'ศบค.'เผยมาตรการ'โควิด'ไม่มี'ล็อกดาวน์'ประเทศ แต่แบ่งพื้นที่เป็น4ระดับ

ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เพื่อพิจารณาเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดของโควิดในประเทศระลอกใหม่

โดยนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.แถลงมติที่ประชุมว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาความพร้อมในการป้องกันการระบาดใหม่ โดยไม่มีการพิจารณาล็อกดาวน์ประเทศในที่ประชุมเลย

ทั้งนี้ ที่ประชุมหารือกันว่าการไม่ล็อกดาวน์จะทำอย่างไร จึงวางแผนกำหนดพื้นที่ตามสถานการณ์ ได้แก่ 1. พื้นที่ควบคุมสูงสุด จ.สมุทรสาคร จังหวัดเดียว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการติดเชื้อจำนวนมาก โดยเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อ แยกกักผู้ติดเชื้อ ด้วยการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ดูแลความเป็นอยู่ของครอบครัวผู้ติดเชื้อ จำกัดเวลาเปิดปิดสถานประกอบการที่มีความจำเป็น ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาด ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวโดยเด็ดขาด ควบคุมการเข้าออกยานพาหนะ รวมถึงคนไทย โดยไม่ให้กระทบต่อการค้าและอุตสาหกรรมเกินความจำเป็น จัดตั้งด่านตรวจคัดกรอง จุดสกัด สายตรวจ ใช้มาตรการ Work from home เต็มขีดความสามารถ สถานศึกษาปรับรูปแบบการเรียนออนไลน์ งดจัดกิจกรรมที่รวมคนจำนวนมากทุกรูปแบบ ทุกสถานประกอบการ โรงงานที่ยังเปิดดำเนินการให้เน้นมาตรการป้องกันเต็มขีดความสามารถ หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้หยุดดำเนินการ ส่วนการประมงดำเนินการได้ แต่ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อก่อนออกเรือ และจะมีการตรวจหาเชื้อเชิงรุกทางทะเล

2.พื้นที่ควบคุม คือพื้นที่ที่ติดต่อกับพื้นที่ควบคุมสูงสุด มีผู้ติดเชื้อเกิน 10 คน และมีแนวโน้มติดเชื้อเพิ่ม ต้องตรวจหาเชื้อเชิงรุก 

โดยห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว และงดจัดกิจกรรมสาธารณะ ยกเว้น กิจกรรมที่จำกัดจำนวนคน หรือกิจกรรมของคนรู้จักเพื่อนฝูงคุ้นเคย ไม่ใช่กรณีที่มีคนจำนวนหลายร้อยคน 

3.พื้นที่เฝ้าระวังสูง คือมีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 คน มีแนวโน้มควบคุมสถานการณ์ได้ และ 4.พื้นที่เฝ้าระวัง คือไม่มีผู้ติดเชื้อ และไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะติดเชื้อ

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัด จะไปพิจารณากำหนดพื้นที่จังหวัดของตัวเองอยู่ในพื้นที่ประเภทใด โดยที่ประชุมได้ขอให้ไม่ต้องใส่สีแบ่งพื้นที่ เพราะจะไปเชื่อมโยงกับอะไรบางอย่าง