เตือนโรงแรมโครงการ 'เที่ยวด้วยกัน' อย่าฉวยโอกาส ขู่ขึ้นบัญชีดำ
นายกฯ เผยพร้อมปรับครม. โดยเร็วที่สุด ส่วนที่ประชุม ศบค. เตรียมพิจารณามาตรการผ่อนคลายระยะที่ 6 และการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เตือนโรงแรมโครงการ “เที่ยวด้วยกัน” อย่าฉวยโอกาส ขู่ขึ้นบัญชีดำ
วันนี้ (21 ก.ค. 63) เวลา 12.45 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ย้ำคณะรัฐมนตรีทุกคนเข้าใจการทำงานภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพของประเทศไทย มั่นใจทุกคนอยากเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้า รัฐบาลเน้นดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนอย่างเหมาะสมและถูกต้อง
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงมาตรการการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยวันพรุ่งนี้ ตนเองจะเป็นประธานการประชุม ศบค. โดยมีวาระการพิจารณาเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 6 โดยคำนึงถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพประชาชนควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีวาระพิจารณาการขยายระยะเวลาการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันวัตถุประสงค์การใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เพื่อมาตรการทางสาธารณสุขให้เกิดความควบคุมในการป้องกันโรคเท่านั้น พร้อมยอมรับห่วงใยการเคลื่อนไหวชุมนุมที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นเยาวชน นักศึกษาซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง
นายกรัฐมนตรีกล่าว เตือนโรงแรมร่วม “โครงการเที่ยวด้วยกัน” ที่อาจปรับขึ้นราคาจากปกติ โดยมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตรวจสอบหากโรมแรมกระทำผิด ฉวยโอกาสขึ้นราคาที่พัก จะให้ขึ้นบัญชี Blacklist พร้อมแนะให้ผู้ประกอบการทุกคนต้องซื่อสัตย์ ซึ่งจะได้ส่งผลดีต่อกิจการ ทั้งนี้ รัฐบาลจะมีมาตรการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในเมืองรองและช่วยเหลือโรงแรมขนาดเล็ก รวมทั้งจะหารือกันถึงวันหยุดชดเชยสงกรานต์ที่ยังเหลืออีก 2 วัน ให้เหมาะสมต่อเนื่องกับวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันทำการให้มากขึ้น รวมทั้งเตรียมหารือมาตรการเศรษฐกิจกับ ครม. เศรษฐกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้น
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการปรับคณะรัฐมนตรี โดยขอบคุณสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมเผยว่าจะเร่งดำเนินการปรับคณะรัฐมนตรีให้เร็วที่สุด โดยต้องดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอนอย่างเหมาะสม ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติหลังจากมีการตอบรับ และจะนำกราบบังคมทูลเพื่อเสนอขอโปรดเกล้าฯ และถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณประจำปี 2564 ไม่อยากเห็นความขัดแย้ง หวังว่าแต่ละพรรคการเมืองจะพูดคุยร่วมมือกันหาทางออก เพื่อจัดทำงบประมาณประจำปี 2564 ในรัฐสภาให้ลุล่วงโดยเร็ว