"ชัยชนะ" แจงศึกเมืองคอนความประสงค์"สุรเชษฐ์" ไม่ลงลต. ชี้ด่วนตัดสินใจ

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ แถลงข่าวลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากอ้างว่า ไม่ได้รับการเหลียวแลหลังจากที่มีการเปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เมื่อวันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ตนยอมรับการตัดสินใจของนายสุรเชษฐ์ เพราะถึงอย่างไรนายสุรเชษฐ์ก็เป็นอดีต ส.ส.ของพรรคมาตั้งแต่การเลือกตั้งเดือนกันยายน พ.ศ. 2535 และได้ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนและทางพรรคฯ มาอย่างต่อเนื่อง

แต่อย่างไรก็ตาม ตนจำเป็นต้องชี้แจง เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกระบวนการสรรหาผู้สมัคร เพราะเนื่องจาก ก่อนที่จะมีการเปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่ของพรรคนั้น ทางคณะกรรมการสรรหาฯ ก็ได้มีการสอบถามอดีต ส.ส. ทุกคนว่า ใครจะประสงค์ที่จะลงสมัครต่อบ้าง ซึ่งนายสุรเชษฐ์ ก็ได้ยืนยันกับทางคณะกรรมการสรรหาฯ แล้วว่า จะขอพิจารณาดูก่อน เพราะอาจจะตัดสินใจไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีก

ดังนั้น จึงได้มีการพิจารณาสมาชิกพรรคฯ  ที่มีความประสงค์จะลงสมัคร ส.ส. จนกระทั่งได้มีการเปิดตัว เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยว่าที่ผู้สมัครทั้ง 3 ก็ยังไม่ทราบว่า จะได้ลงสมัครในเขตไหน

รวมทั้ง ต้องรอกระบวนการให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ โดยที่ จ.นครศรีธรรมราช จะได้ ส.ส.เพิ่มเป็น 9 คน

ดังนั้น หากนายสุรเชษฐ์ ไม่ด่วนโดยการตัดสินใจลาออกจากพรรคแล้ว ก็เชื่อได้ว่า นายสุรเชษฐ์ ก็จะมีรายชื่อเป็น 1 ใน 9 ผู้สมัคร ส.ส. นครศรีธรรมราช อย่างแน่นอน

 “ในเมื่อนายสุรเชษฐ์ ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว ผมก็ต้องเคารพการตัดสินใจของนายสุรเชษฐ์ เหมือนกับสมาชิกพรรคคนอื่นๆ ที่ลาออกไป โดยสิ่งที่เกิดขึ้นผมถือว่าเป็นไปตามกระบวนการของพรรคฯ ที่มีกติกาในการสรรหาสมาชิกพรรคฯ ที่ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนพิจารณาให้โอกาสได้เป็นตัวแทนของประชาชนในเขตเลือกตั้งนั้นๆ ซึ่งที่ผ่านมา ในการเลือกตั้งทุกๆครั้ง พรรคก็มีแนวคิด ‘ส่งเสริมคนใหม่ ใส่ใจคนเดิม’ มาตลอด ซึ่งนายสุรเชษฐ์ก็น่าจะรู้อยู่ตลอดว่า ก่อนที่จะพิจารณาส่งคนใหม่ ก็ต้องถามอดีต ส.ส.ก่อนว่า จะลงสมัครฯ อีกหรือไม่ ดั

งนั้น การที่นายสุรเชษฐ์แถลงว่า จะกลับมาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ต่อเมื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคนั้น ผมเห็นว่า ถือเป็นเหตุผลที่เหมือนกับหลายๆคนที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยโยนบาปให้นายจุรินทร์ว่า ไม่สามารถรักษาสมาชิกอาวุโสและบุคคลที่เป็นดาวเด่นของพรรคได้ ทั้งๆที่ นายจุรินทร์และกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน ได้พยายามทำงานอย่างดีที่สุด ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่สลับซับซ้อนในปัจจุบันด้วย” นายชัยชนะกล่าว