” เมื่อถามต่อว่า ที่บอกอายุมาก แสดงว่าถอดใจแล้วหรือ นายสมคิด ตอบว่า “ใจผมถอดมาตั้งแต่หลายปีแล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากมีการปรับครม.แล้วไม่มีรัฐมนตรีที่อยู่ภายใต้ความดูแลอีก จะยังอยู่ในครม.ต่อด้วยหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า “เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เลย เพราะการที่จะตั้ง ครม.ขึ้นมา นายกฯต้องดูให้ถ่องแท้ว่า ใครจะทำอะไร เอาบ้านเมืองเป็นหลัก ส่วนใครจะมา ใครจะไป ถือเป็นเรื่องปกติ”
ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล วันเดียวกันนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค แถลงถึงทิศทางการเมืองว่า พรรคมีความพร้อมในการลงเลือกตั้งท้องถิ่นใน กทม. ทั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.)ทุกเขต และการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
เป้าหมายของพรรคต้องการให้คน กทม.กำหนดอนาคตของ กทม. และเกิดการปฏิรูป กทม.แท้จริงเพื่อการบริหารจัดการที่ทันสมัย โดยพรรคจะเปิดรับสมัครผู้สมัคร ส.ก. ตั้งแต่วัน 11-25 ก.ค.ผ่านเว็บไซต์ของพรรค คนที่จะสมัครไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทางการเมือง หรือเป็นคนที่มีตระกูลทางการเมือง และพรรคจะเปิดรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.ควบคู่กันไปด้วย โดยผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เวลานี้มีคนในพรรค และคนภายนอกของพรรค ที่ให้ความสนใจ ซึ่งเป็นคนที่มีความสามารถ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเสร็จสิ้นการรับสมัคร จะมีการคัดเลือกในช่วงเดือน ส.ค.