'วัคซีน' กับธรรมาภิบาลภาครัฐ

'วัคซีน' กับธรรมาภิบาลภาครัฐ

เปิดบทวิเคราะห์ "วัคซีน" กับธรรมาภิบาลภาครัฐในการบริหารจัดการหริอไม่ อย่างไร

ช่วงนี้มีแต่คนพูดเรื่องวัคซีน พูดกันทั้งประเทศ ในทุกช่องทางสื่อสาร ที่พูดกันมากเพราะคนส่วนใหญ่กังวลเรื่องโควิดว่าการระบาดอาจคุมไม่ได้และยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ไม่เหมือนเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน จึงต้องการฉีดวัคซีน แต่ข่าวที่ออกมาจากภาครัฐไม่สร้างความเชื่อมั่นในเรื่องนี้

ล่าสุดระบบหมอพร้อมที่รับจองการฉีดวัคซีนก็หยุดรับจองไปเฉยๆ สร้างความสับสนว่าจะมีวัคซีนให้ฉีดหรือไม่ ถามถึงธรรมาภิบาลภาครัฐในเรื่องวัคซีน คือ การบริหารจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใสและเป็นธรรมซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ นี่คือประเด็นที่จะเขียนวันนี้

ธรรมาภิบาล คือ การทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งหมายถึงการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใส เป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้ และตรงไปตรงมา คือไม่ผิดกฎหมายหรือระเบียบต่างๆ ซึ่งสำหรับภาครัฐเราคือฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ ธรรมาภิบาลเป็นปัญหาใหญ่เห็นได้จากการทุจริตคอร์รัปชันที่มีมาก การใช้เส้นสายระบบอุปถัมภ์ และการดำเนินนโยบายสาธารณะในแง่ประโยชน์ที่จะมีต่อส่วนรวม

นโยบายวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นนโยบายสาธารณะที่สำคัญของประเทศขณะนี้ เพราะวิกฤติคราวนี้เป็นเรื่องใหญ่ กระทบความเป็นความตายของคนในประเทศ ประชาชนจึงหวังพึ่งรัฐบาลให้ตัดสินใจอย่างถูกต้อง เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ไม่มีทางเลือกอื่น

การบริหารจัดการวัคซีน แบ่งได้เป็น 3 ขั้นตอน 1.การจัดหาวัคซีนให้ประชาชนอย่างเพียงพอ ซึ่งหมายถึงนโยบายเกี่ยวกับการนำเข้าและการผลิตในประเทศ 2.การกระจายวัคซีนให้กลุ่มต่างๆ ซึ่งในช่วงแรกคือ นโยบายที่ลำดับความสำคัญว่าใครควรได้ฉีดก่อนหลัง ด้วยเหตุผลอะไร 3.การฉีดวัคซีนให้ประชาชนซึ่งเกี่ยวกับสมรรถภาพของระบบสาธารณสุข การสื่อสารเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน และการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจและประชาชนที่จะเข้ามาช่วยเพื่อให้การฉีดวัคซีนสามารถทำได้มากและเร็ว

ทั้งสามขั้นตอนนี้เป็นความท้าทายกับทุกประเทศที่กำลังฉีดวัคซีนให้ประชาชน และในทุกขั้นตอนมีประเด็นธรรมาภิบาลสำคัญที่ต้องพิจารณา เพื่อให้ประชาชนมั่นใจและให้ความร่วมมือ

ขั้นตอนแรกของการจัดหาวัคซีน เป็นขั้นตอนของการบริหารความเสี่ยงให้กับคนทั้งประเทศ โดยทำให้ประเทศมีวัคซีนเพียงพอที่จะปกป้องประชาชนจากโรคระบาด ประเด็นธรรมาภิบาลสำคัญในขั้นตอนนี้คือ การตัดสินใจอย่างมีเหตุผลเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม สามารถอธิบายได้ มีความโปร่งใสในเรื่องที่ตัดสินใจ เพื่อให้สามารถตอบคำถามได้ เช่น ทำไมถึงเลือกนำเข้าวัคซีนเพียงแค่สองยี่ห้อ ทำไมเลือกที่จะให้มีการผลิตในประเทศทั้งที่อาจล่าช้า ตอนนี้ประเทศมีวัคซีนอยู่เท่าไร จะนำเข้าอีกเท่าไรและจะมีเพียงพอที่จะฉีดให้กับประชาชนตามตารางเวลาที่ประกาศไว้หรือไม่ 

ความชัดเจนในเรื่องเหล่านี้สำคัญเพราะจะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ตรงข้ามถ้าไม่ชัดเจน ตอบไม่ได้ ไม่ยอมตอบหรือทำเป็นความลับ ความหวาดระแวงในหมู่ประชาชนก็จะมาก ทำให้ประชาชนจะไม่ไว้วางใจหรือไม่ Trust รัฐบาลในการทำหน้าที่

ในระดับสากล ขั้นตอนนี้ขณะนี้มีความไม่แน่นอนมาก เพราะปริมาณความต้องการวัคซีนจากประเทศต่างๆ ได้เพิ่มสูงขึ้น จากที่หลายประเทศหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ด้วยการฉีดวัคซีนเพื่อลดการระบาด แต่ในระดับประเทศความชัดเจนในเรื่องนี้สำคัญมาก ที่ต้องตอบคำถามต่างๆ ให้ได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและรักษาความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาล

