เกรท วอลล์ มอเตอร์ เตรียมนำ TANK 500 TANK 300 และ ORA Grand Cat รุกตลาดปี 2566
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ฉลองครบรอบ 2 ปี ในไทย เตรียมนำ TANK 500 TANK 300 และ ORA Grand Cat รุกตลาดปี 2566 พร้อมเปิดจอง ORA Good Cat อีกครั้ง ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในไทย
9 กุมภาพันธ์ 2566 เกรท วอลล์ มอเตอร์ ฉลองครบรอบ 2 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เผยความสำเร็จของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและสังคมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยยอดขายปี 2565 รวมทั้งสิ้น 11,616 คัน ประกาศเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน ยานยนต์ไฟฟ้า ของไทย (xEV Leader) ด้วยกลยุทธ์เชิงรุก 4 ด้าน ทั้งแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ การขาย และการบริการหลังการขาย พร้อมนำทัพรถยนต์ไฟฟ้าอีก 5 รุ่น เปิดตัวสู่ตลาดไทยในปีนี้ นำทัพโดย TANK 500 TANK 300 และ ORA Grand Cat เสริมทัพด้วยการเปิดรับจองเจ้าเหมียวไฟฟ้า 100% ขวัญใจมหาชน ORA Good Cat ที่จะกลับมาให้แฟนๆ ชาวไทยได้จับจองเป็นเจ้าของอีกครั้ง สะท้อนจุดยืนของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่มุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภคชาวไทย ผ่านเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่จะตอบโจทย์ทั้งด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างครบครัน
มร. ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลอดสองปีมานี้มีสมาชิกชาวไทยมากกว่า 15,000 ครอบครัว ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เกรท วอลล์ มอเตอร์ จากการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 5 รุ่น ปัจจุบันเรามีกลุ่มในโซเชียลมีเดียถึง 16 กลุ่ม โดยมีผู้ใช้งานรวมกันกว่า 530,000 คน และ GWM Application ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 126,825 ราย รวมถึงมีจำนวนผู้ติดตามข่าวสารบนโซเชียลมีเดียรวมมากกว่า 1.1 ล้านคน ในทุกช่องทาง รวมถึงมีช่องทางจำหน่ายและให้บริการที่ขยายครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ รวมกว่า 80 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และครอบคลุมถึง 82 เปอร์เซ็นต์ในต่างจังหวัด ในปีนี้เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน ยานยนต์ไฟฟ้า เราได้เปิดตัวกลยุทธ์ ONE GWM เพื่อเร่งสร้างแบรนด์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ สู่ระดับสากลในทุกมิติ ผ่านการดำเนินงานด้านการตลาด การสื่อสาร และการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในตลาดโลก เพื่อสะท้อนความเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับโลกอย่างแท้จริง และในปี 2566 นี้เรายังคงเดินหน้าขยายการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ 5+3 เพื่อรุกตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยปัจจุบันเกรท วอลล์ มอเตอร์ เข้าไปดำเนินงานอย่างเป็นทางการใน 5 ประเทศ คือ ไทย ลาว พม่า บรูไน และมาเลเซีย เรามีแผนที่จะเปิดตัวแบรนด์ในอีก 3 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ รวมถึงผลักดันให้ประเทศไทยและโรงงานที่จังหวัดระยองเป็นศูนย์กลางของยานยนต์ไฟฟ้าและฐานการผลิตเพื่อส่งออกอย่างเต็มรูปแบบ
นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปี 2565 ที่ผ่านมา นับเป็นปีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง เรามีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการปลุกกระแสการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย การันตีด้วยการส่งมอบรถยนต์ให้กับผู้บริโภคชาวไทยไปแล้วถึง 15,318 คัน ตลอดสองปีที่ผ่านมา สำหรับปี 2565 เกรท วอลล์ มอเตอร์ ส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ HAVAL H6 Hybrid SUV, All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV, HAVAL JOLION Hybrid SUV, ORA Good Cat และ ORA Good Cat GT รวมทั้งสิ้น 11,616 คัน เติบโตขึ้นจากยอดขายปี 2564 ถึง 214 เปอร์เซ็นต์ และบริษัทฯ คาดว่าในปี 2566 ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 920,000 คัน เติบโตขึ้นประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ โดยกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ xEV จะโตขึ้นกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ หรืออยู่ที่ประมาณ 164,500 คัน โดย 25 เปอร์เซ็นต์ หรือ 40,000 คัน จะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งเติบโตเกือบ 150 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่ผ่านมา
กระแสความนิยมของ ยานยนต์ไฟฟ้า ที่เติบโตอย่างมากในปี 2566 เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับกลยุทธ์เชิงรุก 4 ด้าน ได้แก่
