'สมยศ' ปัดล้วงสำนวนบอส - อสส.รับรองคำสั่ง 'เนตร'
อดีตผบ.ตร. “สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” ปฏิเสธเกี่ยวข้องล้วงสำนวนคดี “บอส อยู่วิทยา” ปมถูกซัดทอดเปลี่ยนตัวเลขความเร็วรถ ลั่นไม่รู้จัก “พ.ต.อ.ธนสิทธิ์” แจงไทม์ไลน์ช่วงบินไปประชุมฟีฟ่าที่สวิตฯ “วิชา” เผย “วงศ์สกุล” อดีตอสส. การันตี “เนตร”
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา วานนี้ (20 ส.ค.) ได้มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน คดีนายวรยุทธ์ อยู่วิทยา หรือบอส ที่นายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ได้เชิญบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าชี้แจง
นายวิชา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ได้ยืนยันว่าการสั่งการของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เป็นการสั่งการโดยที่ได้รับมอบอำนาจให้เป็นผู้สั่งการคำสั่งเรื่องร้องขอความเป็นธรรม นายวงศ์สกุล บอกว่าแม้ว่านายสมศักดิ์ ติยะวานิช รองอัยการสูงสุด จะได้รับมอบอำนาจการดำเนินการเรื่องคดีอาญา ในเขตของศาลอาญากรุงเทพใต้ก็ตาม แต่ว่าการสั่งโดยนายเนตร กระทบไปถึงกรณีการสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่องการสั่งในคดี
“เราก็ถามว่า คำสั่งของนายเนตรไม่ทับอำนาจกับนายสมศักดิ์ เพราะเขาได้รับมอบอำนาจในการสั่งคดีนี้ อัยการสูงสุดชี้แจงว่า เป็นคนละเรื่องกัน เรื่องนี้ก็สำคัญเหมือนกัน เพราะกระบวนการในการสั่งร้องขอความเป็นธรรม แม้ว่าจะเป็นการสั่งอันเนื่องจากมีผู้ร้องมา แต่ปัญหาก็คือ สิ่งที่ร้องมาจะต้องสั่ง ไปเกี่ยวพันกับคดีอย่างนี้ โดยนายเนตรมีอำนาจโดยสมบูรณ์หรือไม่ คณะกรรมการฯ จึงขอร้องว่าหากเคยมีคดีลักษณะแบบนี้ ขอให้ช่วยส่งรายละเอียดคดีเหล่านั้นมาให้พิจารณาด้วย”
นายวิชา กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.ได้มาชี้แจงว่า ในวันที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น (ตำรวจพิสูจน์หลักฐานคดีบอส ซึ่งเปลี่ยนความเห็นเรื่องความเร็วรถเฟอร์รารีจาก 177 กม./ชม. เหลือ 79.22 กม./ชม.) กล่าวอ้างว่า ได้พานายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม (อาจารย์ประจำ และหัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ) มาพบในวันที่ 26 ก.พ.2559 นั้น เขาไม่ได้อยู่ประเทศไทย แต่ไปประชุมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้มอบเอกสารหลักฐานให้คณะกรรมการด้วย
และยอมรับว่า เขาอยู่ในคณะกรรมาธิการ(กมธ.กฎหมาย สนช.) ที่มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ก็แสดงว่า ท่านปฏิเสธไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ แต่ยอมรับว่าเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อยู่ใน กมธ.กฎหมายฯ ชุดดังกล่าว และยอมรับว่าได้มีการส่งรายงานผลการพิจารณาไปที่อัยการสูงสุดด้วย
เมื่อถามว่าถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สมยศ และ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ให้ข้อมูลไม่ตรงกันนั้น นายวิชา กล่าวว่า เราจะไม่พูดว่า ใครผิด ใครถูก จะต้องมีการตรวจสอบกันต่อไป แต่เมื่อเป็นเช่นนี้กระบวนการรับฟังข้อเท็จจริงยังไม่สิ้นสุด เนื่องจาก พล.ต.อ.สมยศ ไม่ยอมรับ ตามที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ และ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผู้กำกับ สน.ทองหล่อ ให้ข้อมูลไว้ หลังจากนี้ คณะกรรมการจะปรึกษาหารือกันเพื่อพิสูจน์ความจริงต่อไป สำหรับวันนี้ เรียกว่าเราพบประเด็นขึ้นมาเท่านั้น
นายวิชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คณะกรรมการได้เชิญ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รอง ผบ.สำนักงานส่งกำลังบำรุง ซึ่งในขณะนั้นปฏิบัติหน้าที่อยู่ในกองงานต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นผู้ติดต่อกับอินเตอร์โพล เพื่อขอให้มีการออกหมายแดงจับนายวรยุทธ อยู่วิทยา และได้รับทราบว่าหลังจากที่มีการดำเนินการ พล.ต.อ.อภิชาติ ถูกโยกย้ายแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวหลายครั้ง และได้ไปอยู่ในสายงานที่เจ้าตัวไม่คุ้นเคย จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ไหนอีก และอยากให้สื่อมวลชนช่วยกันจับตามองการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้าด้วย
ทางด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ให้สัมภาษณ์ภายหลังชี้แจงต่อคณะกรรมการว่า ขอยืนยันว่าช่วงเวลานั้นระหว่างวันที่ 23 -28 ก.พ.2559 ตนเดินทางไปประชุมฟีฟ่า ที่สวิตเซอร์แลนด์ โดยได้นำภาพถ่ายการเข้าร่วมประชุมดังกล่าวมาให้คณะกรรมการฯพิจารณาด้วย จึงไม่ได้อยู่ในห้องสอบสวนคดีตามที่มีการกล่าวอ้าง ส่วนใครพูดอะไรไว้ ทำอะไรไว้ ก็ต้องรับผิดชอบ
"ยืนยันว่า ผมไม่ได้รู้จักกับพ.ต.อ.ธนสิทธิ์ มาก่อน ผมไม่รู้จักใคร และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ผมไม่ทราบว่าทำไมถึงมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เอาเป็นว่าผมไม่ได้อยู่ หรือไม่ได้ทำอะไรที่เป็นไปตามข่าวที่กล่าวอ้าง และผมไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ หรือมีปัญหากับใคร ฝากสื่อมวลชนทำให้กระจ่างในข้อเท็จจริง สังคมพิพากษาผม หรือคิดไปเอง เดากันไปเอง จนกระทั่งมีวันนี้ ขอบคุณคณะกรรมการชุดนี้ ที่เปิดเวทีให้ผมพิสูจน์ตัวเอง มั่นใจว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์” อดีต ผบ.ตร.ระบุ
พล.ต.อ.สมยศ ระบุด้วยว่า มั่นใจว่าการชี้แจง ได้เคลียร์ข้อกล่าวหาทั้งหมด เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง และไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ใครที่ทำอะไรไว้ ขอให้พึงระมัดระวัง และต้องรับผิดชอบด้วย เพราะว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยไม่อาจปกป้องตัวเองบางครั้ง เมื่อเป็นข่าวออกไป และถูกสังคมพิพากษา ครอบครัวของตนก็ได้รับผลกระทบ ทุกคนมองว่าตนเป็นคนไม่ดี เลวที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงทิ้งเวลาไว้ ไม่รีบออกมาชี้แจงตั้งแต่แรก พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เพราะตนอยากรู้จักคนว่า ใครคือเพื่อนแท้ ที่เข้ามาให้กำลังใจช่วยเหลือ และใครคือคนที่ชั่ว รอซ้ำเติมทำร้าย เพราะตนรู้ตัวเองว่าทำอะไรลงไป ส่วนที่ไม่ไปชี้แจง กมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาฯเพราะมารอชี้แจงกับคณะกรรมการชุดนี้ เพราะคิดว่ามาชี้แจงชุดเดียวก็พอ
สำหรับเอกสารที่ พล.ต.อ.สมยศ นำมายืนยันต่อคณะกรรมการ ระบุว่าเดินทางออกจากประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 00.35 นาฬิกา วันที่ 24 ก.พ.2559 ด้วยสายการบินไทย ที่ TG907 จากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังสนามบินซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จากนั้นวันที่ 25 ก.พ.2559 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่โรงแรมแมริออท เมืองซูริก ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ฟีฟ่าและ AFC วันที่ 26 ก.พ.2559 มีการเลือกตั้งประธานฟีฟ่า (คนใหม่) ที่ฮัลเลน สตาดิโอน สนามอินดอร์สเตเดี้ยม เมืองซูริก
ส่วนวันที่ 27 ก.พ.2559 เวลา 13.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ออกเดินทางจากสนามบินซูริก กลับประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 971 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 28 ก.พ.เวลา 06.10 น.