เก้าอี้พลังงาน 'จุดแตกหัก' รัฐบาล จับตาปรับ ครม. เดือนส.ค.นี้
“นายกฯ” ปราม “สามมิตร” หยุดเปิดศึกแย่ง รมว.พลังงาน ลั่น “ผมพิจารณาของผมเอง” ดึงคนนอกร่วมทีมเศรษฐกิจ-ส.ค.เห็นโฉม พปชร.เปิดศึกอีก “อนุชา” โวยถูกชกใต้เข็มขัดข่าวต้าน “ไพรินทร์” เหตุคนนอก
ด้าน “อุตตม” นำทีมรัฐมนตรี 4 กุมารแถลงไขก๊อกจากกันด้วยดี หวังเห็นประเทศเดินหน้า ภาคเอกชนหวังสานต่อนโยบายศก.ให้ต่อเนื่อง แนะทีมเศรษฐกิจใหม่เร่งแก้คนว่างงาน ฟื้นท่องเที่ยว
ภายหลังการลาออกขอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลุ่ม4กุมารคือ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีการจับตาไปที่การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะในส่วนของรมว.พลังงานแทนนายสนธิรัตน์ ที่มีการคาดการณ์ว่าจะเป็นสัดส่วนบุคคลภายนอก โดยมีชื่อของนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรมช.คมนาคมมาดำรงตำแหน่งดังกล่าว ขณะเดียวกันยังมีความเคลื่อนไหวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยเฉพาะกลุ่มสามมิตรที่มีความพยายามในการทวงโควตาดังกล่าวให้แก่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม
วานนี้(16 ก.ค.)ระหว่างการลงพื้นที่จ.ศรีสะเกษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ภายหลังนายสมคิดและกลุ่ม4กุมารลาออกจว่า ตนเพิ่งทราบเมื่อวันที่ 15ก.ค.ที่ผ่านมาก็ได้มีการพูดคุยกันมาเป็นระยะอยู่แล้ว สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ได้มีอะไรก็ยังเคารพท่านเหมือนเดิม ยอมรับว่า การลาออกดังกล่าว หลังจากนี้ก็ต้องมีการปรับครม.เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างมากนัก ต้องทำให้เร็วเท่าที่ทำได้และไม่กดดันเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องดังกล่าวจะเสร็จสิ้นไม่เกินเดือนส.ค.
เมื่อถามว่าในสัดส่วนครม.จะมีคนนอกด้วยใช่หรือไม่นายกฯกล่าวว่า “ก็ต้องมีสิ สัดส่วนของผมก็ต้องมี” พร้อมยืนยันว่า การปรับครม.ไม่จำเป็นต้องรอร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2564ผ่านสภาก่อน เพราะทีมทำงานพ.ร.บ.ประมาณมีอยู่แล้วโดยมีคณะกรรมาธิการอยู่และรมช.คลังยังอยู่ ยอมรับว่าด้านเศรษฐกิจ มีการทาบทามบุคคลภายนอกเแต่ท่านยังไม่ตอบรับส่วนที่มีรายชื่อปรากฏออกมาก็ไม่รู้ว่าออกมาได้อย่างไร
เมื่อถามถึงชื่อ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรมช.คมนาคม จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในการปรับครม.ครั้งหน้าพล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่าเขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ส่วนที่มีการมองว่าสัดส่วนดังกล่าวควรเป็นของพรรคพปชร.ให้ไปถามหัวหน้าพรรค เมื่อถามย้ำว่า ตำแหน่งรมว.กระทรวงพลังงานถือว่ามีปัญหามากหรือไม่หลังมีการแย่งชิงเกิดขึ้น นายกฯ กล่าวว่า"ทำไมผมพิจารณาของผมเอง”
อย่างไรก็ดี นายกฯกล่าวช่วงท้ายว่า การปรับครม.ขอให้มั่นใจตัวผมแต่จะทำให้ทุกคนถูกใจทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้แต่จะทำให้ดีที่สุด โดยหลังจากที่นายกฯ ได้ขึ้นรถเตรียมเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่อไป ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า ตอนนี้สบายใจแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “สบายใจแล้ว”
“อุตตม” นำทีมแถลงไขก๊อกรมต.
