‘TTM+ 2024’ เทรดโชว์ท่องเที่ยวใหญ่สุดในไทย ยอด ‘ผู้ซื้อต่างชาติ’ ทำนิวไฮ ต่อยอดธุรกิจได้ไม่รู้จบ!
‘TTM+ 2024’ เทรดโชว์ท่องเที่ยวใหญ่สุดในไทย
ยอด ‘ผู้ซื้อต่างชาติ’ ทำนิวไฮ ต่อยอดธุรกิจได้ไม่รู้จบ!
งานเทรดโชว์ด้าน “การท่องเที่ยว” ทั่วโลกเผชิญความท้าทายในยุคดิจิทัลดิสรัปชัน ถูกตั้งคำถามว่าเหล่าบริษัทนำเที่ยว หรือ “ผู้ซื้อ” (Buyer) จากต่างประเทศ ยังจำเป็นต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล เพื่อพบปะเจรจาธุรกิจกับเจ้าของสินค้าและบริการ หรือ “ผู้ขาย” (Seller) แบบเจอหน้าค่าตาหรือไม่ ในเมื่อมีแพลตฟอร์มออนไลน์มากมายให้เลือกติดต่อกัน
แต่ถ้าตั้งหลักด้วยคำถามคลาสสิก ว่าแท้จริงแล้ว “หัวใจ” ของการท่องเที่ยวคืออะไร ใช่การเปิดประตูออกเดินทาง เรียนรู้ สัมผัสสิ่งใหม่ไม่รู้จบ...หรือไม่? เวทีเจรจาธุรกิจ “Thailand Travel Mart Plus” (TTM+) งานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวระดับนานาชาติในลักษณะ B2B ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมให้คำตอบแก่เหล่าผู้ซื้อผู้ขาย ว่าคุ้มค่ากับการลงทุนมาเยือนมากแค่ไหน!
ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ฉายภาพว่า การจัดงาน TTM+ ในปี 2567 วันที่ 5-7 มิ.ย. ณ โรงแรม เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นการจัดงานครั้งที่ 21 และเป็นครั้งแรกของ “พังงา” ในฐานะเจ้าบ้าน
ททท. พร้อมระดมความพิเศษต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน เฉพาะบริษัทนำเที่ยวจากต่างประเทศหรือ “Buyer” ร่วมงานมากถึง 425 ราย จาก 50 ประเทศทั่วโลก เพิ่มขึ้น 13.64% จากปี 2566 เป็นสถิติใหม่ “มากที่สุดในประวัติศาสตร์การจัดงาน TTM+” ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2544 ยกเว้นช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ต้องเลื่อนและยกเลิกการจัดงานปี 2563-2564 ก่อนกลับมาจัดอีกครั้งปี 2565
ในปีนี้ ททท. ได้จัดตั้งคณะกรรมการคัดเลือก Buyer โดยให้ความสำคัญกับตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ เช่น ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ และแอฟริกา รวมถึง Buyer ที่ไม่เคยเสนอขายประเทศไทยมาก่อน เสริมทัพกลุ่ม Buyer จากตลาดหลัก โดยสัดส่วนผู้เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรกมากถึง 45% และผู้ที่เคยเข้าร่วมงานแล้ว 55%
เฉพาะ Buyer รายใหญ่ ผู้เข้าถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งในจำนวนและมูลค่า (Volume & Value) จากตลาดต่างๆ เมื่อส่องรายชื่อในตลาดระยะไกล เริ่มด้วยตลาดยุโรป อาทิ Southall Travel (ลอนดอน) , DER Touristik (แฟรงก์เฟิร์ต) , Alpitour (อิตาลี), Itaka (โปแลนด์), Stjernegaard Rejser A/S (สต็อกโฮล์ม), Fun & Sun (มอสโก) ตลาดอเมริกาและลาตินอเมริกามี Morris Colombus Travel, King Midas, Goway Travel ตลาดตะวันออกกลางมี Riyadh Seera Group, Al Faris travel ฟากตลาดระยะใกล้ อย่างตลาดไต้หวันมี Lion Tour, Set Tour ตลาดเกาหลีมี Mode Tour ตลาดญี่ปุ่นมี HIS และ Nippon Travel Agency ส่วนตลาดอินเดียมี Paul Merchants Ltd ตลาดมาเลเซียมี Travel Forte Sdn.Bhd และฝั่งออสเตรเลียมี Flight Center
