เปิดผลโหวต 'ร่างแก้รธน.' วาระสอง พรรคเล็กเสียงแตก - ส.ว. แยกลงมติ 3 ทาง

เปิดผลโหวต 'ร่างแก้รธน.' วาระสอง พรรคเล็กเสียงแตก - ส.ว. แยกลงมติ 3 ทาง

หลังการลงมติวาระสอง ของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง แม้ผลโดยรวม แต่ละมาตราจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา เมื่อดูตัวเลขเรียงมาตราแล้วพบว่า มีความน่าสนใจ ต่อทิศทางในการลงมติวาระสาม

        ผู้สื่อข่าวรายงาน ถึงผลการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่...) พ.ศ..... แก้ไขมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง  ซึ่งรัฐสภาผ่านการพิจารณาเป็นรายมาตรา ในวาระสอง เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 
        โดยพบผลการลงคะแนนเป็นรายมาตรา ในส่วนของพรรคการเมืองใหญ่ มีความชัดเจนต่อการลงมติ โดยฝั่งที่เห็นด้วยกับการแก้ไขของกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างมาก ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ, พรรคเพื่อไทย, พรรคประชาธิปัตย์ , พรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคชาติพัฒนา รวมถึงพรรคเล็กร่วมรัฐบาลบางพรรค
        ขณะที่ พรรคภูมิใจไทย ลงมติงดออกเสียงทุกมาตรา ส่วน พรรคก้าาวไกล นั้นมีลงมติไม่เห็นด้วยและงดออกเสียง 
        โดยมีผลการลงมติแต่ละมาตรา เป็นดังนี้  

        แก้ไข มาตรา 83 มีสาระสำคัญ ให้มีส.ส. มีจำนวน 500 คนประกอบด้วย ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 คน และ ส.ส.จากบัญชีรายชื่อ 100 คน และ เพิ่มวรรคใหม่ ให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ผลการลงมติพบว่า  เห็นด้วย 476 เสียง ต่อไม่เห็นด้วย 70เสียง และ งดออกเสียง 91 เสียง

        เสียงเห็นด้วย ได้แก่ พรรคเพื่อไทย, พรรคพลังประชารัฐ , พรรคประชาธิปัตย์ , พรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคเพื่อชาติ, พรรคชาติพัฒนา, พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย, พรรคประชาธิปไตยใหม่ และ พรรคประชาภิวัฒน์

        เสียงไม่เห็นด้วย พรรคก้าวไกล , พรรคเสรีรวมไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคครูไทเพื่อประชาชน , พรรคประชาธรรมไทย, พรรคพลังธรรมใหม่, พรรคพลังปวงชนไทย, พรรคเพื่อชาติไทย

        งดออกเสียง ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย , พรรคเศรษฐกิจใหม่, พรรครวมพลังประชาชาติไทย, พรรคพลเมืองไทย

        ทั้งนี้ ส.ส.พรรคเล็กที่ไม่ปรากฎการลงคะแนน คือ พล.ต.ทรงกล ทิพย์รัตน์ ส.สงพรรคพลังชาติไทย, นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ และ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.พรรคไทรักธรรม

        สำหรับพรรคพลังท้องถิ่นไท พบการลงมติเป็น 2 ทาง คือ เห็นด้วย ได้แก่ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ และ นายจารึก ศรีอ่อน ออกเสียงไม่เห็นด้วย ได้แก่ นายโกวิทย์ พวงงาม, นายชัชวาลล์ คงอุดมและนายนพดล แก้วสุพัฒน์

        ขณะที่ส.ว.นั้น พบว่า เสียงแบ่งเป็น 3 ฝ่าย คือ เห็นด้วย 180 เสียง, ไม่เห็นด้วย 4 เสียง ได้แก่ นายเจน นำชัยศิริ, นายมณเฑียร บุญตัน, พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร, พล.อ.สกล ชื่นตระกูล , งดออกเสียง 19 เสียง และ ไม่ปรากฎการลงคะแนน 47 คน

