“นิพนธ์” ยื่น “ศาลปกครอง” ถอนคำสั่งให้พ้น “นายก อบจ.สงขลา” ชี้ไม่ชอบด้วย กม.

จากกรณีเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2564 นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (ขณะนั้น) ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0804.3/1864 ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา อ้างคำสั่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้นายนิพนธ์ บุญญามณี พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.สงขลา) เป็นทางการ เนื่องจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดคดีไม่เบิกจ่ายเงินให้เอกชนเป็นค่ารถเอนกประสงค์ 2 คัน วงเงิน 50 ล้านบาทนั้น 

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ได้ยื่นเรื่องไปยังศาลปกครองเพื่อเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และกระทรวงมหาดไทยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. 2564 เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลตนว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทาง 2 คัน ให้แก่เอกชนนั้น คดีดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของอัยการสูงสุด (อสส.) ตั้งข้อไม่สมบูรณ์ 16 ประเด็น 16 หน้า โดย อสส.และ ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการร่วมกันเพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ตามที่อัยสูงสุดตั้งข้อสังเกต ขณะนี้ขั้นตอนดังกล่าวยังไม่ทราบผลการพิจารณา

อ่านข่าว : “บิ๊กป๊อก” สั่ง “อธิบดี สถ.” เซ็น “นิพนธ์” พ้น นายก อบจ.สงขลา-เสี่ยงหลุด รมต.

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า คดีดังกล่าว อบจ.สงขลา ได้ไปยื่นแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ว่าบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัดของนายอิทธิพล ดวงเดือน และพวก ว่าได้กระทำความผิดแห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) และปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมในการเสนอขายรถซ่อมรถบำรุงให้อบจ.สงขลาและพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ก็มีความเห็นว่าบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ของนายอิทธิพล และพวก มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วจริง แต่นายอิทธิพล ดวงเดือน ยื่นคำร้องให้ส่งเรื่องไปยังกองปราบปราม

นายนิพนธ์ กล่าวด้วยว่า ในที่สุดกองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) มีความเห็นตรงกันกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ว่าบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัดของนายอิทธิพล และพวก มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้ว นอกจากนี้ บก.ป. ได้ส่งเรื่องความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้ว ของบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ของนายอิทธิพล และพวกไปยัง ป.ป.ช.ตามอำนาจหน้าที่ที่ ป.ป.ช.ต้องไปพิจารณาแล้วในขณะนี้ เรื่องอยู่ที่ ป.ป.ช. สำหรับการซื้อรถนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยการจัดซื้อในครั้งที่ 1 และ 2 มีความผิดตามพ.ร.บ.ฮั้ว เช่นเดียวกัน