ด่วน!มีเสียงดังคล้ายระเบิด 3 ครั้งหน้าศาลฎีกา 'ม็อบราษฎร' แตกตื่น
'ม็อบราษฎร' ฝ่าแนวกั้น หลังเคลื่อนขบวนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ดัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกระเจิง มุ่งหน้าต่อไปศาลหลักเมือง จากนั้นได้ขว้างขวดพลาสติกและวัสดุต่างๆใส่ เเนวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะมีเสียงดังคล้ายระบิด 3 ครั้งหน้าศาลฎีกา
13 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มราษฎร นัดหมายทำกิจกรรม “นับ 1 ให้ถึงล้าน คืนอำนาจประชาชน” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯ โดยเวลา 17.50 น. ผู้ชุมนุมหลังประชาชนเข้ารื้อต้นไม้บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการนำมาจัดเรียงเป็นเลข 112 ตามที่นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ประกาศ ส่งผลให้ผิวจราจรในวงเวียนปรากฏเลข 112 ที่เรียงจากไม้ดอกไม้ประดับในจุดต่างๆจำนวนมาก
ต่อมา นายอรรถพล บัวพัฒน์ (ครูใหญ่ พอกันที) แกนนำราษฎร เปิดเผยว่าภายใน 7 วัน ถ้าไม่มีสัญญาณเรื่องเสรีภาพของแกนนำราษฎรทั้ง 4 ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ จะเปิดศึกใหญ่ รวมกำลังจากทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ อีสาน มาชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร และมีการประกาศมุ่งหน้าไปศาลหลักเมืองกันต่อ เพื่อทวงคืนจิตวิญญาณเมืองให้กลับมาเป็นของราษฎร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเคลื่อนขบวน พบว่ามีการปะทะกันเล็กน้อย ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการ์ดของผู้ชุมนุมบริเวณสะพานผ่านพิภพลีลาศ จนสามารถฝ่าด่านของตำรวจออกไปได้ โดยมีตำรวจชุดควบคุมฝูงชนกว่า 1 กองร้อย และนำรถฉีดน้ำแรงดันสูง 2 คัน ตรึงกำลังอยู่หลังแนวรั้วลวดหนามกับแบริเออร์ หน้าพระบรมมหาราชวัง ขณะที่ตำรวจ สน.พระราชวัง ประกาศสั่งยุติการชุมนุม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้แกนนำมาเจรจากับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากว่า ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อความร่วมมือ หลังกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามรื้อแนวรั้วลวดหนาม พร้อมระบุเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการปะทะกับประชาชน ในขณะเดียวกันต้องรักษาระยะการชุมนุม 150 เมตร จากเขตพระราชฐาน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศใช้มาตราการจากเบาไปหาหนัก หากมวลชนยังฝ่าฝืนเข้ามายังพื้นที่หวงห้าม
19.40น. แกนนำประกาศนับถอยหลังจากนั้นได้ขว้างขวดพลาสติกและวัสดุต่างๆใส่ เเนวเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นมีเสียงดังคล้ายระบิด 3 ครั้งหน้าศาลฎีการ ทำมวลชนแตกตื่นถอยร่นมุ่งหน้าสะพานผ่านพิภพลีลา
19.43น. กู้ชีพรับแจ้ง ขอรถสนับสนุนรับเจ้าหน้าที่ ได้รับบาดเจ็บ เหตุจากการขว้างปาสิ่งของ จากกลุ่มผู้ชุมนุม