1. กลยุทธ์ด้านแบรนด์
เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยังคงสานต่อการยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางสำหรับการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ในหลากหลายรูปแบบ และในปีนี้จะเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ผ่านการสร้างภาพลักษณ์การเป็นแบรนด์ระดับโลก การสื่อสารความเป็นผู้นำของเทคโนโลยีอัจฉริยะ การสร้างไลฟ์สไตล์ของแบรนด์ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร และการเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ผ่านการจัดตั้ง GWM Owner’s Club และ User Committee เพื่อเป็นตัวแทนผู้ใช้รถ สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้ใช้งานอย่างแท้จริง เพื่อสร้างชุมชนผู้ใช้งานที่แข็งแกร่ง ต่อยอดการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
2. กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์
สำหรับในปี 2566 เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะขนทัพรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอีกทั้งหมด 5 รุ่น และเปิดตัวแบรนด์ใหม่อีก 1 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์พรีเมียมระดับเรือธงกับ TANK โดยผลิตภัณฑ์หลัก 3 รุ่น ในปีนี้คือ
- TANK 500 รถยนต์เอสยูวีออฟโรดขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม ดีไซน์หรูหรา สมรรถนะการขับขี่ทรงพลัง มาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ออฟโรดอัจฉริยะ ที่จะยกระดับการขับขี่และภาพลักษณ์อันหรูหราเหนือระดับ
- TANK 300 รถยนต์เอสยูวีออฟโรดสำหรับไลฟ์สไตล์อันโดดเด่น มาพร้อมดีไซน์สุดแกร่ง พร้อมสนุกในทุกการขับขี่ มอบประสบการณ์ผจญภัยให้มีสีสันในทุกวัน
- ORA Grand Cat รถไฟฟ้าสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูง มอบประสบการณ์ขับขี่แบบสปอร์ต ดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ยกระดับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในประเทศไทยไปอีกขั้น
และจะมีรถยนต์อีก 2 รุ่น ที่รอเปิดตัวภายในปี 2566 ซึ่งทั้งหมดจะเข้ามาเติมเต็มทัพรถยนต์ไฟฟ้าของเกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อขับเคลื่อนสังคม ยานยนต์ไฟฟ้า ในประเทศไทยให้ก้าวไปอีกขั้น
3. กลยุทธ์ด้านการขาย
เพื่อส่งมอบการบริการที่ครอบคลุมและสอดรับกับความหลากหลายของตลาดได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจที่มากขึ้น ในปี 2566 นี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีแผนที่จะขยายศักยภาพของงานขายใน 4 กลุ่มหลัก ประกอบไปด้วย
- ช่องทางการจัดจำหน่าย : ปัจจุบันมี GWM Store ทั้งที่เป็น Direct Store และ Partner Store ที่ได้รับการแต่งตั้งไปแล้วทั้งหมด 80 แห่ง โดยเปิดดำเนินการไปแล้ว 62 แห่ง และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 18 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ของประเทศ และในปีนี้เราตั้งเป้าจะเปิด GWM Store อีกอย่างน้อย 20 แห่ง รวมเป็น 100 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและรองรับกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- สถานีชาร์จประจุไฟฟ้า : เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าผ่านการขยายสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าสามรูปแบบได้แก่ G-Charge super charging station, G-Charge at Partner Store และ Destination charge ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในหลากหลายรูปแบบ โดยในปี 2566 ตั้งเป้าจะเปิดให้บริการสถานีชาร์จให้ครบ 55 แห่ง ทั้งนี้จะมีสถานีชาร์จที่ก่อสร้างเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการจำนวน 8 แห่ง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยสถานีชาร์จของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเป็นแบบชาร์จเร็ว (DC Charge) กำลังไฟฟ้าสูงถึง 120 กิโลวัตต์ ให้บริการ 24 ชั่วโมง ทุกวันครอบคลุมทั้งในกรุงเทพและจังหวัดสำคัญต่างๆ และพร้อมให้บริการแก่รถยนต์ไฟฟ้าทุกยี่ห้อและทุกรุ่น
- ด้านธุรกิจฟลีท : เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เริ่มต้นธุรกิจฟลีทในปี 2565 ซึ่งทำยอดขายได้กว่า 200 คัน รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากบริษัทรถเช่าชั้นนำจัดซื้อรถเพื่อนำไปปล่อยเช่าทั้งในรูปแบบบุคคลทั่วไป (B2C) และขยายสู่การจำหน่ายรถให้กับองค์กรและกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้รถยนต์จำนวนมาก (B2B) ในปี 2566 เกรท วอลล์ มอเตอร์ วางแผนขยายฐานลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมบริษัทรถเช่าอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็ก หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ และสนับสนุนกลุ่มอาชีพพิเศษ อาทิ ผู้พิพากษา ตำรวจ ทหารและข้าราชการ พร้อมจับมือพันธมิตรสร้างบัตรชาร์จไฟฟ้าเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าองค์กร และเดินหน้าขยายสถานีชาร์จเพื่อสร้างความมั่นใจให้กลุ่มลูกค้ารถเช่าระยะสั้น
