รัฐสภา ถก ร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. เป็นวันที่สอง เกิดปมเดือด มารยาทการเมือง

รัฐสภา ถก ร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. เป็นวันที่สอง เกิดปมเดือด มารยาทการเมือง

รัฐสภาเริ่มประชุมร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ในวันที่สองแล้ว แต่ก่อนเข้าสู่การอภิปราย "ก้าวไกล-พปชร." เปิดวิวาทะ ปมมารยาทการเมือง

        ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมร่วมกันของรัฐสภา  เพื่อพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่… ) พ.ศ…. ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง  มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม 

 

       ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่การอภิปรายต่อ พบว่า  นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  หารือว่าต่อกรณีที่การประชุมเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ มีส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ประท้วงการอภิปรายของ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายโดยยกความเปรียบเทียบระหว่างร่างพ.ร.ป.ของพรรคก้าวไกล กับร่างพ.ร.ป.ของพรรคร่วมรัฐบาล ที่นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เสนอ  ทำให้เกิดการประท้วงและมีการตอบโต้ ประเด็นมารยาทที่ไม่เหมาะสม จากนายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ

        โดยนายอรรถกร  อภิปรายว่า ตนยืนยันว่าการทำหน้าที่ของนายพรเพชร ที่เป็นประธานที่ประชุมทำหน้าที่ได้เหมาะสมแล้ว เพราะต้องควบคุมการประชุม และเมื่อคืนตนเห็นด้วยว่าสมาชิกรัฐสภาไม่ได้ทำผิดข้อบังคับการประชุมรัฐสภา แต่เป็นหน้าที่ประธานต้องควบคุมการประชุม เนื่องจากในมุมมองของพรรคร่วมรัฐบาล การนำร่างของพรรคร่วมรัฐบาลมาเปรียบเทียบกับร่างของพรรคก้าวไกลเพียงแค่ 2 ฉบับทั้งที่จริงๆแล้วเราพิจารณา 6 ฉบับ ตนมองว่ามารยาททางการเมืองอาจจะดูไม่ดีสักเท่าไหร่ ตนยืนยันว่าหน้าที่ประธานต้องควบคุมการประชุม พยายามให้สมาชิกไม่ก้าวก่ายและให้เกียรติกัน เพราะนี่คือการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งเรื่องมารยาทเป็นสิ่งสำคัญ

       ทำให้นายธีรัจชัย ลุกขึ้นใช้สิทธิ์ประท้วงว่า มีการพาดพิงและเสียดสีพรรคก้าวไกล มีการพูดถึงเรื่องมารยาททางการเมืองและการไม่สมควรในการอภิปรายทางการเมือง การทำหน้าที่รัฐสภา มารยาทกับการทำประโยชน์เพื่อประชาชนอันไหนสำคัญกว่า ถามว่าเรื่องนี้เราทำตามข้อบังคับรัฐสภาข้อที่ 87 ถามว่าผิดตรงไหน เป็นการกล่าวหา เสียดสี ใส่ความ 

 

          ทั้งนี้นายพรเพชร ได้วินิจฉัยว่า การไปว่าไม่มีมารยาทเป็นคำพูดที่ไม่รุนแรงมาก เป็นการเปรียบเทียบเพื่อให้การประชุมรัฐสภาราบรื่น ไม่ถึงกับเป็นการกล่าวต่อว่ารุนแรง ส่วนที่นายพิจารณ์กล่าวถึงร่างของพรรคร่วมรัฐบาลก็มีสิทธิ์ที่จะพูดได้ แต่เมื่อไปพาดพิงอีกฝ่าย เขาก็ย่อมมีสิทธิ์โต้แย้งโต้เถียง ตนจึงขอหาทางออกว่าท่านไปโต้แย้งกันในชั้นกรรมาธิการ