"กมธ.กม.ตำรวจ" ฟื้น ก.ต.ช.-ให้อำนาจ ก.ตร. เห็นชอบแต่งตั้ง "ผบ.ตร."

           ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าของการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ....  รัฐสภา ที่มีพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ส.ว. รองประธานกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการ ว่า  ได้เข้าสู่การพิจารณาเนื้อหาที่ค้างการพิจารณา และในวันที่ 14 - 15 กุมภาพันธ์นี้ ได้นัดประชุมเพื่อทบทวนเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ตำรวจทั้งฉบับ

 

           สำหรับรายละเอียดที่สำคัญ ซึ่งกมธ.ฯ ได้มีมติแก้ไข ในประเด็นโครงสร้างองค์กรบริหาร จากเดิมที่ร่างซึ่งผ่านชั้นรับหลักการกำหนดให้มีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)  พร้อมกำหนดหน้าที่และอำนาจกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์บริหารราชการตำรวจและกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) รวมถึงการบริหารงานบุคคล จัดระบบราชการตำรวจ  โดยมี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

 

           ทั้งนี้เนื้อหาดังกล่าวถูกแก้ไข โดย มติกมธ. ให้กำหนดโครงสร้างองค์กรบริหาร สตช. จำนวน 2 องค์กร คือ คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และ ก.ตร.  โดยในบทบัญญัติของก.ต.ช. ที่เพิ่มขึ้นมานั้น ได้ให้หน้าที่และอำนาจกำหนดนโยบาย และบริหารราชการตำรวจ รวมถึงพัฒนาระบบงานตำรวจ ติดตามและประเมินผล

 

 

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกรรมการ ก.ต.ช. นั้น กมธ.ยังไม่มีข้อยุติ และวางประเด็นพิจารณาไว้ คือ 1.ควรกำหนดให้รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นรองประธานกรรมการ ก.ต.ช.หรือไม่, 2.ควรกำหนดจำนวนรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นรองประธาน ก.ต.ช. หรือไม่, 3.ควรกำหนดให้นายกสภาทนายความ ตัวแทนภาคประชาชนและท้องถิ่น เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง หรือไม่ และ 4.ควรกำหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมาประชุมด้วยตนเอง จะมอบหมายให้บุคคลอื่นมาประชุมแทนมิได้ หรือไม่

           ขณะที่ ก.ตร. นั้น มติกมธ. คงให้นายกรัฐมนตรีให้เป็นประธาน ก.ตร. และแก้ไข ในส่วนของกรรมการ อื่นๆ โดย เพิ่มเลขาธิการ ก.พ. และ เลขาธิการ ก.พ.ร.  กำหนดจำนวนรองผบ.ตร. ตามลำดับอาวุโส จำนวน 5 คน เป็นก.ตร.ด้วย และได้ตัด กรรมการในส่วนของปลัดกระทรวงมหาดไท, ปลัดกระทรวงยุติธรรม อัยการสูงสุด และเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมออก 

 

           ทั้งนี้ยังเพิ่มอำนาจให้กับก.ตร. ในการให้ความเห็นชอบต่อการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

 

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของการเลือก กรรมการ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒินั้น กมธ.มีความเห็นในเบื้องต้นว่า ควรให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมดำเนินการ และเมื่อการประชุมวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ได้เชิญตัวแทนของ กกต. ร่วมประชุม และได้คำชี้แจงว่า หากให้ กกต.มีหน้าที่และอำนาจในการจัดให้มีการเลือกและประกาศผลการเลือก กรรมการ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กกต.มีความพร้อม และหากกมธ.ต้องการให้ กกต.มีหน้าที่และอำนาจ ในการพิจารณาวินิจฉัยย กรณีมีการคัดค้านผลการเลือกกรรมการ ก.ตร.ส่วนผู้ทรงคุณวุมิ ต้องเขียนเนื้อหาไว้ในกฎหมายด้วย แต่กรณีดังกล่าวกมธ.ยังไม่มีมติใดๆที่ชัดเจน