"2 แม่ทัพสงขลา"ท้ารบ เดิมพัน“เดชอิศม์-สุชาติ”
การเลือกตั้งซ่อมเขต 6 จ.สงขลา เป็นเดิมพันของ 2 แม่ทัพ ทั้ง "เดชอิศม์-สุชาติ" ต่างต้องการคว้าชัย เพราะมีอนาคตภายในพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐวางไว้เป็นเดิมพัน
ศึกเลือกตั้งซ่อมเขต 6 จ.สงขลา และเขต 1 จ.ชุมพร แม้จะมีหลายพรรคส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ ส.ส.แต่โฟกัสหลักอยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลระหว่าง ประชาธิปัตย์ กับ พลังประชารัฐ ที่ไม่มีฝ่ายใดหลีกให้กัน และพร้อมจะวัดกำลังกันโดยตรง
เพราะก่อนการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 ประชาธิปัตย์ยึดครองพื้นที่ภาคใต้เบ็ดเสร็จ แต่หลังการเลือกตั้งกลับถูกพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย แทรกตัวเข้ายึดพื้นที่ภาคใต้ได้หลายเก้าอี้
โดยเฉพาะพื้นที่ จ.สงขลา ซึ่งมี ส.ส. 8 คน พลังประชารัฐแบ่งไป 4 คน ประชาธิปัตย์ 3 คน ภูมิใจไทย 1 คน เท่ากับว่าประชาธิปัตย์เสียแชมป์ให้กับพลังประชารัฐ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 6 จ.สงขลา เขต 1 จ.ชุมพร เป็นคิวแทรกที่มาถูกจังหวะ เนื่องจากประชาธิปัตย์เพิ่งปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เปลี่ยนตัวรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ มาเป็น เดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา หรือที่เรียกขานกัน “นายกชาย” มาเป็นแม่ทัพแดนใต้คนใหม่
ผนวกกับประชาธิปัตย์มีมติส่ง “น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล ดีกรีนางงามสมิหลา ภรรยาของ “เดชอิศม์” ชิงเก้าอี้เลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 6 จ.สงขลา แทนที่ของ “ถาวร เสนเนียม” อดีตส.ส.สงขลา หลายสมัย
เดิมพันของ “เดชอิศม์” จึงสูงลิบ ต้องงัดทุกกลยุทธสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมทั้ง 2 เขต โดยเฉพาะเขต 6 สงขลา เพราะหากแพ้จะเป็นบทสะท้อนอย่างชัดเจนว่าคะแนนนิยมของประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้ตกต่ำลง แต่หากชนะย่อมมีโอกาสสวิงขึ้นมาในแดนบวกได้เช่นกัน
เช่นเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องเดิมพันกระแส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าเสียงตอบรับจากคนใต้ยังหนักแน่นเหมือนช่วงเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 หรือไม่
อีกทั้งยังเป็นการเดิมพัน ฝีไม้ลายมือของ “เสี่ยเฮ้ง”สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.เลือกตั้งซ่อม เขต 6 จ.สงขลา ที่จะมาเป็นแบ็คอัพให้กับ "อนุกูล พฤกษานุศักดิ์" ผู้สมัคร ส.ส. เขต 6 จ.สงขลา
หาก “สุชาติ” พา “อนุกูล” เข้าวิน ก็จะเพิ่มพาวเวอร์ภายในพลังประชารัฐของตัวเองได้ไม่น้อย แต่หากไม่สามารถคว้าชัยได้ ย่อมไม่พ้นถูกเปรียบเทียบกับ “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคที่มีผลงานคว้าชัยสนามเลือกตั้งซ่อมที่ จ.นครศรีธรรมราช มาได้ ดังนั้นสนามนี้จึงมีนัยทั้งการเดิมพัน ทั้งผู้สมัคร ส.ส.และแบ็คอัพด้วย
“กรุงเทพธุรกิจ” เปิดใจ “เดชอิศม์” ถึงภารกิจแรกในฐานะแม่ทัพศึกเลือกตั้งซ่อม เขต 6 จ.สงขลา ที่ต้องฝ่ากระแสพลังประชารัฐที่กวาด ส.ส. 4 คน ได้แชมป์ไปครอง โดยเขาเปิดฉากเล่าถึงตัวผู้สมัครว่า แม้ “สุภาพร”จะเป็นภรรยา แต่ในทางการเมืองแล้วเจ้าตัวก็มีพื้นที่ มีฐานเสียง และได้รับความไว้วางใจจากคนสงขลาไม่น้อยไปกว่าตัวเขาเอง
"เค้าได้รับเลือก ให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบจ. เพราะคน จ.สงขลาไว้ใจ ดังนั้นที่มาโจมตีกันว่า คุณสุภาพรเป็นภรรยาของผม จึงได้รับเลือกให้ลงสมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เป็นความจริง คุณสุภาพรทำพื้นที่มาตลอด และหากไปย้อนดูขั้นตอนการคัดเลือกผู้สมัคร คุณสุภาพรได้รับเลือกจากพื้นที่ ซึ่งมีมติทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ส่งคุณสุภาพรลงสมัครเลือกตั้งซ่อม”
“เดชอิศม์” มองว่าจุดแข็งของ “สุภาพร” คือความเป็นผู้หญิงแกร่งที่คนสงขลาพร้อมให้โอกาสทำงาน อีกทั้งตามหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย จ.สงขลา ไม่เคยมี ส.ส.หญิงมาก่อน ตรงนี้คือสิ่งที่กลุ่มสตรีใน จ.สงขลา อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด
“หากเราไม่มี ส.ส. ซึ่งเป็นผู้หญิงอยู่เลย เราก็อาจจะเสียโอกาสในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยเครือข่ายของพลังหญิง คุณสุภาพรทำงานกับเครือข่ายกลุ่มสตรีมานาน รู้ว่าจะพัฒนากลุ่มสตรีของ จ.สงขลา ให้สามารถทัดเทียมกับกลุ่มสตรีของจังหวัดอื่นได้ หากคุณสุภาพรได้รับเลือกให้เป็น ส.ส. กลุ่มสตรีของ จ.สงขลา จะแข็งแกร่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน”
“เดชอิศม์” ประกาศว่า “เดิมพันของประชาธิปัตย์ ต้องชนะสถานเดียว เรามีความพร้อม 100% เพราะเราไม่สามารถเลือกคู่ชกได้ เรามวยประจำถิ่น แต่ผมบอกได้ว่าผมต้องชนะ”
“ผมขอฝากข้อคิดนิดนึง หากคนจ.สงขลา คิดจะเอาคนรวยมาชนะ แสดงว่าผมก็ไม่ได้เป็น ส.ส. แล้ว เพราะคน จ.สงขลาไม่ได้ซื้อได้ง่าย ต้องดูการช่วยเหลือประชาชน ชาวบ้านเขาลึกซึ้ง ถ้าบอกว่าคนนี้ช่วยเหลือประชาชนมาตลอด เขาจะเลือก ถ้าบอกว่ารวย เขาไม่เลือก” เดชอิศม์ระบุ
ด้าน “สุชาติ” แม่ทัพพรรคพลังประชารัฐ กล่าวกับกรุงเทพธุรกิจอย่างมั่นใจว่า นโยบายของรัฐบาลเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือโครงการคนละครึ่ง รวมถึงมาตรการเยียวยาผู้ใช้แรงงานที่ตนได้ดำเนินการต่อเนื่อง จะมีส่วนช่วยให้พรรคประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง
“นายอนุกูลเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคนในพื้นที่อ.สะเดา เป็นลูกชายของนายอนันต์ พฤกษานุศักดิ์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสะเดา แถมมีความรู้ ถือเป็นจุดแข็ง พื้นฐานทางบ้านทำธุรกิจอย่างเปิดเผย ระดับโลก มีความตั้งใจเป็นนักการเมืองน้ำดี และเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ รวมถึงกระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ มีส่วนช่วยอย่างแน่นอน เพราะคนใต้รักลุงตู่เยอะ”
ส่วนคู่แข่งจากพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะเป็นคนจ.สงขลา แต่เป็นคนจากพื้นที่อื่นของ จ.สงขลา ชาวบ้านในพื้นที่เขต 6 เขาอยากเห็นคนพื้นที่ตัวเองเป็น ส.ส. มากกว่า ดังนั้นคนบ้านเราก็ต้องเลือกคนบ้านเรา
“ผมออกรบแล้วก็สู้กันสุดตัว แม้คู่ต่อสู้จะเป็นเพื่อนก็จริง เมื่อลงสู้แล้วก็ถอยไม่ได้ ผมต้องทำตามหน้าที่ มั่นใจพลังประชารัฐ ชนะอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะชนะมากหรือน้อยเท่านั้น” สุชาติ ประกาศอย่างมั่นใจ
สงขลากำลังกลายเป็นสนามรบระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ที่หวังข้ามชอตไปยังศึกเลือกตั้งใหญ่ เดิมพันของทั้งสองพรรคในครั้งนี้ จึงก้าวข้ามทั้งมิตรภาพ และมารยาทการเมืองไปแล้ว