จะได้เรื่องไหม? 'กรรมการ 3 ชุด'

 ในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต จากการขับรถชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 ซึ่งมีกำหนดจะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2570

วลีที่เจ็บปวด ทิ่มแทงไปถึงธุรกิจในครอบครัว ทิ่มแทงไปถึงหัวใจผู้ที่ใช้นามสกุล “อยู่วิทยา” ที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง ถึงขั้นต้องรวมตัวกันออกจดหมายเรียกร้องให้นายบอส ออกมาชี้แจงกับสังคม

เรื่องนี้ทุกฝ่ายในสังคมเห็นตรงกันว่า จะกลายเป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” ที่ลุกลามบานปลายได้ ถ้ารัฐบาล อัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังนิ่งเฉย

สุดท้าย ก็ไม่พ้นมุกเดิมของการซื้อเวลา ด้วยการตั้ง “คณะกรรมการ” ขึ้นมาเพื่อดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้แล้ว อย่างน้อย 3 ชุด

เริ่มตั้งแต่ “สำนักงานอัยการสูงสุด” หน่วยงานต้นทางของกระบวนการยุติธรรมที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก “นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด” ได้มีคำสั่งที่ พิเศษ/2563 แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดีบอส อยู่วิทยา รวม 7 คน เมื่อวันที่26 กรกฎาคม 2563

มอบหมายให้ นายสมศักดิ์ ติยะวานิช รองอัยการสูงสุด เป็นประธานคณะทำงาน กำหนดกรอบเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่น้อยหน้า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2563 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีบอส อยู่วิทยา ขึ้นมาอีกชุด

มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็นประธาน พร้อมคณะกรรมการรวม 10 นาย ตีกรอบให้คณะกรรมการทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง

29 กรกฎาคม 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 225/2563 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีอัยการไม่ฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา”

มี นายวิชา มหาคุณ อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธาน กำหนดกรอบเวลาต้องให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

ดูตามกรอบเวลาแล้ว 7 วันของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอัยการสูงสุด น่าจะให้คำตอบกับสังคมได้รวดเร็วที่สุด ส่วนคณะกรรมการชุดที่ตั้งโดยนายกรัฐมนตรี ผลน่าจะออกมาปลายเดือนสิงหาคม 63

ท่ามกลางความคาดหวังของสังคมว่า ไม่ใช่เพียงแค่ “การซื้อเวลา” ที่สุดท้ายแล้วก็...อีหรอบเดิม