“นิพนธ์”พร้อมพิสูจน์ให้ กกต.ชี้ขาดปมพ้น “นายก อบจ.สงขลา” หลุด รมต.หรือไม่
“นิพนธ์” โต้พร้อมพิสูจน์ความจริง ให้ กกต.-องค์กรที่มีหน้าที่ชี้ขาดวินิจฉัย ปมพ้น "นายก อบจ.สงขลา" เสี่ยงหลุด รมต.หรือไม่ ลั่นจะได้รู้ว่าใครปกป้องผลประโยชน์ชาติ ใครปกป้องคนผิด
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เตรียมยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบคุณสมบัติขาดความเป็นรัฐมนตรี กรณีถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ว่า ก็ดีจะได้พิสูจน์ความจริงทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร และให้องค์กรที่มีหน้าที่ชี้ขาดได้พิจารณาวินิจฉัยต่อไป
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เรื่องเงินยังไม่ได้จ่ายสักบาทเลย เงินทั้งหมดยังอยู่ในลิ้นชักของ อบจ.สงขลา เพราะมีการเรื่องเรียนว่าการจัดซื้อรถมีการทำผิดกฏหมายและหลังจากอบจ.สงขลาไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษว่ามีการกระทำความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2560 หรือพ.ร.บ.ฮั้ว และมีการใช้เอกสารปลอม ซึ่งสภ.เมืองสงขลาได้สรุปสำนวนว่า บริษัทที่ชนะการประมูล คือบริษัทพลวิศว์เทคกับพวก ได้กระทำผิดพ.ร.บ..ฮั้ว และมีการขอให้ตร .สงขลาส่งเรืองไปให้กองปราบปรามให้พิจารณา ซึ่งกองปราบฯ ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นเช่นเดียวกันกับสภ.สงขลา โดยเห็นว่า ผู้ชนะทำผิด พ.ร.บ.ฮั้วจริง จึงส่งเรื่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ให้ดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าวและพวกแล้ว
“ผมจึงบอกว่าผมปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดินแล้วจะผิดได้อย่างไร เงิน 50 กว่าล้านบาท ก็ยังอยู่ในเกะของอบจ.สงขลา”นายนิพนธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า แม้อัยการยังไม่สั่งฟ้อง แต่ก็อยู่ที่สปิริต นายนิพนธ์ กล่าวว่า ถ้าตนได้ทำการเบิกเงินล่วงหน้าไปแล้วก็ไปอย่าง แต่ตนยังไม่ได้เบิกเงินสักบาทแล้วจะให้แสดงสปิริตอะไร หากตนกระทำผิดหรือทุจริตต่อหน้าที่ ไม่ต้องถามหาสปิริตตนรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ตนปกป้องเงินของแผ่นดิน และ ป.ป.ช.ก็ไม่ได้บอกว่าทุจริต แค่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ธรรมดา
ส่วนที่นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เตรียมล่าชื่อส.ส.พรรคฯ ส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัตินั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนยินดีที่พิสูจน์ความจริงทุกศาล ให้ยื่นไปเถอะ แล้วจะได้รู้ว่าใครปกป้องคนผิดหรือใครปกป้องผลประโยชน์ของชาติกันแน่