“จุรินทร์”หนุนนายกฯเปิดประเทศ-นำเศรษฐกิจฝ่าวิกฤติโควิดให้ได้
“จุรินทร์” หนุน “นายกฯ” เปิดประเทศ ลั่นเราต้องนำเศรษฐกิจ ฝ่าวิกฤติโควิดไปให้ได้ เผย GDP ท่องเที่ยวช่วงโควิดลดจาก 11% เหลือแค่ 1% ขณะส่งออกเพิ่มจาก 45% เป็น 51%
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2564 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงเรื่องการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 2564 ตามการแถลงของนายกรัฐมนตรีว่า เห็นด้วย เพราะหลักสำคัญที่เคยพูดมาเสมอคือ เราต้องนำเศรษฐกิจฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปให้ได้ ต้องยอมรับความจริงว่า 2 เครื่องยนต์หลักในระยะเวลาที่ผ่านมาที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจคือการส่งออก กับการท่องเที่ยว เมื่อเราประสบปัญหาโควิด ทำให้เราเหลือเครื่องยนต์สำคัญคือการส่งออก ส่วนการท่องเที่ยวนั้นก็หายไปมาก ตนได้ไปดูตัวเลขก่อนเกิดโควิด การท่องเที่ยวของเราคิดเป็นประมาณ 11% ของจีดีพี พอช่วงวิกฤติโควิดมาจนถึงวันนี้เหลือเพียง 1% กว่า ๆ ขณะที่การส่งออกจาก 45% ของจีดีพี เพิ่มไปเป็น 51% ถือว่าการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แต่ถ้าเราเปิดประเทศ และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น โดยมีเงื่อนไขเรื่องการดูแลโควิดควบคู่ไปด้วย ก็จะช่วยให้จีดีพีของเราเพิ่มขึ้นได้ คือมีตัวเติมเข้ามาอีกตัวหนึ่งคือการท่องเที่ยว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์โควิดในปัจจุบันถือว่าสามารถควบคุมได้แล้วใช่หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ตอบ แต่ดูสถานการณ์ว่าค่อย ๆ ดีขึ้น แต่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต้องทำควบคู่กันไป เหมือนที่เคยพูดหลายครั้งว่า เราต้องดูว่าสมดุลนั้นอยู่ตรงไหนระหว่างโควิดกับเศรษฐกิจ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องแก้ ทั้ง 2 ข้อ เป็นโจทย์ที่ทับซ้อนกันอยู่
“ถ้าเราจะดูเพียงโควิดอย่างเดียวโดยไม่ดูเศรษฐกิจก็ลำบาก จะดูแต่เศรษฐกิจไม่สนใจโควิด คนก็จะเดือดร้อนเรื่องสุขภาพ อาจเสียชีวิตเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นก็ต้องดูให้สมดุล ท่านนายกฯ ในฐานะผู้นำรัฐบาลก็ต้องตัดสินใจและต้องพิจารณา เมื่อท่านดูแล้วว่า 1 พ.ย. สามารถเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาโดยลดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เป็นข้อจำกัดอยู่ได้ ก็ต้องฟังท่าน” นายจุรินทร์ กล่าว