"นายกฯ" ยัน ไม่ห้ามจัดงาน "สงกรานต์" จ่อถก "ศบค." 18 มี.ค. ผ่อนคลายมาตรการ

"นายกฯ" ยัน ไม่ห้ามจัดงาน "สงกรานต์" จ่อถก "ศบค." 18 มี.ค. ผ่อนคลายมาตรการ

"โฆษกรัฐบาล" เผย "นายกฯ" ยืนยัน ไม่ห้ามจัดงาน "สงกรานต์" ปีนี้ ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดได้ จ่อถก "ศบค." ชุดใหญ่ 18 มี.ค.นี้ ผ่อนคลายกิจการ - กิจกรรม ต่างๆ หวัง ให้ใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันยังไม่มีนโยบายหรือแนวคิดในการห้ามจัดกิจกรรมสงกรานต์ในปีนี้ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ เพียงแต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการ VUCA (Vaccine, Universal Prevention, Covid Free Setting, ATK) รวมทั้งต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิดกระตุ้นเข็ม 3 ทั้งผู้เดินทางกลับบ้าน และผู้ที่อยู่ที่บ้าน เน้นมาตรการป้องกันตนเองทั้งระหว่างเดินทางกลับ และระหว่างร่วมกิจกรรม 

ส่วนสถานที่จัดงานต่างๆ  รวมไปถึงต้องมีการสุ่มตรวจ ATK ทั้งก่อนและหลังเดินทางไปต่างจังหวัด พร้อมเน้นย้ำกลุ่มเสี่ยงที่ควรเข้ารับวัคซีนอย่างเร่งด่วน ที่เรียกว่า กลุ่ม “608” ประกอบด้วย 1. กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 2.กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน และ 3. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ขอให้รับวัคซีนป้องกันโควิด และการเสียชีวิตอย่างเร่งด่วน  ซึ่งในขณะที่ประเทศไทยมีวัคซีนที่เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ขอให้ทุกคนช่วยกันสื่อสารทำความเข้าใจให้กับคนเหล่านี้ เพื่อให้ได้วัคซีนโควิดอย่างทั่วถึง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์และมาตรการอื่นๆ  ทาง ศบค. ชุดใหญ่จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมในวันที่ 18 มีนาคม นี้ เพื่อผ่อนคลายกิจกรรม กิจการต่างๆ ซึ่งคาดหวังว่า ประชาชนจะได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงสงกรานต์ปกติ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตปกติ เหมือนช่วงก่อนมีโควิดที่ผ่านมา  

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีห่วงกิจกรรมที่อาจจะเกิดความเสี่ยงทำให้ติดโควิดได้ง่ายมากขึ้นในช่วงเดินทางกลับภูมิลำเนา การรวมตัวของญาติพี่น้อง การพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารร่วมกัน การทำกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การสาดน้ำปะแป้ง และกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการเฝ้าระวังในสถานที่เสี่ยง  

ดังนั้น ขอให้ประชาชนรณรงค์ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เว้นระยะห่างระหว่างกันสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ ด้วย 

สำหรับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันนี้ รวม 18,943 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 18,877 รายผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 66 ราย ผู้ป่วยสะสม 843,365 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 25,005 ราย หายป่วยสะสม 650,609 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 224,328 ราย เสียชีวิต 69 ราย  ล่าสุดการให้บริการวัคซีน โควิด-19 สะสมอยู่ที่ 125,076,762 โดส เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 53,999,327 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 49,869,389 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 19,422,997 โดส เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 1,785,049 โดส อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกฉีดวัคซีนแล้ว 10,887 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 985.9 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (114.4%)

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์