ทำความรู้จัก “มวยไทย ไอยาริน” กับภารกิจนำอุตสาหกรรมมวยไทยไปสู่ระดับโลก
ทำความรู้จัก “มวยไทย ไอยาริน” กับภารกิจนำอุตสาหกรรมมวยไทยไปสู่ระดับโลก
นอกจากความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมที่เป็นมรดกของชาติแล้ว “มวยไทย” ยังเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากมูลค่าเม็ดเงินที่เกิดจากความนิยมมวยไทยอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ ฝรั่งเศส รวมถึงภูมิภาคเอเชีย อย่าง สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน ซึ่งสร้างรายได้ให้กับธุรกิจมวยไทยและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งสินค้าอุปกรณ์การชก เช่น นวม กางเกง อุปกรณ์การฝึกซ้อม ของที่ระลึก รวมถึงความต้องการด้านบุคลากรในวงการมวย เช่น นักมวย เทรนเนอร์ ผู้ฝึกสอน กรรมการ โปรโมเตอร์ ฯลฯ ส่งผลให้อุตสาหกรรมมวยไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ค่ายมวยไทย ไอยาริน ผู้บุกเบิกนำกีฬามวยไทยไปปักธง ณ เมืองศูนย์กลางเทคโนโลยี ของสหรัฐอเมริกาอย่างเมืองซีแอตเติล มลรัฐวอชิงตัน มานานกว่า 5 ปี ภายใต้การบริหารของ บริษัท มวยไทย ไอยาริน จำกัด โดยมี ไอยาริน เดวา และ โทนี เดวา เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง จากการเป็นค่ายมวย ที่เปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะมวยไทย จนปัจจุบันได้พัฒนาก้าวสู่โลกดิจิทัล สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่าน ‘Muaythai Iyarin Application’ ที่มุ่งหวังให้คนทั่วโลกได้เข้าถึงมวยไทยมากยิ่งขึ้น
ไอยาริน เดวา เปิดเผยว่า “ค่ายมวยไทย ไอยาริน เป็นค่ายมวยไทยของคนไทยเพียงแห่งเดียวในซีแอตเติล จากการที่เติบโตและคลุกคลีมากับวงการมวยไทย ได้มาเห็นรูปแบบการนำมวยไทยมาใช้ในยิมที่นี่ ทั้งเพื่อออกกำลังกายและการเรียนศิลปะการต่อสู้ ซึ่งส่วนใหญ่เทรนเนอร์จะเป็นชาวต่างชาติ เราเห็นว่ามีหลายทักษะที่ถ่ายทอดไม่เหมือนกับค่ายมวยในเมืองไทย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำความรู้และทักษะมวยไทยแบบแท้ๆ ของเรามานำเสนอเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น จึงได้เปิดเป็นค่ายมวยไทยขึ้นมา จนถึงปัจจุบันเรามีจำนวนนักเรียน เข้าออก ผลัดเปลี่ยนมาเรียนในแต่ละเดือน ไม่ต่ำกว่า 300 คน โดยมีสัดส่วนเป็นชาวต่างชาติถึง 90% และคนไทย 10% กลุ่มผู้สนใจที่เข้ามาเรียนมีทั้งหมอ ครู ทนาย วิศวะ ซึ่งแต่ละคนจะมี Passion ที่แตกต่างกัน บางคนเข้ามาเพื่อออกกำลังกายเป็นหลัก บางคนมี Passion มีความเป็น Fighter ต้องการฝึกฝนจนสามารถขึ้นชกได้ ซึ่งต้องผ่านคุณสมบัติที่เรากำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยมีคุณโทนี่ ซึ่งเป็นนักกีฬามวยไทยเป็นผู้ฝึกสอน
กว่า 10 ปี ที่เรามาอยู่ที่อเมริกา พบว่า มวยไทยเป็นกีฬาที่ต่างชาติให้ความนิยมมากๆ ถึงขนาดที่มีคนกล่าวว่า มวยไทยเป็นเทพเจ้าของ Martial Art ทั้งปวง ค่ายมวยไทยเกิดขึ้นมากโดยเฉพาะในแถบแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก รวมถึงมียิมอีกหลายแห่งที่นำมวยไทยมาเป็นหนึ่งในคอร์ส Martial Art หรือศิลปะการต่อสู้ รวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 1,000 รายทั่วสหรัฐ สำหรับค่ายมวยไทยไอยาริน ของเรา นอกจากการเป็นค่ายมวยไทยโดยคนไทย เพียงแห่งเดียวในซีแอตเติลแล้ว ความแตกต่างอย่างชัดเจนจากค่ายมวยอื่นๆ ซึ่งเจ้าของเป็นคนต่างชาติ คือ การเป็น Community ที่เป็นมากกว่าสถานที่ออกกำลังกายหรือฝึกซ้อมมวย
“พฤติกรรมของชาวต่างชาติโดยปกติ หลังจากการฝึกซ้อมเสร็จ ต่างคนต่างก็แยกย้ายกลับ แต่ที่นี่เป็น community สำหรับคนรักกีฬามวยไทย ที่นอกจากจะมีการสอดแทรกวัฒนธรรมไทยให้ทุกคนได้เห็นแล้ว เรายังสามารถร่วมพูดคุย บอกเล่า passion หรือแชร์ประสบการณ์ต่างๆ ร่วมกันได้ ทำให้เกิดการบอกต่อ มีการชักชวนเพื่อนๆ ต่างรัฐ บินมาซ้อมถึงที่นี่ รวมถึงคนนอกสหรัฐ ที่สนใจกีฬามวยไทยก็เคยบินมาฝึกซ้อมที่เรา หลายคนบอกว่าเรียนที่นี่ 3 เดือน เหมือนเรียนที่อื่น 10 ปี เพราะเราสอนแบบโฟกัส ให้ใช้เทคนิคอย่างถูกจุด ทำให้เข้าใจทักษะมวยไทยได้รวดเร็วกว่า จึงทำให้เรามีผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากพื้นที่ค่ายมวยในปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 10,000 ตารางฟุต เราจึงมองหาสถานที่ใหม่ในซีแอตเติล ที่มีขนาดประมาณ 20,000 – 30,000 ตารางฟุต เพื่อที่จะทำค่ายมวยไทย ไอยารินแห่งใหม่ ให้สามารถรองรับกับผู้ใช้บริการที่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเห็นโฉมใหม่บนพื้นที่ใหม่ ภายใน 6 เดือนจากนี้”
• จากเวทีผืนผ้าใบ ก้าวสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เปิดตัว ‘Muaythai Iyarin Application’
จากความสำเร็จของการเปิดค่ายมวยไทย ไอยาริน และการเข้ามาของเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของคนทั่วโลก ไอยาริน เดวา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เรามีแนวคิดในการที่จะนำมวยไทยเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเริ่มต้นวางแผนมานานกว่า 2 ปี เมื่อเกิดสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นปัจจัยเร่งให้เราได้พัฒนาช่องทางออนไลน์ของเราให้เร็วขึ้น เมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมา จึงได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Muaythai Iyarin ขึ้นอย่างเป็นทางการ
“Pain Point ที่เราเจอในช่วงแรกที่เปิดค่ายมวย คือ เราขาดแคลนแหล่งข้อมูลในการค้นหาหรือสั่งซื้อสินค้า อุปกรณ์การชกมวย ต้องอาศัยการสั่งซื้อโดยตรงจาก suppliers ที่เมืองไทย ขณะที่แอปพลิเคชันเกี่ยวกับมวยไทยก็มีน้อยมาก ที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นคลิปสอนเทคนิคการชกมวยหรือในเกมเกี่ยวกับการต่อสู้ เราจึงได้เริ่มมองเห็นโอกาสในการที่จะสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ขึ้นมา เพื่อที่จะให้เป็นช่องทางที่ผู้สนใจกีฬามวยไทย ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใหญ่ของโลกก็สามารถเข้ามาหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับมวยไทยได้อย่างครบถ้วน พอโควิดมา เราจึงปรับตัวและมีความพร้อมในการใช้ช่องทางออนไลน์ได้เร็วขึ้น โดยได้ทดลองเปิดแอปพลิชัน Muaythai Iyarin ให้ผู้สนใจโหลดเข้าใช้บริการฟรีมานานกว่า 6 เดือน ซึ่งมีผลตอบรับที่ดีมาก และเราก็พบว่าแอปพลิเคชัน ยังสามารถพัฒนาและต่อยอดได้อีกมาก ทั้งในด้านฟีเจอร์เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานและการต่อยอดในเชิงธุรกิจ
“เราได้ปรับปรุงและพัฒนาแอปพลิเคชัน และได้เปิดให้บริการในรูปแบบการสมัครเป็นสมาชิก ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 12.99 ดอลล่าร์สหรัฐต่อเดือน โดยในช่วงแรกได้พัฒนาฟีเจอร์ Muaythai Guide ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของชาวต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะการเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลของวงการมวยไทยที่มีครบในทุกมิติ สามารถเข้ามาอ่านค้นคว้าได้ มี content ที่ให้เค้าได้ศึกษา วัฒนธรรมไทย วิถีชีวิตคนไทย ต้องการที่จะรู้ลึกกว่าเดิม และสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกซ้อมมวยไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เราก็ได้เปิดฟีเจอร์ Muaythai Timer ให้ได้เข้ามาใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้น ตั้งแต่ช่วงเปิดตัวจนถึงปัจจุบัน เรามีจำนวน User เพิ่มขึ้นถึง 50% และจากช่วงแรกที่มีสมาชิกแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนนี้เรามีสมาชิกกว่า 30,000 คนจาก 137 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย”
• ต่อยอดแอปพลิเคชัน สร้างโอกาสในธุรกิจวงการมวย ผนึกทีมงานมืออาชีพจาก Amazon เตรียมเปิดฟีเจอร์ Marketplace
โทนี่ เดวา กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เม็ดเงินในวงการมวยไทยหายไปประมาณ 100 ล้านบาท ทั้งจากค่าใช้จ่ายของชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาเรียนศิลปะมวยไทยแต่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ รวมถึงการงดจัดการแข่งขันมวยไทยในเวทีต่างๆ ตามมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อวงการมวยไทย รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
