"เสรีพิศุทธ์" ตั้งธงสอบคลิปเสียง "แรมโบ้" เชื่อ "ประยุทธ์" อยู่เบื้องหลัง

          พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร รับยื่นเรื่องจากนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ฐานะที่ปรึกษาประธานกมธ.ปราบโกง เพื่อให้ตรวจสอบคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฐานะรองประธานแก้ไขสลากเกินราคา และประธานอนุกรรมการ ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ กับนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักนายกฯ ที่มีเนื้อความเกี่ยวกับการรับเงิน 15 ล้านบาท เพื่อไปใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งเข้าข่ายทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง, การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และ ผิดจริยธรรมของข้าราชการการเมือง

        ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่า ไม่ใช่การพูดหยอกล้อ และบุคคลที่อยู่เบื้องหลังนายเสกสกล คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ฐานะผู้บังคับบัญชาของนายเสกสกล ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์อาจเป็นผู้สนับสนุนนายเสกสกล ดังนั้นการตรวจสอบต้องพิจารณาตามพยานหลักฐาน อย่างไรก็ดีในขั้นตอนตรวจสอบตนจะทำหนังสือไปถึงเลขาธิการ กกต. เพื่อขอเอกสารที่นายเสกสกลรายงานทรัพย์สินไปหลังการเลือกตั้งว่าเป็นอย่างไร และขอให้เข้ามาชี้แจงต่อกมธ.ด้วย

           "วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ทำอะไรเลย แถมยังอุ้มนายเสกสกลอยู่อีก พฤติกรรมของพล.อ.ประยุทธ์เข้าข่ายผู้สนับสนุนหรือไม่ เป็นผู้กระทำความผิดมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ ส่วนกรณีคลิปเสียงนั้น ผมมองว่าเป็นคดีง่ายๆเอาเท้าเขี่ยก็เรียบร้อย เพราะมีผู้รับสารภาพแล้วว่าเป็นเสียงพูดของตนเอง แต่เบี่ยงเบนไปว่าพูดเล่น ใครจะเชื่อ พูดให้เด็กป.หนึ่งฟังยังบอกว่าพูดจริง" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

         พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า จากการฟังเสียงสนทนาผ่านคลิป มี 2 ประเด็น คือ 1.ความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.  ที่ในการเลือกตั้งปี 2562 นายเสกสกลใช้เงินในการเลือกตั้งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ไว้ไม่เกินคนละ 1.5 ล้านบาท สำหรับพรรคการเมือง 35 ล้านบาท หรือไม่  ทั้งนี้นายเสกสกลมาเผลอพูดตรงว่าใช้ไป 100 กว่าล้านบาท และจะไปขอยืมอีก 15 ล้านบาท ถือว่านายเสกสกลรายงานเท็จกรณีใช้เงินเกินกว่ากฎหมายกำหนด  

           และ 2.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 เจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินเอื้อประโยชน์ต่อตนเองหรือผู้อื่น หรือความผิดเรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตตามมาตรา 157 อีกทั้งนายเสกสกลมีความผิดมาตรฐานทางจริยธรรม เพราะเป็นข้าราชการการเมือง โดยตนจะรับเรื่องนี้ไว้และจะรีบดำเนินการ.