"ธนกร"ยัน "พรรคร่วม" เหนียวแน่น แจง "นายกฯ" วอนแก้ "สภาล่ม" เรื่องธรรมดา
"โฆษกรัฐบาล" แจง "นายกฯ" วอน พรรคร่วม แก้ "สภาล่ม" เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อทำงานร่วมกัน ยัน เหนียวแน่น สวน "เพื่อไทย" มีคนสั่งซ้ายหัน ขวาหัน ได้ ซัด "ก้าวไกล" หลอกตัวเอง "รัฐบาล" จ่อเข้าลานประหาร ไล่ เอาเวลาหาข้อมูลซักฟอกดีกว่า แซะ ยืมมือม็อบ ล้ม"รัฐบาล" อัด "พิธา" ไม่สนใจงานสภา
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ระบุว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอความร่วมมือให้พรรคร่วมรัฐบาลช่วยกันรักษาองค์ประชุมสภาฯ สะท้อนว่าระดับความเป็นเอกภาพของรัฐบาลแย่มาก ถึงขั้นนายกฯ ต้องเอ่ยปากขอเองว่า ไม่อยากให้นายสุทิน คิดแบบคนใจแคบเพราะพรรคร่วมรัฐบาลทำงานร่วมกัน ย่อมต้องปรึกษาหารือและขอความร่วมมือเป็นนำ้หนึ่งใจเดียวกันเป็นธรรมดา
นายธนกร กล่าวว่า คงไม่เหมือนกับพรรคเพื่อไทย ที่คนๆ เดียวสั่งซ้ายหันขวาหันได้ตามใจ ซึ่งที่ผ่านมานายกฯ ก็ขอความร่วมมือจากคณะรัฐมนตรีในเรื่องที่สำคัญๆ อยู่หลายครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ฝ่ายค้านเห็นว่าสามารถเอาเรื่องนี้มาขยายผล สร้างให้เป็นประเด็นได้ จึงหยิบยกขึ้นมาเพื่อหวังจะดิสเครดิตรัฐบาลก็เท่านั้นเอง
นายธนกร กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า ช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมถือเป็นแดนประหารของรัฐบาล เพราะขณะนี้รัฐบาลสามารถรักษาอำนาจได้ แต่บริหารงานไม่ได้นั้น หากนายพิธา คิดแบบหลอกตัวเอง เข้าข้างตัวเองเพื่อให้ตัวเองสบายใจก็ไม่ว่ากัน เพราะในความเป็นจริงแล้วพรรคร่วมรัฐบาลยังคงเหนียวแน่น การทำงานนั้นบางเรื่องอาจจะมีความเห็นต่างกันบ้างก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ทำงานร่วมกัน แต่เมื่อพูดคุย อธิบาย ทำความเข้าใจกันแล้วทุกอย่างก็จบ
อย่างไรก็ตาม หากนายพิธาคิดว่าวิธีนี้จะช่วยโหมโรงศึกอภิปรายได้นั้น ตนคิดว่านายพิธาคิดผิด สู้เอาเวลาไปหาข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงมาอภิปรายให้ได้อย่างที่โม้เอาไว้ยังจะดีกว่า หรืออย่างน้อยก็ให้ประชาชนได้เห็นว่าฝ่ายค้านทำงานในสภาฯ อย่างจริงจังบ้าง ไม่ใช่หวังแต่จะยืมมือม็อบบนถนนล้มรัฐบาลลูกเดียว เพราะถ้ายังคิดแบบเดิมๆ สุดท้ายสภาฯ จะกลายเป็นลานประหารฝ่ายค้านเสียเอง
"วันนี้ประชาชนเห็นไส้เห็นพุงนายพิธาหมดแล้ว วันๆ ไม่ได้สนใจงานสภาฯ จ้องแต่จะหาโอกาสสร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง ให้น้ำหนักกับเนื้อหาการทำงานน้อยกว่าการเล่นเทคนิคทางการเมือง โดยไม่สนว่าสร้างความเสียหายให้กับประเทศขนาดไหน คนแบบนี้หรือที่อยากจะเข้ามาบริหารประเทศ หวังที่จะให้ประชาชนฝากอนาคตด้วย" นายธนกร กล่าว