อสังหาฯ คึกคักรับไฮซีซันการท่องเที่ยว
อสังหาฯ คึกคักรับไฮซีซันการท่องเที่ยว บทความโดย อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
เข้าสู่โค้งสุดท้ายของปี 2565 และเป็นช่วงไฮซีซันของ การท่องเที่ยว ด้วยเช่นกัน หลังจากที่การท่องเที่ยวทุกๆ ประเทศหยุดชะงักไปในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ปีนี้ถือว่าการท่องเที่ยวกลับมาเข้าสู่บรรยากาศสุดคึกคักอีกครั้ง ประเทศไทยก็มีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีการผสมผสานวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญา และความเป็นไทยเกิดเป็นเอกลักษณ์ของแต่ภูมิภาค ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้เป็นอย่างดี อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจึงเป็นแรงกระตุ้นการสร้างรายได้ และส่งเสริมให้เศรษฐกิจประเทศไทยฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง
จากสถิติการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พบว่า มีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในช่วงปีนี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว โดยมียอดนักท่องเที่ยวสูงถึง 135 ล้านคนเลยทีเดียว แม้ว่าสถิติจะไม่เท่ากับยอดก่อนเกิดโควิด-19 แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ดี
การมาของ นักท่องเที่ยว นั้นส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในหลายๆ ด้าน รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ด้วย เพราะไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวเหล่านี้จะต้องเข้าพักตามโรงแรมต่างๆ แล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่อาจจะมาพักผ่อนเป็นระยะเวลานานหลายเดือน ก็อาจจะหันมาใช้วิธีเช่าบ้าน หรือคอนโดมิเนียมแทน ซึ่งเหตุนี้เองก็เป็นส่วนกระตุ้นให้บ้านและคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯ และตามเมืองท่องเที่ยวสำคัญมีความคึกคัก
โดยเฉพาะในพื้นที่ตากอากาศ อย่างเชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา หัวหิน-ชะอำ ที่ยังคงเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และยังมีอานิสงส์มาตรการรัฐหนุนกระแสท่องเที่ยวต่อเนื่องจากการลงทุนภาครัฐ ภาคเอกชน และการขยายอายุวีซ่าในไทย 10 ปี หรือ LTR Visa เปิดทางต่างชาติที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่มเข้ามา ได้แก่ กลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มคนวัยเกษียณอายุ กลุ่มที่ต้องการเข้ามาทำงาน และกลุ่มทักษะความเชี่ยวชาญ นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนให้คึกคักมากขึ้นทั้งในด้านการลงทุน และพำนักในไทยระยะยาว ล้วนแต่ส่งผลต่อดีต่อเศรษฐกิจ และการจ้างงาน จนทำให้โครงการบ้านและคอนโดฯ กลายเป็น อสังหาริมทรัพย์ ที่ยังคงมีโอกาสเป็นแหล่งการลงทุน และสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่ง
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ได้คาดการณ์แนวโน้มตลาด อสังหาฯ ก็จะกลับมาฟื้นตัวด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยปัจจัยที่การท่องเที่ยวกลับมาในช่วงนี้ รวมถึงมีปัจจัยอื่นที่เป็นบวก โดยปัจจุบันมีสัดส่วนที่อยู่อาศัยในตลาดที่เสนอขายอยู่จำนวนมาก แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 119,483 หน่วย และโครงการอาคารชุด จำนวน 80,466 หน่วย และผู้พัฒนาอสังหาฯ ยังคงมีโครงการใหม่ๆ เปิดอีกอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเร่งกระตุ้นการตัดสินใจซื้อด้วยการแข่งจัดโปรโมชันสุดคุ้ม ทั้งรับเงินคืน ฟรีเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลัง ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนและค่าส่วนกลาง รวมทั้งตรึงราคาเดิมให้นานที่สุดเพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้
วันนี้เป็น Golden Period หรือจังหวะทองของการลงทุนของกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) และนักลงทุนที่มีความพร้อม เนื่องจากมีแรงสนับสนุนหลายอย่างเมื่อผนวกกับปัจจัยบวกที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-Value: LTV) ทำให้ผู้ซื้อบ้านสามารถกู้ได้ 100% ของมูลค่าที่อยู่อาศัย รวมถึงมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์-ค่าจดจำนอง เหลือเพียง 0.01% โดยมาตรการนี้จะหมดอายุวันที่ 31 ธันวาคม นี้ และปี 2566 คาดว่าโครงสร้างราคาจะปรับขึ้นแน่นอนอย่างน้อย 10% จากการปรับขึ้นของต้นทุนราคาวัสดุ การก่อสร้าง แรงงาน น้ำมัน รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ต้นทุนการพัฒนาโครงการขยับขึ้น ทำให้ผู้พัฒนาการโครงการต่างๆ ที่ยังมีบ้านที่อยู่ในสต็อกที่ยังไม่ปรับราคาขึ้น จึงถือเป็นโอกาสสุดท้ายของปีนี้ที่เอื้อให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในราคาที่ยังไม่แพงเกินไป
นอกจากนี้ทรัพย์สินรอการขาย (Non-Performing Assets: NPA) หรือ “ทรัพย์สินหลุดจำนอง” หรือ “ทรัพย์สินพร้อมขาย” เป็นอสังหาริมทรัพย์มือสองประเภทหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เนื่องจากราคาของทรัพย์สินรอการขายส่วนมากจะถูกกว่าการขายมือสองมากถึง 10-15% โดยข้อได้เปรียบของการซื้อทรัพย์สินรอการขาย คือ อาจได้พบกับ อสังหาริมทรัพย์ ในทำเลทองหรือทำเลศักยภาพในราคาที่ถูกกว่าการซื้อแบบรีเซลล์ สามารถนำไปลงทุนต่อหรือทำการรีโนเวทได้เพื่อขายเก็งกำไร ตลอดจนใช้เวลาไม่นานก็สามารถที่จะเข้าไปใช้พื้นที่ได้ จึงทำให้หลายคนสนใจในทรัพย์สินประเภทนี้ดังนั้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะลงทุนทั้งแบบเพื่ออยู่เองหรือเพื่อให้เช่า ทั้งในย่านเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ หรือในจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญก็นับว่ามองเห็นโอกาสที่ดีในการลงทุนอยู่