ด้านผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย หรือ “Seller” หลังจาก ททท.เปิดรับสมัครเมื่อเดือน ก.พ. มี 430 ราย เพิ่มขึ้น 0.23% ประกอบด้วย ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต 83.5% ธุรกิจนำเที่ยว 7.9% สถานบันเทิงและสันทนาการ 4.2% ธุรกิจด้านการคมนาคมขนส่ง 1.9% และธุรกิจอื่นๆ 2.5% ส่วนใหญ่เกือบ 60% เป็น Seller จากภาคใต้ รองลงมาคือภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภายในงาน TTM+ 2024 ไม่ได้มีแค่เปิดโต๊ะเจรจาธุรกิจเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมไฮไลต์นำเสนอ “เสน่ห์ไทย” ผ่านโชว์เคสสินค้าบริการ และเวิร์กชอปสร้างประสบการณ์เชื่อมโยงสินค้าชุมชนท่องเที่ยวในพังงา กิจกรรมเชิงวิชาการ TTM Talk เปิดเวทีเสวนาอนาคตการท่องเที่ยวไทยและความยั่งยืนทางอาหาร การจัดนิทรรศการด้านดิจิทัลและนวัตกรรมทางการท่องเที่ยว
ททท.ประเมินมิติการสร้างรายได้ งาน TTM+ 2024 จะกระจายรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมสู่ชุมชนในจังหวัดพังงา โดยเฉพาะพื้นที่ “เขาหลัก” และกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยวอันดามัน รวมถึงการนำเสนอรายการนำเที่ยวแก่ Buyer และสื่อมวลชนต่างประเทศ ให้ได้อัปเดตทดลองสินค้าและบริการท่องเที่ยว เพื่อนำไปออกแบบและโปรโมตเส้นทางเสนอขายแก่ลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งแบบ “Pre-Tour” ภายใต้แนวคิด “Must Do in Phang-nga” ผ่านรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness) และพาไปผจญภัยกันแบบเบาๆ (Soft Adventure) ในพังงา 4 เส้นทาง ส่วนแบบ “Post-Tour” นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวน่าสนใจเชื่อมภูมิภาคอื่นๆ ชูจุดขาย “ซอฟต์พาวเวอร์” (Soft Power) ของไทย 4 เส้นทางสู่ภูเก็ต กระบี่ เกาะสมุย และเชียงใหม่-ลำปาง ทุกเส้นทางล้วนผนึกการสร้างความยั่งยืนไว้ตลอดทาง
เข้ากับอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของการจัดงาน TTM+ 2024 เรื่องมิติ “ความยั่งยืน” (Sustainability) นอกเหนือจากการส่งเสริมให้ Seller ดำเนินธุรกิจแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้าร่วมงานฯ โดยมีส่วนลดพิเศษค่าสมัครสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Award 2023 มาตรฐานดาวแห่งความยั่งยืน (TAT STAR) และผู้ที่เข้าร่วมโครงการ CF Hotels (Carbon Footprint Hotels) ของ ททท. รูปแบบการจัดงานยังคำนึงถึง “ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมงานตระหนักถึงปัญหาขยะ และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการของเสีย
ในวันที่ 5 มิ.ย. ซึ่งตรงกับวันสิ่งแวดล้อมโลก หรือ “World Environment Day” และวันที่ 8 มิ.ย. “World Ocean Day” สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ร่วมกับ ททท. จัดกิจกรรมเติมคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) ด้วยการปลูกป่าชายเลน เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับ Buyer
“ททท. คาดว่าการเจรจาธุรกิจในงานนี้จะมีมากกว่า 15,000 นัดหมาย สร้างมูลค่ารายได้จากการเจรจาธุรกิจกว่า 3,000 ล้านบาท กระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท”
งาน TTM+ 2024 ตอบโจทย์ทุกมิติช่วยให้ผู้มาเยือนสามารถต่อยอดธุรกิจ บอกต่อนักท่องเที่ยวว่าการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยนั้น เรื่องราวความประทับใจจะตราตรึงในความทรงจำ (Unforgettable Experience) พร้อมถูกบอกเล่าต่อไป “ไม่รู้จบ” สอดรับคอนเซปต์สื่อสารแบรนด์ “Amazing Thailand: Your Stories Never End” ตอกย้ำประเทศไทยฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลก!