ITI ดึงมือดีนั่งแท่น “ซีอีโอ” ขับเคลื่อนองค์กรตามแผน 5 ปี

ITI ดึงมือดีนั่งแท่น “ซีอีโอ” ขับเคลื่อนองค์กรตามแผน 5 ปี

พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจตั้ง 5 สายงาน เจาะตามเซกเมนท์ลูกค้า ตอบโจทย์ลูกค้าแบบครบวงจร ชูนโยบาย “บริการเป็นเลิศ”

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทอิตัลไทย เปิดเผยทิศทางดำเนินธุรกิจของบริษัทอิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด (ITI) ผู้นำเข้าจัดจำหน่าย และให้บริการหลังการขายเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ชั้นนำระดับโลกว่าตามที่บริษัทฯ กำหนดแผนธุรกิจ 5 ปี ตั้งเป้าผลักดันรายได้เติบโต 2 เท่าจาก 4,000 ล้านบาทเป็น 8,000 ล้านบาท และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเครื่องจักรกลหนักในไทยจาก 14 % เป็น 20 % ภายในปี พ.ศ.2562

ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้บรรลุตามเป้าหมาย บริษัทฯ ได้ประกาศแต่งตั้งนายอดิศร์ พฤกษ์พัฒนรักษ์ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดและการขายจากองค์กรธุรกิจชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 25 ปี เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัดมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2559 เป็นต้นมา

โดยมีบทบาทสำคัญ ในการขับเคลื่อนและบริหารจัดการองค์กรภายใต้ทิศทางธุรกิจใหม่ ซึ่งได้ปรับกลยุทธ์การตลาดแบบมัลติแบรนด์ พร้อมปรับโครงสร้างสายงานตลาดและงานขายในแบบเซ็กเมนเทชั่นตามกลุ่มลูกค้า เพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานมีความคล่องตัวสามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้แบบครบวงจรโดยแบ่งเป็น 5สายงาน

ประกอบด้วย1.สายงานขายกลุ่มงานอุตสาหกรรมทั่วไปโดยมีวอลโว่ – เอสดีแอลจี - ทาดาโน่ เป็น3 แบรนด์หลัก กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือผู้รับเหมารายย่อยสำหรับโครงการทั่วไป2.สายงานขายกลุ่มมัลติแบรนด์เพื่อธุรกิจเหมือง โรงโม่ โครงการ และราชการเน้นลูกค้า 4 กลุ่มด้วยการทำตลาดแบบมัลติแบรนด์ มุ่งนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ทั้งด้านธุรกิจ ขนาดโครงการ และงบประมาณ เพื่อให้เข้าถึงได้ครบ Value Chain ตามที่แต่ละกลุ่มต้องการ โดยมีรถบรรทุกแบรนด์ยูตงเป็นหัวหอกหลักสำหรับกลุ่มเหมืองโรงโม่3.สายงานขายกลุ่มเครื่องจักรงานถนน ทำตลาดแบบมัลติแบรนด์กับกลุ่มผู้รับเหมา ซึ่งบริษัทฯ มองโอกาสจากนโยบายรัฐบาล ทั้งงานสร้างและปรับปรุงถนน

สายงานกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร มุ่งเน้นลูกค้ากลุ่มลานมัน ข้าว อ้อยและยาง โดยมีรถตักล้อยางแบรนด์เอสดีแอลจี เป็นหัวหอกหลักของกลุ่มนี้ และ

5.สายงานบริการหลังการขาย และลูกค้าสัมพันธ์ รับผิดชอบงานบริการหลังการขายต่างๆ อาทิ งานอะไหล่ ตรวจเช็ค ซ่อมบำรุง ฯลฯ ที่แยกออกจากทีมขาย เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ภายใต้โครงสร้างใหม่จะทำให้ทีมขาย ทีมบริการ มีการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งไม้ต่อกันได้แบบทันที พร้อมกันนี้บริษัทยังมุ่งเน้นนโยบาย “บริการที่เป็นเลิศ” (Service Excellence)ในการพัฒนายกระดับมาตรฐานการให้บริการของทุกส่วนงานและทุกสาขาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจากนโยบายดังกล่าวคาดว่าปีนี้บริษัทฯ จะสามารถทำยอดขายได้ 4,800 ล้านบาท ตามที่ตั้งเป้าไว้

นายยุทธชัย กล่าวเสริมว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ เพื่อมุ่งเสริมความแข็งแกร่ง และเพิ่มช่องทางธุรกิจให้รองรับโอกาสการเติบโตในอนาคตที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล และการเติบโตของประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ ถนน รถไฟ รถไฟฟ้า ระบบชลประทานและบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งงานก่อสร้างในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและระดับท้องถิ่น โดยคาดว่าจะช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจเครื่องจักรกลหนักได้อีกอย่างน้อย6-8 ปี และจะทำให้บริษัทฯ สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดและแข่งขันกับแบรนด์อื่นๆได้อย่างยั่งยืน

สำหรับภาพรวมธุรกิจเครื่องจักรกลหนักปี 2559 คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 10% จากเดิมที่ตลาดมีมูลค่าประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท

อนึ่ง บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด หรือ ITI คือ หนึ่งในธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทอิตัลไทย ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ วอลโว่ - เอสดีแอลจี -ทาดาโน่ - ยูตง -บ๊อบแคทส์ - ดูซาน - แอตลาสต์คอปโค่ และ พาวเวอร์สกรีน ที่สามารถตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างได้แบบครบวงจร

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ริพเพิลเอฟเฟคท์ จำกัด 02-932-8668 หรือ

โศภิน เงินสวัสดิ์     หมายเลข 099-656-1935    / [email protected]

สุรวุฒิ จิ๋วนางนอง หมายเลข 089-121-7129    / [email protected]

น้ำฝน รสิกวรรณ   หมายเลข 086-780-0720    / [email protected]