ส่อง ‘6 รัฐมนตรีโลกลืม’ ลุ้น'ครม.ประยุทธ์ 2/3' ไปต่อ-พอแค่นี้?

สัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ณ เวลานี้เริ่มเห็นเค้าลางและโฉมหน้าการปรับ“ครม.ประยุทธ์2/3” หลังจากที่ล่าสุด“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกมาตอบความชัดเจนในเรื่องนี้ว่าภายในปลายเดือนมี.ค.หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินต้นเดือนเม.ย.จะได้เห็นโฉมหน้าครม.อย่างแน่นอน

อย่างที่รู้กันว่า “การปรับครม.” รอบนี้เป็นผลพวงมาจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ปรากฎภาพแรงกระเพื่อมโดยเฉพาะจากกลุ่มก้อนการเมืองในขั้วรัฐบาล รวมทั้งสูญกาศหลัง “3รัฐมนตรี” ทั้ง พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม,ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และ ถาวร เสนเนียมรมช.คมนาคม ซึ่งเป็นแกนนำกปปส.ถูกศาลอาญาตัดสินจำคุกในคดีการชุมนุมเมื่อปี57 ส่งผลให้ขาดจากความเป็นรัฐมนตรีในทันที 

ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการจับตาไปที่โฉมหน้าครม.ที่อาจถือโอกาสนี้ “เขย่าใหญ่” ทั้งรัฐมนตรี “บิ๊กเนม” และ “โนเนม”เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นและฟื้นคะแนนนิยมรัฐบาล ที่แม้แต่ตัว “พล.อ.ประยุทธ์” เองยังยอมรับว่า“กำลังพิจารณาในเรื่องดังกล่าว”

กลุ่มที่อาจต้องลุ้นในการปรับครม.รอบนี้หนีไม่พ้น “6รัฐมนตรี” ที่ไม่ค่อยปรากฎตัวออกสื่อจนถูกเรียขานว่าเป็น “รัฐมนตรีโลกลืม”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ส่องคอนเนคชั่นการเมือง 4 ว่าที่ รมต.พลังประชารัฐ

ทั้ง “คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช” รมช.ศึกษาธิการ ซึ่งถูกจับตามาตั้งแต่ครั้งการ ปรับครม.2/2 ที่ครั้งนั้นมีข่าวลือเล็ดลอดมาว่า คุณหญิงกัลยาอาจหลุดจากตำแหน่งรมช.ศึกษาธิการ พร้อมมีชื่อ นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เสียบตำแหน่งดังกล่าวแทน 

แม้ท้ายที่สุด “คุณหญิงกัลยา” จะสามารถเกาะเก้าอี้ “เสมา2” ไว้ได้อย่างเหนียวแน่นมาจนถึงปัจจุบัน แต่ต้องไม่ลืมว่า แรงกระเพื่อมภายในพรรคปชป.บวกความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคบางส่วน  ณ เวลานี้ มีความพยายามที่จะให้เปลี่ยนตัว คุณหญิงกัลยา หลังดำรงตำแหน่งมานานกว่า1ปีตั้งแต่ครม.ประยุทธ์2/1 เพราะมองว่าผลงานในตำแหน่งรมช.ศึกษาธิการ ยังไม่มีผลงาน “ชิ้นโบแดง” ที่โดดเด่นหรือช่วยสร้างคะแนนความนิยมให้กับพรรคได้

ยังไม่นับรวมกับจำนวนส.ส. ปชป.ที่ล่าสุดเหลือ50คน หลัง "ชุมพล จุลใส" และ "อิสระ สมชัย" ถูกศาลตัดสินจำคุกในคดีชุมนุมกปปส.และถูกตัดสิทธิกาเมืองเป็นเวลา5ปี รวมทั้งในส่วนของ "ถาวร เสนเนียม"  ที่ยังต้องไปลุ้นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่จะชี้ขาดสถานะส.ส.หลังจากนี้ 

 ดังนั้น หากใช้สูตร "ส.ส.7คนต่อรัฐมนตรี1คน" เท่ากับว่า ปชป.จะเหลือโควตารัฐมนตรี7คนจากปัจจบันปชป.มีรัฐมนตรี7คน8ตำแหน่ง

 การปรับครม.รอบนี้จึงมีการมองว่า ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนมือผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นเสมา2แล้วหรือไม่

ไม่ไปจาก“เสมา3” อย่าง “ครูโอ๊ะ” กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ แม้ก่อนหน้านี้จะเรียกเสียงเสียงฮือฮาพร้อมคำชมกรณี “ครูจุ๋ม” ทำร้ายนักเรียน จนทำให้“สปอร์ตไลท์” สาดไปที่บทบาทของเสมา3ผู้นี้ บวกกับการปรากฎตัวผ่านสื่อล่าสุดในฐานะ1ใน5รัฐมนตรี ที่ประเดิมฉีดวัคซีนป้องกันโควิดล็อตแรกแล้ว