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาลนายอุตตม พร้อมด้วยรัฐมนตรีกลุ่ม4กุมารร่วมกันแถลงข่าวภายหลังยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง โดยนายอุตตม กล่าวว่า พวกเราทั้ง 4 คนได้ทำหนังสือลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ต่อเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว รวมถึงหนังสือลาออกของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจจะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถือเป็นความโล่งอกในระดับหนึ่งในวันนี้ ซึ่งพวกเราเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมจะลาออกจากตำแหน่งที่ได้ปฏิบัติหน้าที่กันมา เพราะเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เห็นกันอยู่ ดังนั้นเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้และความคลุมเครือหายไป เพื่อจะได้ช่วยลดความกดดันทางการเมืองที่มีถึงนายกฯ ในช่วงเวลานี้
“ถือว่าจากกันได้ดีทุกฝ่ายวันนี้สถานการณ์บ้านเมืองต้องช่วยกันประคับประคอง ส่วนเรื่องในอนาคตตั้งใจว่าอะไรเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองต่อสังคมจะทำสิ่งเหล่านั้นสิ่งใดเป็นประโยชน์พร้อมที่จะทำส่วนการลาออกของท่านสมคิด คงจะทราบว่าเป็นเรื่องสุขภาพ ซึ่งจริงๆ พวกผมก็ถือโอกาสพักผ่อนด้วย”นายอุตตม กล่าว
นายอุตตมขอบคุณนายกฯ ที่ไว้วางใจให้พวกเราทำงานให้บ้านเมืองมาระยะหนึ่งแล้ว ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาพอประมาณ นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่พวกเราได้มา วันนี้ยังไม่ได้คิดอะไร ขอไปพักผ่อนก่อน แต่พวกเรามีหน้าที่กันทุกคนต้องช่วยกันประคับประคองให้ประเทศเดินหน้าในภาวะเช่นนี้ การลาออกจะเป็นประโยชน์ให้นายกฯ นำพาบ้านเมืองให้ผ่านวิกฤติไปได้ส่วนใครจะมาทำหน้าที่ตรงนี้คงไม่ทราบ แต่เชื่อว่านายกฯ มีความสามารถและเฟ้นหาคนมีความสามารถมาร่วมทีม
“เรามีหลักการไม่ยึดติดตำแหน่ง ไม่ได้เสียดายอะไร เมื่อเราได้โอกาสมาทำงาน มาวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรต้องเจ็บตัว เราก็ทำหน้าที่ของเรา เมื่อถึงเวลาก็สับเปลี่ยน เพราะไม่ว่าใส่หมวกใบไหนก็ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้”นายอุตตม กล่าว
วันเดียวกันนายอุตตมได้เดินทางเข้ามาเก็บของในห้องทำงานกระทรวงการคลัง พร้อมย้ำว่า ยังไม่คิดเรื่องการเมืองในอนาคต และปฏิเสธที่จะกล่าวถึงนโยบายที่จะฝากถึง รมว.คลังคนใหม่ โดยเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะมีทีมที่มีความสามารถที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้
ขณะที่ความเคลื่อนไหวพรรคพปชร.ภายหลังมีชื่อนายไพรินทร์ เป็นแคนดิเดต รมว.พลังงานคนใหม่ ล่าสุดแหล่งข่าวพปชร.เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการเคลื่อนไหวภายในพรรคจากกลุ่มสามมิตรนำโดยนายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรรค เนื่องจากเห็นว่าตำแหน่งดังกล่าวต้องเป็นของนายสุริยะ ไม่ใช่นายไพรินทร์ซึ่งเป็นคนนอก
นายอนุชาได้แจ้งเรื่องดังกล่าวให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค ทราบแล้ว
“กลุ่มสามมิตรอ้างว่าถ้าไม่ได้รับการตอบรับจะเดินหน้ากดดันจนกว่าจะมีการยุบสภา”
จากนั้นนายอนุชาได้แถลงชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อยและไม่มีการนัดรวมตัวส.ส.เพื่อแถลงคัดค้านใครทั้งสิ้นเพราะการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจซึ่งข่าวที่ออกมาตนเชื่อว่าแกนนำคนหนึ่งของพรรคเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและเป็นการชกใต้เข็มขัดที่ไม่สมศักดิ์ศรีที่ได้ปล่อยข่าวนี้ออกมา
เอกชนขอนโยบายศก.ต่อเนื่อง
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การแต่งตั้งรัฐมนตรีเศรษฐกิจจะต้องเลือกผู้ที่ทำงานร่วมกันได้ และจะต้องเป็นผู้มีความรู้เชี่ยวชาญในกระทรวงที่รับผิดชอบ โดยต้องเริ่มทำงานได้ทันทีเพราะเศรษฐกิจไทยหดตัวรุนแรง
“ผู้มาเป็นรัฐมนตรีใหม่ต้องเริ่มทำงานได้ทันทีเพื่อให้ทันกับวิกฤติ รวมทั้งต้องรู้เรื่องเอกชนดีและทำงานร่วมเอกชนได้ เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพ”
ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การลาออกของรัฐมนตรีเศรษฐกิจแม้เป็นกระทรวงสำคัญ คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน แต่หากนายกรัฐมนตรียังมีทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเป็นทีมเดิมเชื่อว่านโยบายด้านเศรษฐกิจ และการบริหารงานยังคงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่เอกชนต้องการเห็น
ส่วนคุณสมบัติสำคัญของรัฐมนตรีใหม่ต้องคำนึงถึง คือ เป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ และทุกภาคส่วนต้องยอมรับ ทั้งภาคเอกชน ข้าราชการ รวมถึงประชาชน
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ต้องการผู้รับตำแหน่งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจคนใหม่ที่มีประสบการณ์และสังคมยอมรับ เพราะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปัจจุบันไม่ง่าย ซึ่งผู้เข้ามาทำหน้าที่ในช่วงโควิดระบาดต้องมีความสามารถมาก โดยรายชื่อที่ปรากฏมามองว่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดี
“การทำงานต้องดูทั้ง 2 ฝั่ง คือ เศรษฐกิจในประเทศที่ต้องกระตุ้นการบริโภคและสร้างความเชื่อมั่นในประเทศให้สูงขึ้น และฝั่งต่างประเทศที่ต้องทำควบคู่กัน” นายชูเกียรติกล่าว
เช่นเดียวกับนางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ต้องการให้ทีมเศรษฐกิจใหม่สานต่อนโยบายสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศที่สามารถดำเนินการต่อได้ทันที นอกจากนี้ภารกิจสำคัญเร่งด่วน คือการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวกลับมาได้โดยเร็วภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายไทยช่วยไทย ไทยเที่ยวไทยและช้อปช่วยชาติที่จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายในอุตสาหกรรมค้าปลีก
ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจใหม่ต้องมองมาตรการระยะสั้นและระยะยาวที่ดำเนินการควบคู่กันไป เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจสะดุดหรือเกิดการหยุดชะงัก
แนะทีมใหม่แก้ปัญหาว่างงาน
ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า จากที่ปรากฏรายชื่อผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็น ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาลในสื่อต่างๆนั้น ซึ่งส่วนตัวมองว่าถือว่ารับได้ เพราะ แต่ละคนนั้นก็เป็นผู้ที่มีความรู้และความสามารถ แต่ก็ต้องรอดูเรื่องนโยบายจะเป็นอย่างไร และจะมาสานต่อสิ่งที่ทำไปอย่างไร ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ถือว่าเป็นอะไรที่ไม่ง่ายเพราะเศรษฐกิจปีนี้คาดว่าจะติดลบสูง โดยจีดีพีไตรมาส2ปีนี้ คาดว่าจะติดลบ10% ซึ่งการทำให้จีดีพีกลับมาเป็นบวกเป็นเรื่องที่ท้าทายพอสมควร
‘รายชื่อผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาลที่ปรากฏตามสื่อนั้น ก็ถือว่าโอเค เพราะทุกคนก็มีความรู้ และความสามารถ แต่ต้องรอดูนโยบายก่อนว่าจะเป็นอย่างไร จะเข้ามาสานต่อสิ่งที่ทำไปแล้วอย่างไรบ้าง ซึ่งตอนนี้เราอยู่ในช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ไม่ง่าย เพราะปีนี้เศรษฐกิจจะติดลบเยอะซึ่งไตรมาส2ปีนี้คาดว่าจะติดลบประมาณ10%’
สำหรับภารกิจเร่งด่วนของทีมเศรษฐกิจใหม่ คือ การสร้างงานให้ประชาชนกลับมาทำงานให้มากที่สุด เพื่อลดจำนวนผู้ว่างงานให้น้อยที่สุด ซึ่งตัวเลขจีดีพียังสำคัญน้อยกว่าตัวเลขคนว่างงาน เพราะ หากคนว่างงานมีจำนวนมาก ก็จะทำให้มีปัญหาตามมาหลายเรื่องทั้งปัญหาสังคม และปัญหาหนี้เสีย
นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับรายชื่อตัวเต็งว่าที่รัฐมนตรีในการปรับ ครม.ที่กำลังจะเกิดขึ้น บางคนมีประสบการณ์ทำงานทั้งในองค์กรสำคัญและมีขนาดใหญ่ ไม่มีประวัติด่างพร้อย แต่มาแล้วจะสามารถทำงานร่วมกับทีมการเมืองและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทยที่กำลังได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤติโควิด-19 ได้เร็วหรือไม่ ไม่ต้องเสียเวลามาเรียนรู้ใหม่ คือจุดสำคัญที่ต้องติดตามในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวโดยตรง.