NOSTRA LOGISTICS เผย 3 เทรนด์เทคโนโลยีขนส่งโลจิสติกส์มาแรงในปี 2566
NOSTRA LOGISTICS เผย 3 เทรนด์เทคโนโลยีขนส่งโลจิสติกส์มาแรงในปี 2566 ย้ำใช้เทคโนโลยี เสริมแกร่งบริหารจัดการโลจิสติกส์ มุ่งสร้างระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
นางวรินทร สีสุขดี ผู้อำนวยการส่วนผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ บริษัท จีไอเอส จำกัด กล่าวว่า จากรายงานแนวโน้มด้านธุรกิจในปี 2566 พบว่า อุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ทั่วโลกจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก เช่นเดียวกับสถานการณ์ในประเทศไทย คาดการณ์ว่าในปี 2565-2567 ธุรกิจบริการขนส่งสินค้าทางถนนมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 3-5 ต่อปี อย่างไรก็ตาม องค์กรธุรกิจต้องเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง และนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาปรับปรุงภาพรวมการดำเนินงานของทั้งองค์กร สำหรับด้านการบริการขนส่งและโลจิสติกส์ ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันทันสมัยเข้ามาช่วยพัฒนาและปรับปรุงการทำงานของธุรกิจได้มาก ซึ่งเทคโนโลยีที่จะมีบทบาทสำคัญต่อจากนี้จะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญคือ การเชื่อมเครือข่าย (Connect), จัดการข้อมูล (Manage) และวิเคราะห์คาดการณ์ผลลัพธ์ (Analyze & Predict) โดยจะต้องปรับปรุงระบบเทคโนโลยีการทำงานขนส่งและโลจิสติกส์ให้อยู่ภายใต้ระบบนิเวศทางเทคโนโลยีเดียวกันตลอดซัพพลายเชน (Supply Chain Technology Ecosystem) อันเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการเวลาและกิจกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นตั้งแต่ต้นทางจนปลายทาง สอดคล้องกับ 3 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ในระดับโลกในปี 2566 นี้
1. การเชื่อมเครือข่ายภายในซัพพลายเชน (Supply Chain Network Connection) การเชื่อมโยงและทำให้ทุกระบบจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย โดยใช้เทคโนโลยี Cloud ที่สามารถส่งถ่ายข้อมูลระหว่างระบบและเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา สามารถติดตามสถานะและข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ โดยระบบที่ทำงานร่วมกันจะมีความสามารถในงานขนส่งมากขึ้น เช่น การจับคู่ความสามารถของน้ำหนักการบรรทุกของรถขนส่งจากผู้ให้บริการหลายรายกับสินค้าที่จะจัดส่งในแต่ละเที่ยว การประเมินระยะเวลาการจัดส่ง การเลือกเส้นทางที่เหมาะสม การประเมินโอกาสการวิ่งรถเที่ยวกลับ เป็นต้น
2. นวัตกรรมระบบบริหารจัดการงานขนส่ง (Transportation Management System Innovation หรือ TMS) เป็นระบบบริหารจัดการงานขนส่งที่ใช้ในธุรกิจบริการขนส่งและโลจิสติกส์มานาน หัวใจสำคัญของ TMS คือการจัดการต้นทุนการขนส่ง ดังนั้นการพัฒนาระบบยังคงมุ่งเน้นการวิเคราะห์และบริหารทรัพยากรด้านการขนส่งสร้างเส้นทางการวิ่งรถแบบแวะหลายจุดส่ง และให้ข้อมูลตัวเลือกจากต้นทุนค่าขนส่งที่ต่ำกว่า สำหรับเทคโนโลยีใหม่ที่จะเข้ามาปรับปรุงความสามารถของ TMS ได้แก่
- AI เพื่อใช้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อจำกัดต่างๆ เช่น ความสามารถของการบรรทุก กฎระเบียบจราจร ชั่วโมงการขับรถ ฯลฯ ช่วยประเมินสถานการณ์พร้อมเสนอทางเลือก และวิเคราะห์ผลลัพธ์ได้แม่นยำขึ้น เช่น การประมาณเวลาที่รถขนส่งจะมาถึงปลายทาง (ETA)