คงต้องไปลุ้นกันว่าการปรับครม.รอบนี้ “ครูโอ๊” ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มรัฐมนตรีโลกลืมจะยังสามารถเกาะเก้าอี้เสมา3ไว้ได้อย่างเหนียวแน่นหรือไม่  

เช่นเดียวกับ “เฮียป้อ” วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ และ “ทรงศักดิ์ ทองศรี” รมช.มหาดไทยที่ในช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยปรากฎตัวออกสื่อมากนัก

แต่ด้วยยี่ห้อภูมิใจไทย ที่มี“หัวหน้าหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล  เป็นแบ็คอัพชั้นดี  ทั้งยังสามารถกวาดเสียง4ส.ส.งูเห่าพรรคก้าวไกล จากศึกซักฟอกมาเติมให้กับทางรัฐบาลเพื่อเติมแต้มต่อรองได้ โดยเฉพาะรัฐมนตรีทรงศักดิ์ ที่เป็นสายตรง“เนวิน ชิดชอบ” พี่ใหญ่แห่งภูมิใจไทยแล้ว

คงต้องไปลุ้นกันว่า โผครม.ที่ออกมา3รัฐมนตรีจากค่ายภูมิใจไทย ทั้งครูโอ๊ะ,เฮียป้อและทรงศักดิ์ จะยังสามารถเกาะเก้าอี้ไว้ได้เหนียวแน่นดังเดิมหรือไม่  

เพราะแม้แต่"หัวหน้าหนู" เองยังออกมายอมรับว่า "ดีลแลกกระทรวงอาจเป็นออฟชั่นในการปรับครม.ครั้งนี้"

อีกคนที่ต้องลุ้นคือ “ประภัตร โพธสุธน”  รมช.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ที่นอกเหนือจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มรัฐมนตรีที่โลกลืมแล้วการปรับครม.รอบนี้มีการจับตาไปที่โควตาพรรคชทพ. เพราะหากใช้สูตร "ส.ส.7คน ต่อรัฐมนตรี1ที่นั่ง" แล้วชทพ.ซึ่งมีส.ส.11คนแต่มีรัฐมนตรี2คน เท่ากับว่าเกินมา1โควตา

ยิ่งไปกว่านั้นชทพ.ยังต้องเผชิญคู่แข่งสำคัญคือ 10พรรคเล็กที่มีส.ส.กว่า10ที่นั่ง บวกกับ4เสียงจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่ย้ายมาอยู่ขั้วรัฐบาล เท่ากับว่าพรรคเหล่านี้จะต้องได้โควตารัฐมนตรี1ที่นั่งเป็นอย่างน้อย

และเวลานี้พรรคเล็กเองดูเหมือนว่าจะไม่ได้ว่านอนสอนง่าย หรือแจกกล้วยได้เหมือนดังแต่ก่อนในทางกลับกันกำลังเดินเกมก่อคลื่นใต้น้ำหวังกดดันไปถึงผู้นำรัฐบาล ทวงสัญญาใจไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลในการปรับทัพด้วยความหวังที่จะได้นั่งเก้าอี้เสนาบดีอีกด้วย

ที่สุด"ประภัตร"อาจต้องไปลุ้นข้ามพรรคที่โควตาพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)ซึ่งมีส.ส.5คนต่ำกว่าโควตา แต่มีรัฐมนตรี1ที่นั่งว่าจะถูกเรียกคืนโควตาหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น"ประภัตร"ก็อาจจะยังมีหวังที่จะได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีต่อ

อีกคนที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มรัฐมนตรีที่โลกลืมหนีไม่พ้น “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ”  รมช.คมนาคม  ที่แม้จะมี “แบ็คอัพชั้นดี” อย่างวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำพรรคพลังประชารัฐและประธานวิปรัฐบาลผู้เป็นพ่อ แต่จากแรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นภายในพรรค การอยู่ในกลุ่มในกลุ่มรัฐมนตรีที่โลกลืมก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องไปไปลุ้นกันต่อไปว่าเขาจะยังคงได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่นี้ต่อไปหรือไม่

จากกระแสกดดันที่พุ่งตรงมายังรัฐบาลบวกแรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้น แม้มีการประเมินว่าถึงอย่างไรรัฐบาลก็ได้ไปต่อ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเขย่าใหญ่ครม.รอบนี้ย่อมมีผลไปถึงการกู้ภาพลักษณ์รัฐบาลได้อีกทางหนึ่งด้วย