Varuna นำเสนอเทคโนโลยีอัจฉริยะ VLM Forest ในงาน IPTC 2023
Varuna นำเสนอเทคโนโลยีอัจฉริยะ VLM Forest แพลตฟอร์มฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวของไทย เครื่องมือช่วยโลกลดคาร์บอน ในงาน IPTC 2023
จากความมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อใช้วางแผนฟื้นฟู พื้นที่สีเขียว อย่างต่อเนื่องและจริงจังนานกว่า 2 ปี วรุณา (Varuna) ผู้นำการใช้เทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) ในการวางแผนฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวยังคงก้าวต่อไปเพื่อนำเครื่องมือทรงพลัง อย่าง "VLM Forest" หรือ "VARUNA Land Monitoring Forest" เข้าร่วมโชว์ความสำเร็จในงานประชุมเทคโนโลยีปิโตรเลียมนานาชาติ IPTC 2023 พร้อมต่อยอดนำไปประยุกต์ใช้ในวงกว้างทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชน หวังตอกย้ำให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาพื้นที่สีเขียว ประเมินค่าคาร์บอนได้อย่างแม่นยำ นำไปสู่แนวทางช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อย่างสมบูรณ์
พณัญญา เจริญสวัสดิ์พงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารด้านธุรกิจ บริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการเข้าร่วมงาน IPTC 2023 ของบริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด (ARV) ภายใต้ ปตท.สผ. ว่า ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่วรุณาจะเร่งผลักดันทำให้ทุกคนตระหนักถึงการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีเพื่อสร้างความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อมให้กับโลก สอดคล้องกับแนวคิดหลักของงานนั่นคือ "Balancing the Energy Landscape through Innovation and Sustainability"
"หลังจากประสบความสำเร็จในการทำงานโครงการ OUR Khung BangKachao เพื่อบริหารจัดการพื้นที่คุ้งบางกระเจ้า ด้วยการจัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่สีเขียวแล้ว ครั้งนี้ วรุณา จึงนำเสนอเทคโนโลยีสมัยใหม่อัจฉริยะที่เกี่ยวข้องกับฟื้นฟู พื้นที่สีเขียว ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถใช้บริหารป่าไม้อย่างครบวงจร หรือ Smart Forest Solution ภายใต้ชื่อ VLM Forest หรือ VARUNA Land Monitoring Forest ให้กับผู้เข้าร่วมงานนับพันคนจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ภายในงาน IPTC 2023"
พณัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า แพลตฟอร์ม VLM Forest ของวรุณา จะวิเคราะห์และแสดงผลพื้นที่สีเขียว ทั้งพื้นที่ธรรมชาติ และพื้นที่การเกษตร โดยใช้โดรนสำรวจชนิดมัลติสเปกตรัม ในการจัดเก็บภาพพื้นที่ขนาดใหญ่ด้วยความละเอียดสูงระดับเซนติเมตร ร่วมกับการใช้ภาพถ่าย Normalized Difference Vegetation Index (NDVI) จากดาวเทียม ช่วยให้ได้ข้อมูลสภาพพื้นที่ที่มีความละเอียดและแม่นยำสูง เพื่อนำมาวิเคราะห์และประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) จนได้ฐานข้อมูลที่สมบูรณ์ ช่วยให้ผู้ใช้งานนำไปวางแผนพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่ให้สำเร็จตามเป้าหมายได้นั่นเอง
ความน่าสนใจของเทคโนโลยี "VLM Forest" นอกจากจะเป็นการประมวลผลการใช้โดรนและดาวเทียมเชื่อมโยงการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ วางแผนและบริหารจัดการ พื้นที่สีเขียว (Green Area Management) แล้ว วรุณายังได้พัฒนาต่อยอดให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ (Green Area Monitoring) อัปเดตต่อเนื่อง ช่วยมอนิเตอร์ให้เห็นชัดเจนว่า ในการลงทุนปลูกป่านั้นได้ผลที่น่าพึงพอใจเพียงไร พร้อมส่งผลประเมินความสมบูรณ์ของป่าเป็นรายปี
Varuna ยังได้สร้างสรรค์และพัฒนา VLM Forest ให้มีโซลูชันการตรวจสอบและคำนวณคาร์บอนเครดิตรูปแบบใหม่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ (Large Scale Carbon Credit Solution) ซึ่งโซลูชันนี้สะท้อนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ได้เห็นถึงโอกาสนำแพลตฟอร์มนี้ไปใช้วิเคราะห์และประเมินผลการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ Carbon Credit ขององค์กรได้อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งประโยชน์ในการช่วยตรวจจับพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดไฟป่า (Wildfire Hotspot Detection) ยังสื่อถึงศักยภาพที่ชัดเจนของ VLM Forest ในการบริหารป่าไม้อย่างครบวงจรอีกด้วย
พณัญญา กล่าวทิ้งท้ายว่า องค์กรจะได้ประโยชน์ต่อยอดจากการใช้แพลตฟอร์ม Smart Forest Solution ตั้งแต่ต้นทาง นั่นคือ การหาพื้นที่ปลูกป่า มีการวิเคราะห์ข้อมูล ติดตามผล ครบจบในแพลตฟอร์มเดียว และเป้าหมายสำคัญเราอยากให้องค์กรที่กำลังมองหาเครื่องมือที่จะช่วยเรื่องการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียว รวมทั้งองค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่อง Sustainability มี "VLM Forest" เป็นตัวช่วยสำคัญทั้งในเรื่องการให้ข้อมูลด้าน Nature Base Carbon Credit อย่างครบถ้วนเพื่อนำไปขอรับรองต่อไปได้
อีกหนึ่งไฮไลต์ของโชว์เคสครั้งนี้ วรุณายังได้นำฟีเจอร์ "ปลูกต้นไม้" บน "คันนา แอปพลิเคชัน (KANNA Application)" ที่จะชวนให้ประชาชนทุกคนสามารถทดลองวาดต้นไม้ผ่านแอปพลิเคชันในการประเมินค่าคาร์บอนพื้นที่นั้นๆ นับเป็นการสร้างความตระหนักรู้เรื่องการลดโลกร้อน เปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ด้วยการนำเทคโนโลยีไอทีที่อยู่ใกล้ตัวของทุกคน มาใช้เป็นตัวช่วยให้ทุกคนเชื่อว่า "เรื่องปลูกป่านั้นทำได้ง่าย ทำได้ทุกวัน เพื่อนำไปสู่การลดภาวะโลกร้อนและสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคป่าไม้ได้ในที่สุด"