ผู้ผลิต “ถุงมือยาง” SkyMed ปัดเอี่ยวขบวนการส่งออกสินค้าใช้แล้วเข้าสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา น.อ.(พิเศษ) คัมภีร์ คัมภีรญานนท์ ประธานบริหารบริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด เจ้าของยี่ห้อถุงมือยาง SkyMed ที่ปรากฏเป็นยี่ห้อถุงมือในโกดังแพดดี้ เดอะรูม ซึ่งถูกอ้างว่าส่งออกถุงมือยางที่ใช้แล้วและสกปรกกว่า 80 ล้านชิ้นเข้าสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ถึงกรณีนี้ว่า บริษัทเราเป็นเจ้าของยี่ห้อถุงมือยาง SkyMed จริง โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นบริษัทเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ ภายหลังจากเกิดปัญหาการกักตุนหน้ากากอนามัยเมื่อต้นปี 2563 บริษัทจึงจัดหาสินค้าหน้ากากอนามัยมากขึ้น และใช้ชื่อว่า SkyMed โดยก่อนหน้านี้ช่วงตั้งบริษัทปี 2560 ไม่เคยคิดจะเกี่ยวข้องกับเรื่องอุปกรณ์การแพทย์ และไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาอยู่วงการนี้

น.อ.(พิเศษ) คัมภีร์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทมีสวนเกษตรที่ จ.สระแก้ว เป็นพื้นที่ผลักดัน SkyHerb สมุนไพรฟ้าทะลายโจร หรือใบกระท่อม ขณะเดียวกันยังมี SkyCrop สินค้าที่พยายามซื้อจากวิสาหกิจชุมชนเพื่อส่งออก โดยสินค้าของเรามุ่งขายเอาเงินจากต่างประเทศ ถ้าสังเกตดี ๆ ไม่เคยต้องการขายคนไทย เพราะคนไทยไม่มีเงินอยู่แล้ว จึงมุ่งขายต่างประเทศเป็นหลัก นี่คือนโยบาย โดยสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์นั้น ถุงมือยางมาทีหลังสินค้าอื่น เพราะก่อนหน้านี้มีสินค้าประเภทปืนแอลกอฮอล์ ที่ตรวจวัดอุณหภูมิ อย่างไรก็ดีเมื่อมีถุงมือยางเข้ามา กลายเป็นเรื่องใหญ่มาก เนื่องจากสัญญาที่ลงนามเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ และนักการเมืองในต่างประเทศเยอะมาก ไม่ใช่เพียงแค่ในไทย

เมื่อถามว่า ต่างประเทศเข้าเซ็นสัญญาสั่งซื้อสินค้าของ SkyMed ใช่หรือไม่ น.อ.(พิเศษ) คัมภีร์ กล่าวว่า ถูกต้อง มีการสั่งซื้อสัญญา และบางสัญญาไม่เรียบร้อย กระบวนการสัญญาบางตัวเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ในประเทศนั้น ๆ พอสมควร และบริษัท แพดดี้ เดอะรูมฯ เป็นหนึ่งในผู้แทนจำหน่ายหลายร้อยรายที่ตนเซ็นสัญญาให้จำหน่ายสินค้า

เมื่อถามอีกว่า ถุงมือยางที่บริษัท แพดดี้ เดอะรูมฯ ส่งให้สหรัฐฯ ใช้ยี่ห้อ SkyMed ของบริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด หรือไม่ น.อ.(พิเศษ) คัมภีร์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ใช่เลย โดยบริษัท แพดดี้ เดอะรูมฯ มีกระบวนการผลิตและโรงงานที่เกี่ยวข้อง 

“ผมต้องเรียนว่า ผมรู้จักหมดทุกคนที่เข้ามา ผมคบทุกฝ่ายตั้งแต่เจ้ายันโจร ทีนี้พอเข้ามา ผมก็รู้ว่าเขาไปร่วมมือกับกลุ่มใหญ่พอสมควร แต่ผมว่าเล็กกว่าในจีนและสิงคโปร์มาก กลุ่มนี้มีกระบวนการผลิตของเขาเอง โดยที่เขาไปแอบซื้ออะไร ผมก็ไม่ทราบหรอก ผมไม่ค่อยอยากไปโทษกระบวนการเพราะเป็นเรื่องของเขา เพียงแต่ว่าสิ่งที่เขาทำผิดกับเราคือ นโยบายของเราไม่ต้องการอยู่แล้วที่จะนำของไม่ดีเข้าไป ผมแคร์เรื่องนี้มากโดยเฉพาะเรื่องคุณภาพสินค้า เพราะมันเกี่ยวข้องกับเรื่องของชีวิตคน ทีนี้กระบวนการเขาก็ทำกันง่าย ๆ ผมเรียนว่าสมัยนั้นมีคนเข้ามาหาผมเยอะ มีทั้งเอาโรงงานมาขาย เอาอะไรมาขาย ซึ่งสร้างปัญหาเยอะแยะ” น.อ.(พิเศษ) คัมภีร์ กล่าว