กทท. เร่งแก้ไขปัญหาการจราจรภายในเขต ทลฉ.

กทท. เร่งแก้ไขปัญหาการจราจรภายในเขต ทลฉ.

กทท. เร่งแก้ไขปัญหาการจราจรภายในเขต ทลฉ.

ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรที่หนาแน่นภายในเขตท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) เพื่อให้การบริการเกิดความสะดวกรวดเร็ว 
 

กทท. ได้เชิญผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือและหาแนวทางการแก้ปัญหา ดังกล่าว โดยเมื่อเร็วๆนี้​ นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. เป็นประธานการประชุมหารือแก้ไขปัญหาการจราจรภายในเขต ทลฉ. พร้อมด้วย นายบัณฑิต สาครวิศวะ ผู้อำนวยการ ทลฉ. เรือเอก กานต์ เมนะรุจิ รองผู้อำนวยการ ทลฉ. และผู้บริหาร ทลฉ.  พร้อมด้วยคุณสุรชัย จงพิพัฒน์ชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินัล จำกัด ดร.สุนทร ผจญ นายกสมาคม   เพื่อการนำเข้าและส่งออก คุณพิเศษ ฤทธาภิรมย์ ประธานสมาคมเจ้าของและตัวแทนเรือกรุงเทพ คุณสุนีย์ ภูติวณิชย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรี และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมหารือในครั้งนี้ ณ ห้องประชุม 1 อาคารบริหาร ทลฉ.

กทท. เร่งแก้ไขปัญหาการจราจรภายในเขต ทลฉ.

กทท. เร่งแก้ไขปัญหาการจราจรภายในเขต ทลฉ.

สำหรับการประชุมครั้งนี้ ทลฉ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรี เกี่ยวกับปัญหาการจราจรหนาแน่นภายในท่าเทียบเรือ บริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนส่งที่มีการใช้เวลาในการขนส่งตู้สินค้ามากกว่าปกติจนส่งผลให้พนักงานขับรถเกิดความเหนื่อยล้าในขณะรอรับบริการ รวมทั้ง ยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศจากการที่ต้องติดเครื่องยนต์เพื่อรอรับบริการ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ B5, C3 ได้ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นที่มาของการเกิดจราจรที่หนาแน่นภายใน ทลฉ. เนื่องจาก 1. เรือบรรทุกตู้สินค้าเข้าเทียบท่าช้ากว่ากำหนด (เรือดีเลย์) 2. การ OVER BOOKING  3. ตู้สินค้าขาเข้า (Import) มีการฝากเก็บไว้เป็นเวลานาน 4. พฤติกรรมการคืนตู้สินค้า (Export) อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน

กทท. เร่งแก้ไขปัญหาการจราจรภายในเขต ทลฉ.

กทท. ได้เสนอแนวทางพร้อมสอบถามความคิดเห็นและความเป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ร่วมกับทุกภาคส่วน​ สามารถหาข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาการจราจรได้ ดังนี้ 

1. ขอให้ผู้ประกอบการขนส่งลงทะเบียนการใช้งานระบบ Truck Queue (การใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อช่วยบริหารเวลารถบรรทุกสินค้าเข้าออก ทลฉ.) เพื่อให้เกิดการเรียนรู้การใช้งานของระบบ รวมทั้ง ทลฉ. ยังสามารถนำข้อมูลปัญหาที่เกิดจากการใช้งานมาปรับปรุง แก้ไข ระบบให้ดีขึ้น เพื่อให้เกิดความรวดเร็วต่อการใช้งานของผู้ประกอบการขนส่ง
2. ขอความร่วมมือผู้ประกอบการทุกภาคส่วนให้ร่วมใช้งานระบบ Truck Queue เต็มรูปแบบ (100%) คาดการณ์ว่าจะสามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป และภายหลังจะมีการออกระเบียบข้อบังคับการใช้งานระบบ Truck Queue
3. ทลฉ. ยินดีสนับสนุนพื้นที่สำหรับการปฏิบัติงาน เพื่อการให้บริการที่มีความสะดวกรวดเร็ว โดยจะมีการสำรวจความต้องการของผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ที่ประสงค์จะเช่าพื้นที่ของ ทลฉ. เพื่อเป็นการบรรเทาการจราจรหนาแน่นภายใน ทลฉ.
4. ขอความร่วมมือผู้ประกอบการท่าเทียบเรือให้บริหารจัดการด้านการจราจร โดยขอให้การบริการเสร็จสิ้นภายใน 2 ชั่วโมง เพื่อเป็นการสร้างความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการ


ทั้งนี้ ทลฉ. จะต้องเร่งรัดดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะถนนและหากพบจุดใดที่ชำรุดให้ดำเนินการซ่อมแซมโดยเร็ว 
ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวขอบคุณ และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ที่แสดงให้เห็นว่า ความคิดเห็นของทุกภาคส่วน มิใช่เพื่อตนเอง แต่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และการร้องเรียนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อมีการแก้ไขปัญหาแล้ว จะเปลี่ยนเป็นคำขอบคุณ และเป็นการสร้างกำลังใจให้ทุกฝ่าย     ร่วมบริการให้ดีมากขึ้น และการประชุมครั้งนี้ต้องประสบความสำเร็จจากความร่วมมือร่วมใจของทุกท่านอีกด้วย