มือใหม่ “รวย”...ด้วยธุรกิจเครื่องสำอาง

ประเทศไทยถือได้ว่า เป็นศูนย์กลางธุรกิจความงามในอาเซียน เนื่องจากมีการเติบโตในอัตราที่สูงและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งธุรกิจความงามของไทย ยังครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ได้แก่ ธุรกิจผลิตเครื่องสำอาง ธุรกิจนำเข้า จำหน่าย และค้าปลีกเครื่องสำอาง สะท้อนได้จากตัวเลขของอุตสาหกรรมความงามในไทยมีมูลค่าสูงกว่า 1.8 แสนล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 7.8% ต่อปี

ดังนั้นเมื่อธุรกิจเครื่องสำอางมีการเติบโตสูง จึงทำให้เกิดคู่แข่งขันจำนวนมากตามมาด้วยเช่นกัน เห็นได้จากการเกิดผู้ประกอบการหน้าใหม่จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี (SMEs) ประกอบกับในยุค 4.0 ช่องทางการทำตลาดง่าย โดยผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องลงทุนมีหน้าร้าน  การเริ่มต้นธุรกิจจึงใช้เงินลงทุนก้อนไม่โตมากนัก

“ประตูแห่งโอกาสสำหรับเถ้าแก่หน้าใหม่ แม้จะเปิดกว้าง แต่ไม่ใช่ว่าทุกรายจะคว้าความสำเร็จมาได้ง่ายๆ”

“ศลิษา พิบูลย์สวัสดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเม็ทส์ อินเตอร์เทรด จำกัด บอกว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก โดยเฉพาะที่ขายเครื่องสำอางผ่านออนไลน์ล้มเหลว หรือเติบโตแบบไม่ยั่งยืน อาจเกิดจาก สินค้าไม่มีคุณภาพ เนื่องจากไปจ้างโรงงานผลิต หรือ โออีเอ็ม ไม่ได้มาตรฐาน จึงทำให้เกิดปัญหา ขณะเดียวกันโรงงานโออีเอ็ท ที่ดีและมีคุณภาพในประเทศไทยยังมีจำนวนน้อย อีกทั้งโรงงานผู้ผลิตมีงานเต็มมือ จึงไม่รับคำสั่งซื้อ หรือออร์เดอร์จำนวนน้อยๆ จึงทำให้ผู้ค้าบางราย ไปจ้างโรงงานที่ไม่มีคุณภาพมาตรฐานผลิตสินค้าให้

นอกจากนี้ ศลิษา บอกด้วยว่า บริษัทคอมเม็ทส์ อินเตอร์เทรด จำกัด เริ่มต้นธุรกิจ จากการเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางให้กับแบรนด์ดังในประเทศไทยหลายแบรนด์มายาวนาน จนมีความรู้และเชี่ยวชาญในธุรกิจ“ปัจจุบัน คอมเม็ทส์ ได้เริ่มทำแบรนด์สินค้าเครื่องสำอางของตัวเอง ดังนั้น คอมเม็ทส์ จึงพร้อมแบ่งปันประสบการณ์ และให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ประกอบการหน้าใหม่ ที่ต้องการก้าวเข้าสู่ธุรกิจเครื่องสำอางด้วยมาตรฐานของมืออาชีพ”

 ศลิษา ย้ำด้วยว่า จากความผูกพันอยู่ในธุรกิจนี้มานาน จึงไม่ต้องการให้ผู้ประกอบการรายใหม่ผลิตสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐาน หรือถูกผู้ผลิตที่ไม่เชี่ยวชาญหลอก

“ดิฉันจึงตัดสินใจลงมาช่วยให้คำแนะนำ จากเดิมที่ คอมเม็ทส์ ไม่รับงานจากน้องๆ ที่ขายสินค้าออนไลน์ เพราะซื้อสินค้าจำนวนน้อย แต่ก็จะให้คำแนะนำและเห็นน้องๆ หลายคนประสบความสำเร็จ จึงเป็นเรื่องน่ายินดี”

ศลิษา บอกอีกว่า คนที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ ต้องเป็นบุคคลที่กระตือรือร้น มีวิสัยทัศน์ มีความมุ่งมั่น และต้องรู้จักเครื่องสำอางจริง เพราะหลังจากที่ซื้อบรรจุภัณฑ์จากบริษัทไปแล้ว ยังต้องผ่านโรงงานผลิตเครื่องสำอางอีกหลายขั้นตอน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้สินค้าคุณภาพ

“แต่น้องๆ ที่เข้ามาใหม่จะไม่เข้าใจ ผ่านไปอาทิตย์เดียวร้อนใจว่าทำไมยังไม่ได้สินค้า อยากได้เร็วโดยไม่มีคุณภาพ อันนี้จะโตไม่ยั่งยืน” ศลิษา กล่าว

ศลิษา ยังเน้นย้ำด้วยว่า ผู้ประกอบการหน้าใหม่ ที่ต้องการก้าวสู่ธุรกิจเครื่องสำอาง จะต้องมีความพร้อม โดยต้องมีไอเดียว่าจะผลิตอะไร มีสูตรที่คิดค้นมาแล้ว ต้องการขายลูกค้ากลุ่มไหน กำหนดราคาขายเท่าไร และต้องการเพียงคำแนะนำเพิ่มเติม เช่น การแก้ปัญหาเมื่อต้องเจอข้อจำกัดของสินค้า หรือสามารถนำไปพัฒนาต่อยอด สามารถพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน ผู้ประกบการประเภทนี้จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

ส่วนผู้ประกอบการรายที่ไม่ประสบความสำเร็จ กลุ่มคนเหล่านี้ ต้องการเพียงทำธุรกิจ แต่ยังไม่รู้ว่าจะผลิตผลิตภัณฑ์อะไรดี ไม่มีไอเดีย คนกลุ่มเหล่านี้จะพัฒนายาก ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องทบทวนเหมือนด้วยว่า เราเหมาะจะเข้ามาทำธุรกิจนี้หรือไม่