ขั้นตอนที่สอง การกระจายวัคซีนไปสู่กลุ่มต่างๆ ตามนโยบายจัดสรรของรัฐบาล ซึ่งสำคัญมากในช่วงแรกเพราะวัคซีนจะมีไม่พอ ต้องมีการจัดลำดับความสำคัญว่าจะฉีดให้กลุ่มไหนก่อน ด้วยเหตุผลอะไร ประเด็นธรรมาภิบาลสำคัญในขั้นตอนนี้คือความมีเหตุผล ความเป็นธรรม ความโปร่งใสและการปฏิบัติตามระเบียบที่ได้วางไว้ (Compliance)

ความเป็นธรรมในที่นี้ไม่ได้หมายถึงทุกคนจะต้องได้รับวัคซีน แต่หมายถึงการจัดสรรวัคซีนตามความจำเป็นที่จะลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยทำอย่างถูกต้อง ซึ่งดูจากตัวเลขล่าสุดเห็นได้ว่าความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการระบาดมากสุดขณะนี้อยู่ที่กลุ่มประชาชนที่ยังต้องทำงาน ทั้งในออฟฟิศ ในโรงงาน การบริการ ขนส่งสาธารณะ ขายปลีก ดิลิเวอรี่ แม่ค้า ร้านอาหาร ที่เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับวัคซีนเป็นอันดับต้นๆ เพื่อลดความเสี่ยงของการระบาด

ในแง่ความโปร่งใสและการปฏิบัติตามระเบียบ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่มีปัญหาธรรมาภิบาลมากสุด โดยเฉพาะในประเทศเรา เพราะไม่รู้ว่าใครได้ฉีด ได้ด้วยเหตุผลอะไร เป็นไปตามระเบียบหรือไม่ หรือได้ด้วยการใช้อภิสิทธิ์ เส้นสายหรืออำนาจในระบบราชการจัดสรรวัคซีนโดยอ้างนโยบาย

ในต่างประเทศขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่การเมืองเข้ามาแทรกแซงมากสุด เพราะนักการเมืองต้องการใช้วัคซีนเป็นเครื่องมือในการหาแต้มทางการเมือง โดยจัดสรรวัคซีนให้กับพื้นที่หรือท้องถิ่นตนก่อน ที่ออสเตรเลีย จุดนี้เป็นจุดที่นักการเมืองระดับรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นตอบโต้กันเพื่อหาแต้มทางการเมือง

ในบ้านเราก็เช่นกัน เพราะมีบางจังหวัดได้วัคซีนไปอวดประชาชนในพื้นที่ แต่บางจังหวัดอาจไม่ได้ ทำให้วัคซีนถูกนำไปใช้กับกลุ่มประชากรที่ไม่เร่งด่วน ไม่ได้เป็นพื้นที่สีแดง เบี่ยงเบนจากเป้าหมายการลดการระบาดเหตุเพราะความต้องการทางการเมือง

ขั้นตอนที่สาม การฉีดวัคซีนให้ประชาชน ซึ่งขึ้นอยู่กับสมรรถภาพของระบบสาธารณสุขทั้งในภาครัฐและเอกชน ประเด็นธรรมาภิบาลสำคัญในขั้นตอนนี้คือ ความโปร่งใส การปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น ไม่ใช้เส้นสายแซงคิว ทำจริงจัง ไม่รั่วไหล ในขั้นตอนนี้การมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจและประชาชนสำคัญ เพราะจะช่วยสอดส่องดูแลความไม่ปกติต่างๆ และช่วยยกระดับสมรรถภาพการฉีดวัคซีนของประเทศ ซึ่งทำได้สามทาง 

หนึ่ง ช่วยในการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความจำเป็นและความปลอดภัยของวัคซีน เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน

สอง ใช้ทรัพยากรและสถานที่ของภาคธุรกิจ เช่น ศูนย์การค้าหรือในห้างใหญ่เป็นสถานที่ฉีดวัคซีน โดยภาคธุรกิจช่วยเหลือในเรื่องการบริหารจัดการและจัดให้มีอาสาสมัครช่วยงาน

สาม ระดมเงินช่วยเหลือจากบริษัทต่างๆ ในรูปกองทุนเพื่อช่วยในการจัดซื้อสิ่งของที่จำเป็น จ่ายค่าล่วงเวลาให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หรือจ้างพนักงานจากภายนอกมาทำงานแทนพยาบาลที่ทำงานแอดมินในสถานพยาบาล เพื่อให้พยาบาลเหล่านี้ไปช่วยงานฉีดวัคซีน ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงไม่ควรปฏิเสธบทบาทของภาคเอกชนและภาคประชาชนที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ควรเปิดพื้นที่ให้มากเพราะเป็นวินวินกับทุกฝ่าย

เห็นได้ว่าประเด็นด้านธรรมาภิบาลเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีนมีมาก และต้องให้ความสำคัญเพราะเป็นนโยบายสาธารณะที่สำคัญของประเทศ รัฐบาลต้องให้ความสำคัญสูงสุดและต้องทำเรื่องนี้ให้ดี เพราะรัฐบาลเป็นความหวังเดียวของประชาชนที่จะนำประเทศให้รอดจากวิกฤติคราวนี้ สำหรับนักการเมือง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นความเป็นความตายของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เวลาหาเสียง ควรที่ต้องร่วมมือกัน วางเรื่องการเมืองไว้ก่อน ช่วยกันแก้ปัญหาที่ประเทศชาติมี เพื่อไม่ให้ประชาชนทั้งประเทศลำบากและผิดหวัง