“เฉพาะตัวนักมวยเอง ซึ่งมีรายได้ต่อการขึ้นชกต่อครั้งตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท เมื่อไม่มีเวทีขึ้นชก ก็ต้องสูญเสียรายได้ไป ยังไม่นับรวมกับบุคลากรอื่นในอุตสาหกรรมมวยไทย เช่น กรรมการ ผู้ฝึกสอน โปรโมเตอร์ ซึ่งขาดรายได้ไปด้วยเช่นกัน และยังส่งผลกระทบไปถึงผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้า ที่ยอดขายต้องหายไป เราจึงมองเห็นโอกาสในการที่จะได้เข้าไปมีส่วนช่วยทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมมวยไทย โดยอาศัยสิ่งที่เรามี คือ ‘Muaythai Iyarin Application’ มาต่อยอดให้สามารถเป็นช่องทางสร้างรายได้ ช่วยธุรกิจให้เดินหน้าต่อไป จึงได้ร่วมกับทีมงาน มืออาชีพจาก Amazon ผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซระดับโลกที่มาช่วยวางกลยุทธ์และ User Experience สร้าง Marketplace ขึ้น ซึ่งเตรียมเปิดตัวในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เพื่อเป็นพื้นที่ให้สินค้าในวงการมวยที่ประทับตรา Made in Thailand ไปถึงต่างชาติได้อย่างสะดวกมากขึ้น โดยสินค้าทุกชิ้นที่นำมาจำหน่ายบน Marketplace ของเรา จะต้องผ่านการคัดสรรว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ มีการจดทะเบียนการค้าอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและเป็นสินค้า Exclusive มีเฉพาะในแอปเราเท่านั้น ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการแบรนด์สินค้าและบริษัทอุปกรณ์กีฬาชั้นนำระดับระดับโลก สนใจเข้าร่วมจำนวนมาก”
นอกจากสินค้าและอุปกรณ์ต่างๆ แล้ว โทนี่ ยังได้เผยถึงการเตรียมเปิด ฟีเจอร์ค้นหางาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้บุคลากรในวงการมวยทั้ง นักมวย เทรนเนอร์คนไทย ได้มีช่องทางค้นหางานที่ถนัดตรงกับความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสอนมวยไทยไปจนถึงการสอนศิลปะการป้องกันตัวแขนงอื่นๆ โดยเปิดโอกาสให้มีทั้งคนไทยหาคนไทยด้วยกัน หรือต่างชาติหาคนไทย ผ่านการสอนทางออนไลน์หรือเดินทางไปสอนในประเทศต่างๆ ภายใต้เงื่อนไข work permit ในแต่ละประเทศ
“นอกเหนือการเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ของบุคลากรในวงการมวยไทยแล้ว เรายังได้เตรียมพัฒนาฟีเจอร์ Pay per view ขึ้น เพื่อเป็นช่องทางสนับสนุนเวทีการจัดแข่งขันมวยต่างๆ โดยเฉพาะเวทีในต่างจังหวัดที่ขาดรายได้จากการจำหน่ายตั๋ว โดยจะเปิดให้ผู้สนใจจากทั่วโลกได้ซื้อตั๋วเข้าชมในรูปแบบ Live สดส่งตรงจากเวที และยังสามารถเข้าดูย้อนหลังได้ด้วย ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะเป็นของผู้จัดการแข่งขันเวทีนั้นๆ ทันที”
หลังจากนี้ ‘Muaythai Iyarin Application’ ยังวางแผนที่จะใช้จุดแข็งของมวยไทยมาเป็น lead ในการนำนักท่องเที่ยวเข้ามาสู่ประเทศไทย ด้วยการสร้างฟีเจอร์ Gym Travel ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางข้อมูลของที่พัก ที่เที่ยว ที่กิน ยิมและค่ายมวยไทยสำหรับผู้สนใจจากทั่วโลก โดยสามารถดูข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ข้อมูลการเรียนคอร์สมวยจากค่ายมวยต่างๆ และยังสามารถเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายเพื่อวางแผนการเดินทางได้อย่างครบวงจร โดยตั้งเป้าว่าหลังจากการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ อย่างสมบูรณ์แล้ว ‘Muaythai Iyarin Application’ จะมี user เข้ามาใช้งานกว่า 60,000 ราย ต่อเดือน
“สิ่งที่เราคาดหวังมากที่สุดในการพัฒนา ‘Muaythai Iyarin Application’ คือ การเป็นแอปพลิเคชันที่จะดึงต่างชาติมาเป็นผู้บริโภค และคนไทย คือ ผู้ผลิต ซึ่งผลลัพธ์ คือ การสร้างรายได้ให้กับคนในอุตสาหกรรมมวยไทย รวมถึงต้องการส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อผลักดันและสร้างโอกาสใหม่ๆให้กับวงการมวยไทยของเรา” โทนี่ กล่าวทิ้งท้าย