สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เปิดตัวรางวัล Creative Excellence Awards
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เปิดตัวรางวัล
Creative Excellence Awards มุ่งยกระดับศักยภาพนักสร้างสรรค์ไทยทุกมิติ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดตัว “รางวัลความเป็นเลิศทางความคิดสร้างสรรค์ (Creative Excellence Awards หรือ CE Awards)” ครั้งแรกกับการมอบรางวัลให้ นักสร้างสรรค์ตัวจริงในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมบุคคล ชุมชน ผู้ประกอบการ หน่วยงาน องค์กร หรือสถาบัน ต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการ เครื่องมือ หรือกระบวนการ โดยนำความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) มาประยุกต์ใช้ในการสร้างให้เกิดคุณค่า (Value Creation) ที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือสิ่งแวดล้อมเพื่อต่อยอดไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศ โดยงานประกาศรางวัล จะจัดขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ณ สามย่าน มิตรทาวน์ ฮอลล์ ชั้น 5 สามย่าน มิตรทาวน์ กรุงเทพฯ
ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ได้กล่าวถึงที่มาของรางวัลความเป็นเลิศทางความคิดสร้างสรรค์ (Creative Excellence Awards หรือ CE Awards) ว่า ภารกิจของ CEA ประกอบด้วย 3 มิติหลัก ไม่ว่าจะเป็นการการพัฒนาย่าน/เมืองสร้างสรรค์ ธุรกิจสร้างสรรค์ และนักสร้างสรรค์ ซึ่งทั้งหมดล้วนยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมและธุรกิจสร้างสรรค์ ที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงรอบด้านไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับนานาชาติได้”
“รางวัลความเป็นเลิศทางความคิดสร้างสรรค์ (Creative Excellence Awards หรือ CE Awards) จึงเป็นรางวัลที่ทาง CEA มีความตั้งใจที่จะเชิดชูความสามารถของบุคคล องค์กร หรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้นำกระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างให้เกิดคุณค่า และเกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือสิ่งแวดล้อม ทั้งยังต่อยอดไปสู่การเติบโตของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมพลังใจ กระตุ้นศักยภาพของนักสร้างสรรค์ไทยได้มีความภาคภูมิใจ รวมถึงเป็นแบบอย่างในการถ่ายทอดผลงานที่จะก่อเกิดประโยชน์ในวงกว้าง ตลอดจนเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปได้”
ด้านนายพิชิต วีรังคบุตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ให้รายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับรางวัล Creative Excellence Awards หรือ CE Awards จะมีด้วยกันทั้งหมด 15 รางวัล แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1) Creative City Awards รางวัลการพัฒนาย่าน สถานที่ชุมชน หรือเมือง รวมทั้งกิจกรรมที่ดึงเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวของย่าน ผู้คน หรือธุรกิจดั้งเดิม ผสานกับความคิดสร้างสรรค์หรือนวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและพัฒนาให้ตอบโจทย์คนในพื้นที่และผู้มาเยือนในมิติต่าง ๆ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ และความยั่งยืน
2) Creative Business Awards ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ทั้ง Sustainability Awards เป็นรางวัลสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการ หรือ โครงการ ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบ และกระบวนการผลิต ที่เน้นความยั่งยืนอีกทั้งคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำความคิดสร้างสรรค์มาใช้เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืน และ Value Creation Awards รางวัลของการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างคุณค่าเพิ่มในเชิงธุรกิจ ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ หรือโครงการ โดยเป็นการผสมผสานระหว่างมิติทางเศรษฐกิจและมิติความยั่งยืนอย่างลงตัว
3) Creative Social Impact Awards รางวัลสำหรับการนำความคิดสร้างสรรค์ไปประยุกต์ใช้ เพื่อแก้ไขหรือคลี่คลายประเด็นต่าง ๆ ทางสังคม (Social) อีกทั้งช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้นให้น้อยลง
“กระบวนการคัดสรรผู้ที่จะได้รับรางวัลจะผ่านการเฟ้นหาอย่างเข้มข้น ประกอบไปด้วย 3ขั้นตอน ได้แก่ 1) Nomination การใช้เครื่องมือ Social Listening จาก Mandala AI Ecosystem ในการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล และคัดเลือกกลั่นกรองผลงานโดยคณะกรรมการจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง 2) In / Out Expert Panel การตัดสินผลงานที่ผ่านเกณฑ์โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญที่คร่ำหวอดในวงการสร้างสรรค์ เพื่อหาผลงานที่ผ่านการคัดเลือกสู่รอบสุดท้าย และ 3) Discussion & Vote Expert Panel การตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ มา พูดคุยแลกเปลี่ยน เพื่อคัดเลือกผลงานที่ได้รับรางวัลในแต่ละสาขา หลังจากผลงานผ่านรอบ In/ Out” นายพิชิต กล่าว
โดยหลักเกณฑ์การตัดสินจะต้องเป็นผลงานที่คิดค้นโดยคนไทย หรือมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลงาน และจะต้องเป็นผลงานใหม่ (1-3 ปี) และก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงบวกในสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ผลงานต้องไม่ละเมิดลิขสิทธิ์
นอกจากนี้ รางวัล CE Awards จัดได้ว่าเป็นรางวัลแรกที่มีการใช้ Data จากเครื่องมือSocial Listening -ของ Mandala AI ที่เข้ามาช่วยประเมินผลและวิเคราะห์ข้อมูลจากประชาชนทั่วไป มาใช้ตัวช่วยในการคัดเลือก
โดย นางสาวชนิดา พูลบัณฑิตย์ Chief Operating Officer บริษัท โอเชี่ยน สกาย เน็ตเวิร์ค จำกัด ผู้สร้างแพลตฟอร์ม Mandala AI ได้กล่าวว่า “ทางบริษัทฯรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับทาง CEA ในการใช้เครื่องมือ Mandala AI มาประมวลผลข้อมูล โดยเครื่องมือดังกล่าวเป็นตัวช่วยยืนยันเรื่องความถูกต้องของข้อมูล อีกทั้งยังสามารถติดตามผลเรื่องของEngagementต่างๆที่เกิดขึ้นในประเด็นต่าง ๆ ได้ ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ ยังช่วยเป็นการขยายการรับรู้ว่าจริง ๆ แล้ว Social Listening Tool สามารถนำไปใช้กับงานสร้างสรรค์ได้และสายงานอื่น ๆ ได้อย่างแพร่หลายไม่ได้เพียงจำกัดแค่งานด้านการตลาดเพียงเท่านั้น
“สำหรับรางวัล CE Awards จะเป็นเครื่องการันตีรับรองความโดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนสร้างมูลค่าและความแตกต่างให้บุคคล หน่วยงาน และองค์กรที่ได้รับรางวัล รวมถึง ยกระดับเส้นทางการทำงานในวงการสร้างสรรค์ให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย โดยเติมเต็มช่องว่างให้กับผลงานอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และต่อยอดไปสู่ระดับนานาชาติได้ ทั้งยังเป็นแบบอย่าง และแนวทาง ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักสร้างสรรค์คนอื่นที่จะได้พัฒนาตัวเองเพื่อนำเสนอผลงานที่มุ่งสร้างความยั่งยืนอย่างสร้างสรรค์ให้กับประเทศต่อไป” ดร. ชาคริต กล่าวปิดท้าย
การประกาศรางวัล Creative Excellence Awards หรือ CE Awards จะจัดขึ้นภายใต้งานCreative Business Connext ในวันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 17.30 - 20.00 น. ชั้น 5 สามย่าน มิตรทาวน์ กรุงเทพฯ