        แก้ไข มาตรา 86 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มีสาระสำคัญ ว่าด้วยวิธีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้ง 400 เขต ผลการลงมติพบว่า เห็นด้วย 471 เสียง ต่อ ไม่เห็นด้วย 6 เสียง  และ งดออกเสียง 133 เสียง

        สำหรับเสียงเห็นด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคพลังประชารัฐ , พรรคประชาธิปัตย์ , พรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคเพื่อชาติ, พรรคชาติพัฒนา, พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย, พรรคประชาธิปไตยใหม่, พรรคประชาภิวัฒน์ และ พรรคประชาชาติ

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสียงเห็นด้วยดังกล่าว ยังพบว่าเป็นของส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ร่วมเห็นด้วย 4 เสียง และมี ส.ส.ก้าวไกล 1 เสียง คือ นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์  

        เสียงไม่เห็นด้วย ประกอบด้วย พรรคครูไทเพื่อประชาชน , พรรคประชาธรรมไทย, พรรคพลังธรรมใหม่ และ  พรรคเพื่อชาติไทย

        งดออกเสียง ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย , พรรคก้าวไกล ,พรรคเศรษฐกิจใหม่, พรรครวมพลังประชาชาติไทย, พรรคพลเมืองไทย , พรรคพลังปวงชนไทย ทั้งนี้ยังมี ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย 4 เสียง, พรรคพลังท้องถิ่นไทย 1 เสียง คือ นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ  

        ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับ ส.ส.พรรคเล็กที่ไม่ปรากฎการลงคะแนน คือ พล.ต.ทรงกล ทิพย์รัตน์ ส.สงพรรคพลังชาติไทย, นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ และ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.พรรคไทรักธรรม

        ขณะที่ส.ว.นั้น พบว่า เสียงแบ่งเป็น 3 ฝ่าย คือ เห็นด้วย 173 เสียง, ไม่เห็นด้วย 2 เสียง ได้แก่ นพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร และ นายเสรี สุวรรณภานนท์ , งดออกเสียง 14 เสียง และ ไม่ปรากฎการลงคะแนน 61 คน

        แก้ไข มาตรา91 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มีสาระสำคัญว่าด้วยการคำนวณสัดส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งนี้กมธ. ได้ปรับเพิ่มวรรคสอง ระบุให้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ การรออกเสียงลงคะแนนน การนับคะแนน การรวมคะแนน การประกาศผลเลือกตั้ง และการอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ผลการลงมติ เห็นด้วย 435 เสียง ต่อ ไม่เห็นด้วย 76 เสียง และงดออกเสียง 85 เสียง

        สำหรับผลการลงคะแนน คือ พรรคที่เห็นด้วย ได้แก่ พรรคเพื่อไทย, พรรคพลังประชารัฐ, พรรคประชาธิปัตย์, พรรคประชาชาติ, พรรคชาติพัฒนา , พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย, พรรคประชาธิปไตยใหม่ และ พรรคประชาภิวัฒน์

        ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่า การออกเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ พบว่า มีผู้ที่ลงมติไม่เห็นด้วย 7 เสียง ได้แก่ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย, นายพนิต วิกิตเศรษฐ์, น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล, น.ส.รังสิมา รอดรัศมี, นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และ นายอันวาร์ สาและ ขณะที่พรรคพลังท้องถิ่นไท พบการลงมติที่เสียงแตกเป็น 2 ฝ่าย คือ มีมติเห็นด้วย คือ น.ส.กวินนาถ และนายจารึก ขณะที่อีก 3 เสียง ลงมติไม่เห็นด้วย

      สำหรับเสียงไม่เห็นด้วย ได้แก่ พรรคก้าวไกล, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคไทรักธรรม, พรรคประชาธรรมไทย, พรรคเพื่อชาติไทย ทั้งนี้พบว่า พรรคเพื่อไทย คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ได้ลงมติไม่เห็นด้วยเช่นกัน

