ม็อบนักศึกษา จี้ยุบสภา-ร่างรัฐธรรมนูญใหม่

จากกรณีกลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. และเยาวชนในนามกลุ่มเยาวชนปลดแอก Free YOUTH นัดรวมตัวจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ในรูปแบบแฟลชม็อบ เพื่อแสดงออกแนวคิดทางการเมือง ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันที่ 18 ก.ค.นั้น

ล่าสุด (17ก.ค.)ในเพจเฟชบุ๊ค เยาวชนปลดแอก Free YOUTH ได้โพสต์ข้อความว่า “เวลานี้เราไม่ทนอีกแล้ว! 17:00น. เป็นต้นไป 18 กรกฎาคมนี้! มุ่งตรงไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขจัดต้นตอของปัญหา ถอนโคนเผด็จการที่ฝังรากลึกมายาวนาน” รวมทั้งข้อความ “แค่ร่างกายต้องการปะทะแก๊สน้ำตาไม่พอ!! ต้องเตรียมพร้อมด้วย”

นอกจากนี้ ยังระบุถึงการแต่งกายด้วยเสื้อสีดำ พร้อมเหตุผลว่า เพื่อไว้อาลัยให้กับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นรายวันในประเทศที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย และยังกำชับให้สวมหน้ากากอนามัยและพกเจลล้างมือ และระบุว่า เรามีหน่วยพยาบาล

นอกจากนี้เพจดังกล่าวยังประกาศข้อเรียกร้อง 3 ประเด็น ได้แก่ 1.“ต้องประกาศยุบสภา” โดยระว่ารัฐบาลสืบทอดอำนาจภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและออกมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้มีคนตกงานและขาดรายได้เป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้เยียวยาอย่างถ้วนหน้าและทั่วถึง ปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจ

ปล่อยปละละเลยให้แขก VIP ที่มีเชื้อไวรัสเข้ามาในประเทศโดยที่ไม่ได้กักตัวซึ่งถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อโอกาสที่จะมีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่รอบ 2 ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่อาจไว้วางใจให้รัฐบาลชุดนี้บริหารบ้านเมืองต่อไปได้ จึงข้อยื่นคำขาดว่า นายกฯ ต้องประกาศยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนและเปิดทางให้คนที่มีความรู้ความสามารถมาแก้ไขปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ

2. “หยุดคุกคามประชาชน” โดยระบุว่า ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2562 เราต่างก็หวังกันว่าประเทศไทยจะมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประชาชนจะมีเสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพในการชุมนุมโดยที่ไม่ถูกคุกคาม และยัดข้อกล่าวหาหรือคดีความ แต่ความเป็นจริงการคุกคามทั้งทางกายภาพและทางจิตวิทยา ยังคงดำเนินต่อไปแทบไม่ต่างจากสมัย คสช.ยังมีอำนาจอยู่

ดังนั้นเราจึงขอเรียกร้องให้หยุดคุกคามประชาชน ทั้งทางกายภาพ ทางจิตวิทยาตลอดจนการยัดข้อหาเพื่อดำเนินคดีรวมไปถึงให้รัฐสภายกเลิกกฎหมายที่ละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย

3. “ร่างรัฐธรรมนูญใหม่” ที่ระบุว่า เรามีรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเผด็จการ คณะผู้ร่างไม่ได้มีความยึดโยงกับประชาชน ผู้ที่รณรงค์ให้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในการลงประชามติก็ถูกคุกคามและยัดข้อหากันไปหลายคน เนื้อหาของรัฐธรรมนูญก็เป็นไปเพื่อรักษาระบอบเผด็จการในคราบประชาธิปไตย ทั้งกรณี ส.ว.250 องค์กรอิสระ ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมและบัตรใบเดียวที่บิดเบือนเจตจำนงของประชาชน ยังมีโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรมอื่น ๆ อีกที่เป็นต้นตอปัญหาที่เรื้อรังมาเป็นเวลายาวนาน

หากภายใน 2 สัปดาห์นับตั้งแต่เราอ่านประกาศวันที่ 18 ก.ค.นี้ ไม่มีการตอบรับใด ๆ จากทางรัฐบาลเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทั้ง 3 ประการนี้ เราจะทำการยกระดับการชุมนุมต่อไป

ในเพจดังกล่าวยังระบุว่า ในวันที่ 18 ก.ค.จะมีแกนนำ ประกอบด้วย ฟอร์ด ทัตเทพ เลขาธิการ FreeYOUTH อั๋ว จุฑาทิพย์ ประธานสนท. ไมค์ ภาณุพงศ์ ประธานเยาวชนตะวันออกฯ นนท์ ณัฐชนน เยาวชนตะวันออกฯ และอีกหลายคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายภานุพงศ์ จาดนอก และนายณัฐชนน พยัฆพันธ์ คือ 2 บุคคลที่อ้างเป็นแกนนำเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ไปยืนชูป้ายไล่นายกฯ และถูกตำรวจ สภ.เมืองระยอง ควบคุมตัวไปดำเนินคดี จนกลายเป็นประเด็นอยู่ในเวลานี้

ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงได้ออกมาเตือนถึงการละเมิดกฎหมาย โดยพล.ต.ท.ภัคพงษ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ตำรวจยังไม่ได้รับหนังสือขออนุญาตชุมนุม ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 แต่ขณะนี้ อยู่ในช่วงของการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ดังนั้น การรวมตัวอันสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจมีความผิดตามกฎหมาย จึงขอความร่วมมือหากมีการนัดชุมนุมหรือรวมตัวให้คำนึงถึงสิทธิของผู้อื่นไม่ละเมิดหรือกระทำผิดกฎหมาย