"โรม-ช่อ" คุ้ยเบื้องหลังตั๋วช้างภาค 2 "พล.ต.ต.ปวีณ" เปิดใจปมลี้ภัย

"โรม-ช่อ" คุ้ยเบื้องหลังตั๋วช้างภาค 2  "พล.ต.ต.ปวีณ" เปิดใจปมลี้ภัย

พล.ต.ต.ปวีณ เผยความในใจ กลางไลฟ์ก้าวไกล หลัง "รังสิมันต์ โรม" อภิปรายซัดคนในรัฐบาลมีเอี่ยวขบวนการค้ามนุษย์

19 ก.พ. 2565 ณ อาคารอนาคตใหม่ หัวหมาก กรุงเทพ พรรคก้าวไกล รังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล แถลงข่าว "เปิดเบื้องหลังตั๋วช้างภาค 2" โดยมี พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้าร่วมพูดคุย หลังจากเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 เมื่อค่ำผ่านมา ในการอภิปรายของรังสิมันต์ ได้ไล่เรียงเหตุการณ์ที่ประเทศไทยถูกปรับอยู่ในบัญชีเฝ้าระวังการค้ามนุษย์ (Tip Report) ของสหรัฐฯ

รังสิมันต์ เปิดเผยว่า ขบวนการค้ามนุษย์มีจุดเริ่มต้นจากคดีค้าโรฮิงญาเมื่อปี 2558 ขณะนั้นมีการค้นพบการขนชาวโรฮิงญา สถานกักกัน ไปจนถึงหลุมศพของชาวโรฮิงญาอยู่บริเวณพื้นที่การดูแลของตำรวจภาค 8 โดยมี พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ได้รับมอบหมายเป็นผู้ดูแลคดี ก่อนจะค้นพบความสัมพันธ์ที่โยงใยขบวนการค้ามนุษย์ไปยังระดับข้าราชการทหาร นักการเมืองท้องถิ่นอีกหลายราย จนนำไปสู่การจับกุม พล.ท.มนัส คงแป้น ในเวลาต่อมา แต่การทำคดีในครั้งนั้นส่งผลให้ พล.ต.ต ปวีณ ต้องลี้ภัยไปยังประเทศออสเตรเลีย 

รังสิมันต์ ได้เปิดเผยเบื้องหลังการอภิปรายที่ดุเดือดที่สุดครั้งหนึ่งของเขา ว่าเป็นการอภิปรายตั๋วช้างภาค 2 ที่เป็นการตีแผ่ด้านกลับของตำรวจที่ได้ดีเพราะอาศัยตั๋วช้าง เส้นสายและการเข้าวัง ว่าเมื่อมีผู้ปฏิเสธการเข้าวัง ก็จะกลายเป็น "ตำรวจดีที่ต้องลี้ภัย" รังสิมันต์ได้เปิดเผยว่าการอภิปรายครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนข้อมูลจาก พล.ต.ต ปวีณ ซึ่งได้ปรากฎตัวผ่านระบบการประชุมออนไลน์ในงานแถลงข่าวด้วย

พล.ต.ต ปวีณ กล่าวว่า "ไม่มีสิ่งใดจะต้องฝากถึงรัฐบาล" แต่เขาตั้งใจฝากถึงพี่น้องข้าราชการที่ต้องทำงานและเจอกับเรื่องร้ายๆ อย่างเขาว่าขอให้ซื่อตรงต่อหน้าที่ของตนเอง กล้าหาญ ตระหนักถึงประโยชน์ของประเทศชาติมาเป็นอันดับแรก พร้อมย้ำว่า "ประเทศชาติหมายถึงประชาชน ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง" 

ระหว่างการแถลง พล.ต.ต. ปวีณ ยังเผยความในใจว่าอยากจะมีโอกาสเดินทางกลับมายังประเทศไทย เพราะคนที่รัก ครอบครัวยังอยู่ที่นี่ พร้อมกับตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้

"ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาผมไม่อยากเปิดเผย ผมพูดเปรยกับพี่น้องสื่อมวลชนหลายสำนัก แต่กลับไม่มีใครนำไปเปิดเผย เมื่อไม่มีการตอบรับ การพูดไปนั้นเปล่าประโยชน์ ผมรอเวลามานาน ใครที่จะรับข้อมูลของผมไปเปิดเผย หากเปิดเผยไปแล้วไม่มีใครขยายต่อ เผยแพร่ต่อ มันก็ไม่มีความหมาย ส่วนคำถามที่ว่าผมลี้ภัยเพราะอะไร ใบสมัครแผ่นนั้นเป็นคำตอบทั้งหมดที่ทำให้ผมตัดสินใจง่าย" ปวีณ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวภายในงาน

การทำหน้าที่แต่ละฝ่ายไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือสื่อมวลชน สิ่งที่ต้องมีก็คือจริยธรรม ผมมองว่า สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถขัดขวางได้คือความกล้าหาญ ถ้าเรากลัว มันก็ทำหน้าที่ไม่ได้ ถ้าพี่น้องสื่อมวลชนตำรวจ ประชาชน กล้าหาญ ยึดถือในความถูกต้อง หน้าที่อย่างพร้อมเพรียง การสู้กับผู้มีอำนาจก็เป็นไปได้ เช่น ไม้ไผ่หลายก้านรวมกัน งอเท่าไหร่ก็ไม่หัก" ปวีณกล่าว พร้อมย้ำว่าตนเชื่อว่าการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาจะช่วยให้ประเทศดีกว่าที่เป็นอยู่ 

ด้านรังสิมันต์ ปิดท้ายการแถลงข่าว "การอภิปรายรอบนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงคะแนน การอภิปรายนี้ก็เพื่อเปิดเผยและต้องการให้สังคมทบทวนประเด็นต่างๆ ที่ไม่ถูกต้อง และหวังใช้สภาเป็นพื้นที่สะท้อนปัญหา" พร้อมยืนยันว่า "พรรคก้าวไกลพร้อมเดินหน้าแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง แม้จะเชื่อว่า ตราบใดที่ขบวนการค้ามนุษย์ที่ยังเป็นบ่อเงินบ่อทองของผู้มีอำนาจ อาจจะยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ แต่ในมุมของก้าวไกล ก็จะยังทำงานเปิดโปงและตั้งคำถามต่ออันตรายในสังคมให้ได้"