        งดออกเสียง พรรคภูมิใจไทย , พรรคชาติไทยพัฒนา ยกเว้น นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ลงมติไม่เห็นด้วย , พรรครวมพลังประชาชาติไทย, พรรคพลังปวงชนไทย, พรรคพลเมืองไทย

        สำหรับการลงมติของส.ว. พบว่า เห็นด้วยย 162 เสียง, ไม่เห็นด้วย 6 เสียง ได้แก่ นายกิตติ วะสีนนท์, นายพลเดช ปิ่นประทีป, นายมณเฑียร บุญตัน, นายวันชัย สอนศิริ, นายสังศิต พิระยะรังสรรค์ และ นายเสรี สุวรรรภานนท์ งดออกเสียง 10 เสียง , ไม่ปรากฎลงคะแนน จำนวน 58 คน

       และในมาตราสุดท้าย เป็นบทกำหนดเฉพาะกาล ที่มีสาระสำคัญ คือ ไม่ให้นำเนื้อหาที่แก้ไขบังคับใช้กับการเลือกตั้งส.ส. ที่ไม่ใช่การเลือกตั้งทั่วไป ผลการลงมติ เห็นด้วย 440 เสียง ไม่เห็นด้วย 5 เสียง และะ งดออกเสียง 132 เสียง

       โดยผลการลงคะแนน แยกเป็นรายพรรคการเมืองนั้น พบว่า พรรคการเมืองใหญ่ ได้แก่ พรรคเพื่อไทย, พรรคพลังประชารัฐ, พรรคประชาธิปัตย์ ลงมติเห็นด้วย รวมถึงพรรคชาติไทยพัฒนา , พรรคประชาชาติ, พรรคชาติพัฒนา, พรรคประชาธิปไตยใหม่ล พรรคประชาภิวัฒน์

       สำหรับไม่เห็นด้วย ได้แก่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 

       ส่วนพรรคที่งดออกเสียง คือ พรรคภูมิใจไทย ,พรรครวมพลังประชาชาติไทย, พรรคก้าวไกล ยกเว้น นายจิรวัฒน์ ที่ลงมติเห็นด้วย, พรรคไทรักธรรม, พรรคพลเมืองไทยล พรรรคพลังธรรมใหม่, พรรคพลังปวงชนไทยและ  พรรคเพื่อชาติไทย

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการลงมติของพรรคเสรีรวมไทย พบการแตกเป็น 3 ฝั่ง คือ มีผู้ที่เห็นด้วย 2 เสียง คือนายเรวัต วิศรุตเวช และ พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี ขณะที่ 4 เสียง ไม่เห็นด้วย ได้แก่ น.ส.นภาพร เพ็ชรจินดา, นายประสงค์ บูรณ์พงศ์, นายวัชรา ณ วังขนาย และนายอำไพ กองมณี และอีก 4 เสียง ไม่ปรากฎการลงคะแนน ได้แก่ น.ส.ธนภร โสมทองแดง, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส , นายวิรัตน์ วรศสิริน และนายเพชร เอกกำลังกุล

       เช่นเดียวกับพรรคพลังท้องถิ่นไทย ที่พบการลงมติที่แบ่งเป็น 2 ฝ่าย โดยฝ่ายที่เห็นด้วย คือ น.ส.กวินนาถ และนายจารึก ส่วนฝ่ายที่งดออกเสียง ได้แก่ นายโกวิทย์, นายชัชวาลล์ และ นายนพดล

       ขณะที่การลงคะแนนของส.ว. พบว่า มีผู้เห็นด้วย 160 เสียงเห็นด้วย,ไม่มีผู้ไม่เห็นด้วย, งดออกเสียง 10 เสียง และไม่ปรากฎการลงคะแนน 80 คน