เคทีบีเอสทีเลนด์ “ลุยสินเชื่อสวัสดิการ” พนักงานออฟฟิศชูสะดวก รวดเร็ว ดอกเบี้ยต่ำ
เคทีบีเอสทีเลนด์ “ลุยสินเชื่อสวัสดิการ” พนักงานออฟฟิศชูสะดวก รวดเร็ว ดอกเบี้ยต่ำ
การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบภาคธุรกิจต่างๆ ซึ่งบางธุรกิจต้องหยุดประกอบธุรกิจชั่วคราว ส่งผลต่อการจ้างงาน ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยชะลอตัว ทำให้คนไทยต้องการเงินเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากขึ้น ขณะที่ภาคธนาคารมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อที่มากขึ้น
ดังนั้น บริษัท เคทีบีเอสที โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) จึงจัดตั้งบริษัทใหม่ คือ บริษัท เคทีบีเอสที เลนด์ จํากัด (KTBST LEND) เมื่อเดือน มกราคม 2563 เพื่อเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อสวัสดิการ และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกํากับของธนาคารแห่งประเทศไทย แก่พนักงานประจําและผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้บริการสินเชื่อสวัสดิการ สินเชื่อส่วนบุคคล และบริการคลินิกขจัดปัญหาหนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตและสังคมที่ดีขึ้น พร้อมเดินหน้าขยายตลาดอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน นี้
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ซึ่งเป็นปีแรกและในระยะ 3-5 ปีข้างหน้านั้น กานต์ พูลเกษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เคทีบีเอสที เลนด์ จํากัด กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อสวัสดิการ เพื่อช่วยเหลือพนักงาน ของกลุ่มบริษัทต่างๆ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และเป็นส่วนหนึ่งในการลดหนี้นอกระบบให้กับพนักงาน ด้วยจุดเด่นสินเชื่อสวัสดิการ KTBST LEND สมัครง่าย วงเงินอนุมัติไว ผ่านแอปพลิเคชัน LEND U ได้ทุกที่ทุกเวลา พิจารณาเพียง 2-3 วัน ด้วยอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 10-15% ต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลทั่วไป ที่อยู่ในระดับ 18-25% ผ่อนสบาย 12 เดือน วงเงินสูงสุดสุด 1-3 เท่า ของเงินเดือน สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ยื่นขออนุมัติวงเงินสินเชื่อได้ทันทีไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน ไม่มีการตรวจเครดิตบูโร และหมดปัญหาการจัดการชำระหนี้สินที่วุ่นวาย เพราะสามารถหักค่างวดได้จากบัญชีเงินเดือนประจำ
ขณะที่ คุณสมบัติผู้ขอกู้อายุระหว่าง 20-59 ปี เป็นพนักงานประจำของบริษัทที่ผ่านการทดลองงานแล้ว พนักงานชั่วคราวทำงานในบริษัท ไม่น้อยกว่า 12 เดือน รายได้ขั้นต่ำ 12,000 บาท ไม่มีประวัติผิดนัดชำระหนี้ พร้อมกับมุ่งกระจายพอร์ตกลุ่มลูกค้าองค์กรให้หลากหลายคาดว่าจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดหนี้ไม่ก่อให้รายได้ (NPL) และในแอปฯ มีเครื่องมือให้คำแนะนำในการบริหารจัดการเงิน บันทึกรายรับรายจ่าย และบทเรียนต่างๆ คาดว่าจะคุม NPL ในระดับที่ต่ำกว่าตลาดไว้ได้ ปัจจุบัน NPL สินเชื่อส่วนบุคคลเฉลี่ยที่ 3-5%
กานต์ วางเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อในปี 2565 ซึ่งเป็นปีแรก ของการปล่อยสินเชื่อสวัสดิการไว้ที่ 30 ล้านบาท ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรธุรกิจขนาดกลางและใหญ่ 5-10 ราย ที่ยังมีฐานะการเงินแข็งแกร่งและผลประกอบการที่ดี ทั้งองค์กรที่มีระบบสวัสดิการเงินกู้ให้กับพนักงานแต่พนักงานบางคนยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนของสถาบันการเงิน และองค์กรที่ยังไม่มีระบบให้สวัสดิการเงินกู้ดูแลพนักงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรองค์กร 3-4 แห่ง ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก คาดว่าจะชัดเจนภายในสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะสามารถทำกำไรได้ตั้งแต่เริ่มปล่อยสินเชื่อในปีแรกได้
ส่วนการเติบโตในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า กานต์ มองว่า การเติบโตสินเชื่อสวัสดิการของบริษัทจะเติบโตแบบก้าวกระโดด หลังจากดำเนินธุรกิจในปีที่ 3 เป็นต้นไป บริษัทเตรียมแผนขยายธุรกิจไปในสินเชื่อกลุ่มอื่นๆ เช่น สินเชื่อบุคคลดิจิทัล เป็นต้น และตั้งเป้าขยายฐานลูกค้า เป็น 40-50 บริษัท วงเงินสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะสร้างสัดส่วนรายได้ราว 10% ให้กับกลุ่ม KTBST
"ตลาดสินเชื่อสวัสดิการพนักงานยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะการแข่งขันน้อย และด้วยจุดแข็งของดอกเบี้ยที่ต่ำ และแอปฯ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการสมัครใช้บริการสินเชื่อสวัสดิการ พร้อมมีเครื่องมือในการให้ความรู้ การบริหารจัดการเงิน ขจัดปัญหาหนี้ เพื่อให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตและสังคมที่ดีขึ้น"
ในปีนี้บริษัทได้พัฒนาแอปฯ และระบบบริการจัดการสินเชื่อ พร้อมให้บริการแล้ว โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ เริ่มนำร่องปล่อยสินเชื่อสวัสดิการผ่านแอปฯ LEND U กับพนักงานกลุ่ม KTBST กว่า 500 คน พบว่า พนักงานขอยื่นกู้และได้รับการอนุมัติราว 100 คน วงเงินสินเชื่อ 5 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อเฉลี่ยต่อราย 50,000 บาท ซึ่งยังไม่มี NPL เกิดขึ้น และได้รับการตอบรับอย่างดี ในด้านความสะดวก อนุมัติไว ไม่ต้องใช้เอกสาร สามารถทำธุรกรรมจบได้ในแอปฯ เดียว
ดังนั้น หากในปีหน้ามีความต้องการสินเชื่อสวัสดิการในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก บริษัทมีเงินสำรองเพียงพอรองรับการปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 100 ล้านบาท มาจากการเพิ่มทุน และเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่ม KTBST ที่มีต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ
สนใจบริการสินเชื่อสวัสดิการพนักงาน สำหรับองค์กร หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ [email protected] หรือ 02-351-1804 กด ต่อ 3413-3414