"ศบค." จ่อ ผ่อนคลาย มาตรการ "โควิด" 20ม.ค. กลับมาใช้ Test&Go
จับตา "ศบค." จ่อ ผ่อนคลายมาตรการ เพิ่มพื้นที่สีเหลือง 20 กว่าจังหวัด กลับมาใช้ Test & Go คาด ผับบาร์เลื่อนเปิด หลัง 14 ร้านดังลักลอบบริการ จนระบาดคลัสเตอร์ใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอกสุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. เพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มผู้ป่วย
โดยที่ประชุมจะมีการพิจารณาการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งจากเดิม อยู่ในระดับสีส้ม มี 69 จังหวัด และสีฟ้า 8 จังหวัด และ 18 จังหวัดบางพื้นที่ ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการปรับลดความเข้มข้นของมาตรการ โดยจะมีการปรับพื้นที่ จากสีส้มเดิมเป็นสีเหลือง จำนวน 20 กว่าจังหวัด ขณะที่พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือพื้นที่สีฟ้า จะยังไม่มีการปรับเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ขณะที่การปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ที่ประชุมจะมีการพิจารณานำรูปแบบการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go กลับมาใช้ โดยผู้ที่ต้องการเดินทางเข้ามาในระบบ จะต้องมีการคัดกรองเชื้อในวันแรก และวันที่ 6 ด้วยระบบ RT - PCR หลังจากนั้นเมื่อครบกำหนด 7 วัน หากตรวจแล้วไม่พบการติดเชื้อ ก็สามารถเดินทางได้ทั่วราชอาณาจักรเพราะถือว่าปลอดภัย โดยระหว่าง 7 วันแรกผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจะต้องมีการแจ้งตำแหน่งและพิกัด การเดินทางในแอพพลิเคชั่นติดตามตัว
ขณะเดียวกันจะมีการพิจารณาแผนการให้บริการวัคซีนเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อีกด้วย
นอกจากนี้จะมีการพิจารณาการต่อขยายระยะเวลาประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มกราคม 2565 นี้ ออกไปอีก 2 เดือน สิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2565 ด้วยเหตุผลที่ต้องบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานต่างๆทั้งการสกัดกั้นการเข้าประเทศหรือออกมาตรการต่างๆในการควบคุมโรค
ด้านร้านอาหารผับ บาร์ คาดการณ์ว่าที่ประชุมอาจมีการเลื่อนการเปิดดำเนินกิจกรรมออกไปก่อน หลังจากช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาเกิดการแพร่ระบาดจนเป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ใน 14 แห่ง ส่วนผู้ที่มีการปรับกิจการให้อยู่ในรูปแบบร้านอาหารกึ่งผับ จะต้องมีการตรึงมาตรการเข้มโดยมอบหมายให้กทม.แล้วพื้นที่จังหวัดเข้าตรวจอย่างเข้มงวด