- ด้านธุรกิจ Used Car : ในปี 2566 เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเปิดดำเนินการธุรกิจรถใช้แล้ว โดยให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร รองรับลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนรถและลูกค้าที่มองหารถยนต์ใช้แล้วที่มีคุณภาพของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ รวมทั้งมีบริการประเมินราคารถใช้แล้วง่ายๆ ผ่านทางเว็บไซต์ โดยมาตรฐานรถใช้แล้วของ GWM Certified Pre-Owned ประกอบไปด้วย 4 ส่วน คือ การตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐาน 219 จุด อายุรถไม่เกิน 5 ปี เลขไมล์ไม่เกิน 150,000 กิโลเมตร ไม่มีประวัติน้ำท่วม ไฟไหม้ และไม่มีประวัติชนหนัก ซึ่งมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ
- ขยายระยะเวลารับประกันตัวรถและระยะเวลาบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงเพิ่มอีก 2 ปี
- ขยายแพ็กเกจบำรุงรักษา GPSI เพิ่มอีก 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปีเต็ม
- จัดไฟแนนซ์อัตราดอกเบี้ยพิเศษ
- ฟรี บริการส่งรถถึงบ้าน
- การันตีคุณภาพ คืนเงินได้ภายใน 7 วันหรือไม่เกิน 500 กิโลเมตร หากพบว่ารถมีปัญหาคุณภาพหรือไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
4. กลยุทธ์ด้านการบริการหลังการขาย
ในช่วงระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งเป้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า 3 ด้าน
- Worry Free ขับขี่อย่างไร้กังวลกับการรับประกันคุณภาพรถใหม่ที่เป็น Best-in-class ถึง 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร การรับประกันแบตเตอรี่ ฟรี 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง สำหรับแบตเตอรี่ Hybrid และ ฟรี 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร สำหรับแบตเตอรี่ EV พร้อมแพ็กเกจการบำรุงรักษาตามระยะทางและบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (Roadside Assistant) ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่มาพร้อมกับรถใหม่ทุกคัน นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้จัดตั้ง EV Battery Rapid Team หรือหน่วยงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้คำแนะนำและตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่กรณีรถเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้บริการที่รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งได้จัดตั้ง GWM BATTERY HOTLINE CALL CENTER สายด่วนเพื่อรับแจ้งปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่และการเคลมโดยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โทร 02-668-8888 กด 4
- Convenience อำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าเมื่อต้องการใช้บริการด้านต่างๆ หลังการขาย อาทิ บริการรับ-ส่งรถยนต์ในกรณีที่ลูกค้าไม่สะดวกเดินทางมาที่ศูนย์บริการ บริการ Mobile Service ตรวจเช็กระยะตามตารางบำรุงรักษาจากนอกสถานที่ ซึ่งสามารถดำเนินการนัดหมายบน GWM Application ให้บริการด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมช่างผู้ชำนาญการเสมือนรับบริการที่ศูนย์บริการ
- Digital Service Experience ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าไปอีกขั้นด้วย GWM Smart Service ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย Smart Vehicle, Smart Application, Smart System และ Smart Device เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการนัดหมายจองนัดเข้ารับบริการผ่านทาง GWM Application เมื่อลูกค้าเข้ารับบริการ ระบบ License plate recognition system จะจดจำป้ายทะเบียนรถเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบ GWM Dealer management system ทำให้ศูนย์บริการทำความรู้จักกับลูกค้าได้ตั้งแต่ก่อนพบหน้า และทีม Service advisor จะทราบข้อมูลคำขอเข้ารับบริการในทันที โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการให้ข้อมูลอีกเพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาในการให้บริการ ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ายังสามารถติดตามสถานะการซ่อมผ่าน Vehicle status board ได้ตลอดเวลาผ่านกล้อง CCTV อีกด้วย และสุดท้ายลูกค้าสามารถดูสถานะการให้บริการ อนุมัติงานซ่อม ชำระเงิน ตรวจสอบประวัติการรับบริการ และข้อมูลการใช้จ่ายได้ทุกที่ทุกเวลาผ่าน GWM Application ซึ่งแสดงถึงความโปร่งใส จริงใจ ฉับไวในการให้บริการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง