'วีระกร' มั่นใจ 'นายกฯ' หาทีมเศรษฐกิจใหม่ได้

นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีการลาออกของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า ในส่วนการลาออกของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้นายสมคิดก็ได้ปรารภกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมไว้บ้างแล้วว่ารู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงมองว่าสาเหตุหลักของการลาออกไม่ใช่เพราะแรงกดดันทางการเมือง แต่เมื่อมีการลาออกแล้วก็มองว่าถึงเวลาแล้วที่นายกรัฐมนตรีควรปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อฟื้นวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่านายกรัฐมนตรีมีคนที่ได้พิจารณาและทาบทามไว้แล้ว เพราะไม่เช่นนั้นนายกรัฐมนตรีคงไม่อนุมัติให้มีการลาออก ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีจะเลือกใครก็ต้องมองอยู่แล้วว่าต้องมีประสบการณ์ด้านธุรกิจมาด้วย และเชื่อว่าคงจะไม่ใช่ที่มาจากสายนักวิชาการเพียงอย่างเดียว เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้ได้  

นายวีระกร กล่าวว่า หากเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เข้ามาจะมีแรงกดดันจากพรรคการเมืองหรือไม่นั้น ถ้าผู้ที่เข้ามามีความสามารถเพียงพอก็มองว่าไม่มีใครกดดันได้ถ้าทำแล้วมีผลงาน คนที่เข้าไปกดดันก็จะโดนสังคมต่อว่าเสียเอง ถ้าเข้าแล้วมีผลงานที่ดีแล้วมีการไปกดดันให้เขาออกอีก อยากถามคนที่สร้างความกดดันว่ามีข้อเสนอที่ดีกว่าหรือไม่ ส่วนกรณีที่ในพรรคพลังประชารัฐมีการตั้งกลุ่มเพื่อเรียกร้องตำแหน่งในรัฐบาลนั้น ตนเองไม่เห็นด้วยแน่นอน ประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีความบอบช้ำพอแล้ว จึงไม่ใช่เวลาที่จะมาแย่งตำแหน่งกัน ตนเองไม่ได้อยากเตือนสมาชิกพรรคแต่อยากให้เลิกพฤติกรรมแย่งตำแหน่งกันและเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งไม่ได้หมายความว่าคนในพรรคพลังประชารัฐไม่เหมาะสม แต่วิกฤติหลังโควิดที่หนักนาสาหัสเช่นนี้จำเป็นต้องได้บุคคลที่ได้มีความเหมาะสมเข้ามาทำงาน

นายวีระกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีรายชื่อของนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  เข้ามาร่วมทีมเศรษฐกิจนั้นตนเองไม่ทราบ เพราะเป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเองและคนส่วนใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐไม่ได้อยากเรียกร้องว่าจะต้องเป็นใคร ซึ่งอยากให้นายกรัฐมนตรีมองคนที่มีความรู้ ความสามารถ มากที่สุดเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองหลังวิกฤติโควิด-19 และขอยืนยันว่าตนเองไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีใดๆ ทั้งนั้น ตนมีความสุขกับการทำงานในหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดีอยู่แล้ว พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งแต่งตั้งบุคคลที่ได้ทาบทามไว้ก่อนที่ปัญหาจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น