- IoT การใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์และระบบจัดการการขนส่งและโลจิสติกส์แบบเรียลไทม์ ช่วยให้การบริหารธุรกิจคล่องตัวและมีประสิทธิภาพโดยการปรับปรุงระบบให้สามารถตรวจสอบและจัดการกับสินทรัพย์และยานพาหนะได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที
3. การจัดการช่วงเวลาเข้าออกของรถบรรทุกสินค้า (Time Slot Management) ถือเป็นเทรนด์ที่ได้รับความสำคัญมากขึ้นในงานขนส่ง เนื่องจากการพัฒนาระบบการทำงานที่มีข้อมูลอัปเดตช่วงเวลาเข้าออกของรถบรรทุกสินค้าจะช่วยให้สามารถจัดทรัพยากรในคลังสินค้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรถบรรทุกที่จะเข้ามาได้โดยสะดวกและรวดเร็ว เช่น ข้อมูลการประมาณเวลาที่รถจะเข้าถึงคลังสินค้า (ETA) ตำแหน่งที่จอดรถรับส่งสินค้าภายในคลังสินค้า พิกัดท่าสินค้าที่รถบรรทุกกำลังมาถึง ฯลฯ นอกจากนี้ บางธุรกิจ รถขนส่งสินค้ามีหน้าที่ส่งตรงวัตถุดิบ หรืออะไหล่เข้าสู่สายการผลิตโดยตรง ฉะนั้น เวลาในการเข้าถึงจุดส่งสินค้าจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อไม่ให้กระทบกับการผลิต อีกทั้งการใช้ระบบที่มีความสามารถในการจัดการช่วงเวลาจะสามารถลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่น เหตุฉุกเฉิน การจราจรติดขัด เหตุพลาดการนัดหมาย ด้วยระบบจะจัดเวลาการจัดส่งใหม่และแก้ไขการนัดหมาย ทำให้มีข้อมูลอัปเดตอย่างทันท่วงทีและไม่เสียเวลารอคอย
นางวรินทร กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันองค์กรต่างๆ ตระหนักถึงประโยชน์ของการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น และมองหาโซลูชันเทคโนโลยีที่สามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับองค์กร NOSTRA LOGISTICS ในฐานะเชี่ยวชาญด้านโซลูชันและแพลตฟอร์มด้านการบริหารจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์แบบครบวงจร พร้อมเดินหน้าสนับสนุนและให้บริการระบบต่างๆ ที่รองรับการทำงานขนส่งให้แก่ธุรกิจทุกขนาดอย่างครบถ้วนในที่เดียว อาทิ ระบบติดตามยานพาหนะแบบติดตั้งกล่อง GPS, ระบบติดตามพนักงานขนส่งผ่านสมาร์ทโฟนด้วย ePOD Application, เทคโนโลยีตรวจสอบแจ้งเตือนความปลอดภัยด้วยระบบ All In One, กล้อง MDVR และอุปกรณ์เทเลเมติกส์, ระบบบริหารจัดการงานขนส่งอัตโนมัติ (TMS) หรือแม้แต่ระบบจัดการงานซ่อมบำรุงผ่านสมาร์ทโฟน MMS Application ฯลฯ ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม NOSTRA LOGISTICS ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลงานขนส่งและโลจิสติกส์ และเชื่อมโยงการทำงานทุกระบบเข้าด้วยกันทั้งภายในและภายนอกองค์กร เช่น ระบบ EMS, WMS หรือระบบ GPS Tracking จากหลากหลายผู้ให้บริการ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ คาดการณ์ และนำเสนอทางเลือก ตลอดจนสรุปรายงานพร้อมแดชบอร์ดแสดงผลที่เข้าใจง่าย พร้อมใช้งาน
"NOSTRA LOGISTICS พร้อมเดินหน้าการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการบริหารการขนส่งและโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมุ่งศึกษาและนำนวัตกรรมสมัยใหม่มาปรับปรุงพัฒนาความสามารถของระบบให้ทันสมัย รวมทั้งการหาแนวทางปิด pain point สนับสนุนการแก้ปัญหาโดยใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบโจทย์การทำงานภาคธุรกิจอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมเป้าหมายที่จะสร้างให้เกิดความยั่งยืนในภาพอุตสาหกรรมองค์รวมต่อไป" นางวรินทร กล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลอ้างอิงเทรนด์เทคโนโลยีโลจิสติกส์ ปี 2566 จาก Forbes