" การโค้ชดีอย่างไร "
รายงานวิจัยของ National Training Laboratory ประเทศสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการพัฒนาคนหลากหลายรูปแบบ
ชี้ให้เห็นว่า “การโค้ช” เป็นแนวทางการพัฒนาที่ได้ผลดีที่สุด ซึ่งวัดโดยการนำผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวนหนึ่งมาพัฒนา ด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน เช่น การฟังเลคเชอร์ การอ่านหนังสือด้วยตนเอง การดูงาน การได้ลงมือปฏิบัติ การพูดคุยกันในกลุ่มย่อย เป็นต้น จากนั้น 3 เดือนให้หลัง ได้ทดสอบคนกลุ่มนี้ถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ไป ว่ายังจำอะไรได้บ้าง พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการพัฒนาผ่านวิธีการโค้ชสามารถจดจำสิ่งที่เรียนรู้ไปได้ถึง 90% ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของแนวทางการพัฒนาทั้งหมด ในขณะที่การพัฒนาผ่านวิธีเลคเชอร์กลับจำสิ่งที่เรียนรู้ไปได้เพียงแค่ 5% เท่านั้น และเป็นอันดับสุดท้ายของการทดลองในครั้งนี้
จิรโรจน์ ติกกะวี โค้ชผู้บริหารระดับสูง สลิงชอท โค้ชชิ่ง บริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาภาวะผู้นำผ่านจุดแข็ง ได้กล่าวว่า รายงานการวิจัยนี้ยืนยันให้เห็นถึงความสำคัญของ “ การโค้ช ” ซึ่งในปัจจุบันองค์กรเกือบทุกแห่งหันมาให้ความสนใจ และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
“ หลายปีที่ผ่านมา ผม และสลิงชอทโค้ชชิ่ง มีโอกาสช่วยลูกค้าในเรื่องการโค้ชหลายครั้งหลายหน หลังจบการโค้ชแต่ละโปรเจค จำนวนผู้เข้ารับการโค้ชในโปรเจคถัดไปมักจะมีปริมาณผู้เข้าร่วมการโค้ชเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดมาจากการที่องค์กร และผู้บริหารระดับสูงซึ่งผ่านการโค้ชมาแล้ว เห็นผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจริง จึงสนับสนุนให้นำการโค้ชไปใช้มากขึ้น ล่าสุดเราได้นำประสบการณ์ และองค์ความรู้ระดับโลกมาพัฒนาจนได้มาซึ่ง “การ โค้ชผ่านจุดแข็ง (Strength-Based Coaching)” แนวคิดนี้ไม่ใช่แค่การช่วยให้ค้นพบจุดแข็งแต่จะชี้ให้ว่าจุดแข็งใดบ้างที่ผู้นำต้องใส่ใจ และแนะนำถึงแนวทางที่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น การพัฒนาตามแนวคิดนี้จะส่งผลให้ผู้นำที่มีความสามารถอยู่แล้วสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมในขั้นสูงสุด (Good-To-Great) ซึ่งแนวคิดนี้กำลังเป็นที่สนใจของลูกค้าในขณะนี้”
หากอ้างอิงผลการวิจัยของ ICF (International Coaching Federation) จะยิ่งชัดเจนว่า “การโค้ช” นั้นไม่ใช่แค่รูปแบบการเรียนรู้ที่ดีเท่านั้น แต่ยังมีคุณประโยชน์อีกมากมาย โดยพบว่า 99% ของผู้ที่ผ่านการโค้ช รู้สึกพึงพอใจกับประสบการณ์ที่ได้รับจากการโค้ชที่ผ่านมา และการโค้ชยังช่วยให้ทำงาน และได้ผลงานที่ดีขึ้นถึง 70% ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการได้ 61% ช่วยพัฒนาด้านการบริหารเวลาได้ดีขึ้น 57% นอกจากนี้ การโค้ชทำให้ผู้ที่ได้รับการโค้ชรู้สึกมั่นใจในตนเองเพิ่มขึ้นถึง 80% ช่วยพัฒนาในเรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ 73% และช่วยพัฒนาความสามารถในการสื่อสารได้ 72%
ทั้งนี้ สลิงชอท โค้ชชิ่ง เป็นอีกหนึ่งธุรกิจในเครือสลิงชอท กรุ๊ป ให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาภาวะผู้นำด้วยการโค้ช และเชี่ยวชาญพิเศษในการพัฒนาภาวะผู้นำผ่านจุดแข็ง เคยคว้ารางวัลระดับโลกทางด้านนี้จาก ASTD (American Society for Training & Development) มาแล้วถึง 2 รางวัล