MEA ตอบรับนโยบาย กระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อมรับพายุ "โนรู"
MEA ตอบรับนโยบาย กระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อมรับพายุ "โนรู" เตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากไฟฟ้า ในสถานการณ์อุทกภัย
ตามที่ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชน ด้วยกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ เรื่อง พายุ "โนรู" คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ในวันที่ 28 กันยายน 2565 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงในช่วงวันที่ 28 กันยายน - 1 ตุลาคม 2565 ซึ่งอาจทำให้บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น นั้น
วันนี้ (27 กันยายน 2565) นายจุมภฎ หิมะเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร MEA เปิดเผยว่า MEA พร้อมดำเนินการตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย พร้อมบูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดย MEA ได้ติดตามสถานการณ์ระดับน้ำต่อเนื่องเฝ้าระวังตรวจสอบเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย รวมถึงพร้อมให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ให้บริการ ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งมีการสื่อสารแจ้งเตือนความปลอดภัยด้านไฟฟ้าในช่วงฤดูฝนและสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ดังนี้
ก่อนน้ำท่วม
- ปลดเมนเบรกเกอร์ ป้องกันไฟรั่ว
- ย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นที่สูงไม่ให้น้ำท่วมถึง
ขณะน้ำท่วม
- บ้าน 2 ชั้น ควรมีเบรกเกอร์แยกแต่ละชั้น ปลดเบรกเกอร์ชั้นล่าง
- อย่าสัมผัสสวิตช์ไฟ และงดใช้ไฟฟ้าขณะตัวเปียกหรือสัมผัสน้ำ
- ควรยืนที่แห้งและสวมรองเท้ายาง
- บ้านชั้นเดียวงดใช้ไฟฟ้า และย้ายออกจากบ้าน
- ห้ามใช้งานปลั๊กไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสวิตช์ไฟฟ้าที่น้ำท่วมถึงโดยเด็ดขาด จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ
หลังน้ำท่วม
- เตรียมอุปกรณ์ ก่อนเข้าไปที่พักอาศัย ไฟฉาย ถุงมือยาง รองเท้าบูทยาง
- ห้ามสัมผัสวัสดุที่เป็นโลหะ
- ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ โดยช่างผู้ชำนาญก่อนใช้งาน
- อุปกรณ์ที่เปียกน้ำควรเปลี่ยนใหม่ จะปลอดภัยที่สุด
จากสถานการณ์ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากทำให้น้ำฝนสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในระยะนี้ ตลอดจนพื้นที่อื่น ๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูงครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ลักษณะแอ่งกระทะน้ำท่วมบ่อยครั้ง รวมถึงชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ราบลุ่ม แนะนำประชาชนหากพบว่ามีแนวโน้มที่ระดับน้ำบริเวณบ้านจะเริ่มท่วมสูงขึ้นจนใกล้ถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าขอให้รีบดำเนินการย้ายปลั๊กไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นที่สูงให้พ้นจากระดับน้ำท่วมถึงเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุด อีกทั้ง สำรวจต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้านของตนเอง ให้กิ่งไม้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่ระสายไฟฟ้า เพราะอาจทำให้ไฟฟ้าดับ รวมไปถึงอาจจะทำให้มีกระแสไฟฟ้ารั่วมาตามกิ่งไม้ที่เปียกน้ำจากฝนฟ้าคะนองได้ ในส่วนของห้างร้านที่ติดตั้งป้ายโฆษณา จะต้องตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพที่มั่นคง ปลอดภัย พร้อมทั้งควรติดตามข่าวสาร สถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ หากประชาชนประสบเหตุสาธารณภัย หรือต้องการความช่วยเหลือ จากเหตุสาธารณภัยต่างๆ สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนนิรภัย โทร. 1784 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงหากประชาชนในพื้นที่ให้บริการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ พบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าของ MEA ชำรุดอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย หรือต้องการความช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้ารวมถึงขอเลื่อนเครื่องวัด ฯ สามารถแจ้งการไฟฟ้านครหลวงเขตใกล้บ้าน ทุกเขต หรือแจ้งเหตุผ่านช่องทางออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว ได้ที่ MEA Smart Life Application ดาวน์โหลดฟรี คลิก https://onelink.to/measmartlife หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter: @mea_news รวมถึง MEA Call Center โทร 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
#น้ำท่วม #พายุฝน #ฝนตก
#อันตรายจากไฟฟ้า
#มหาดไทยสร้างสุขบำบัดทุกข์ปวงประชา
#๑๓๐ปีกระทรวงมหาดไทย_บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SDGsforAll #ChangeforGood
#กระทรวงมหาดไทย
#ข้อควรระวังเมื่อเกิดน้ำท่วม
#ระบบไฟฟ้ามั่นคง #MEASafety #MEAsmartLife
#การไฟฟ้านครหลวง #MEA #พลังงานเพื่อวีถีชีวิตเมืองมหานคร